“พาทั้งสองคนไปที่ถนนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากข้า ก่อนอื่นเจ้าควรคิดว่าเจ้าจะอธิบายเรื่องนี้กับเสด็จพ่อเสด็จแม่อย่างไรเมื่อเจ้ากลับเข้าวัง” หรงเยี่ยพูดอย่างจริงจังด้วยใบหน้าเย็นชา
หลวนอี๋หน้ามุ่ยและมองไปที่ไป๋ชิงหลิงด้วยความรู้สึกผิด
ไป๋ชงเซิงวิ่งเหยาะๆ ทิ้งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของหรงเยว่ กอดเอวหรงเยว่แล้วพูดว่า "ท่านพ่อ ท่านกังวลเรื่องท่านแม่หรือไม่"
หรงเยี่ยสูดลมหายใจหนักๆทางจมูก มองลงไปที่ร่างเล็กๆ ในอ้อมแขน ยกมือขึ้นแล้ววางบนหัวของเซิงเออร์เบาๆ
ไป๋ชงเซิงโอบแขนของเขา ส่วนเขาก็กอดเด็กน้อยไว้บนตักของเขา และพูดด้วยเสียงต่ำและนุ่มนวล"ถ้าเจ้ากลัวมากก็ร้องออกมาเถอะ"
“ข้าไม่กลัว” ไป๋ชงเซิงซบตัวอยู่ในอ้อมแขนของหรงเยี่ย มองดูไป๋ชิงหลิงที่ยืนอยู่ข้างๆ “เมื่อตอนที่ข้าเห็นท่านแม่ถูกขังอยู่ในกรง หัวใจของข้าหวาดหลัวจนแทบจะกระดอนออกมา ท่านแม่น่ะ พื่อปกป้องข้ากับเสด็จป้า นางถึงกับยอมให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ข้ากลัวมากในตอนนั้น ข้าเอาแต่ร้องหาเสด็จพ่อ ข้าหวังว่าท่านพ่อจะช่วยท่านแม่ได้!"
อืม……
หรงเยี่ยตกตะลึง
ความโกรธที่สะสมอยู่ในใจส่วนใหญ่ก็มลายหายไป
เขาเงยหน้าขึ้นมองไป๋ชิงหลิง รู้สึกเหมือนมีหนามติดอยู่ในคอของเขาและพูดว่า"ไปกันเถอะ กลับไปที่จวนติ้งเป่ยโหวก่อน"
“ทำไมถึงต้องกลับไปที่จวนติ้งเป่ยโหวด้วย?” ไป๋ชงเซิงถามอย่างงงงวย “ท่านไม่ต้องการท่านแม่แล้วหรือ?”
"ไม่ใช่"
"แล้วทำไมเราถึงต้องกลับไปที่จวนติ้งเป่ยโหวด้วย" ไป๋ชงเซิงรู้สึกว่านี่ไม่ค่อยปกติ
ติ้งเป่ยโหวที่ยืนอยู่ข้างหลังหรงเยี่ยอย่างเงียบๆ ก็รู้สึกถึงสิ่งไม่ปกติเช่นกัน
หรงเยี่ยใช้นิ้วที่เรียวยาวสางผมที่ยุ่งเหยิงของไป๋ชานเชิงเบาๆ และพูดว่า "ข้าสัญญากับเสด็จแม่ของเจ้าว่าจะพานางกลับไปที่ตระกูลมารดาของนางในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ข้าส่งน้องชายของเจ้าไปที่จวนติ้งเป่ยโหวแล้ว เขาจะรอเราอยู่ในจวนติ้งเป่ยโหว"
ร่างกายของไป๋ชิงหลิงสั่นเล็กน้อย และมีอารมณ์ที่หลากหลายพวยพุ่งอยู่ในใจของนาง...
เขามองเข้าไปในดวงตาของนางและพูดกับเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน"ดูว่าเสด็จแม่ของเจ้าอยากกลับจวนเมื่อใด แล้วค่อยกลับไปด้วยกัน"
หลังจากพูด หรงเยี่ยก็กอดไป๋ชงเชิง หันหลังกลับและไปที่รถม้า
เมื่อเห็นท่าทีของหรง เย่ติ้งเป่ยโหวก็เดินไปหาไป๋ชิงหลิงด้วยใบหน้ากังวล "เจาเสวี่ย ท่านอ๋อง..."
“ข้ารู้ เขาโกรธที่ข้าไม่บอกเขาเกี่ยวกับข้อความนั้น”
"กังวลมากขึ้นแล้ว"ติ้งเป่ยโหวกล่าว
หลวนอี๋เข้ามากอดแขนของ ไป๋ชิงหลิงและพูดว่า "พี่สะใภ้เจ็ด ไม่ต้องกังวล พี่ เจ็ดเกลี้ยกล่อมได้ง่าย"
“องค์หญิง ท่านควรกลับวังไปก่อน”
ทันทีที่นางได้ยินว่า "กลับวัง" สีหน้าของหลวนอี๋ก็บูดบึ้ง
ไป๋ชิงหลิงจัดแจงหาคนพาหลวนอี้กลับไปที่วัง และนางก็ขึ้นรถม้าของหรงเยี่ยและกลับไปที่จวนติงเป่ยโหว
ระหว่างทาง หรงเยี่ยยังคงอุ้มไป๋ชงเชิงไว้ในอ้อมแขนของเขา และยังคงไม่พูดกับไป๋ชิงหลิง
เมื่อพวกเขามาถึงจวนติ้งเป่ยโหว กลุ่มหมอหลวงก็กำลังรออยู่ที่จวนติ้งเป่ยโหวและจักรพรรดิเหยาและฮองเฮาก็รออยู่ข้างนอกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...