ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 47

ฝ่ามือของหรงฉี่ค้างอยู่ในอากาศ การแสดงออกของสีหน้าของเขากระตุกเล็กน้อย และหัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความโกรธที่เดือดพล่าน

เขาแทบเกือบจะกระอักเลือดออกมาต่อหน้าของทุกคน

เหตุใดหรงเยี่ยถึงเป็นคนไร้ยางอายเช่นนี้

แท้ที่จริงแล้วเขาต่างหากที่เป็นคนฆ่าคนราวกับมด ตอนที่แทงดาบไปที่ผู้หญิง เขาไม่แม้แต่จะกะพริบตาด้วยซ้ำ แต่กลับมาขอให้เขาสอนเรื่องการตบตีผู้หญิง!

หรงฉี่สะบัดแขนของตัวเองอย่างแรงและตะโกนออกไปด้วยความโกรธ "เจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร?"

"มาดูเรื่องสนุกน่ะสิ!" หรงเยี่ยมองไปบนฟ้า

เห็นได้ชัดว่าฝนซาลงแล้ว และเมฆสีดำบนท้องฟ้าก็ค่อยๆ จางลง

เขายืนแกว่งแส้ในมือซึ่งอยู่ไม่ไกลจากไป๋ชิงหลิงเท่าไรนัก จากนั้นหัวเราะออกมา "ข้างนอกต่างกำลังร้องเพลงบอกเพลงหนึ่ง ข้ารีบเข้ามาโดยเฉพาะ ไม่รู้ว่ายังพอจะร่วมสนุกได้หรือไม่ เพลงบอกนั้นร้องเช่นนี้!"

ใบหน้าที่หล่อเหลาของหรงฉี่กระตุกเล็กน้อย

หรงเยี่ยค่อยๆ ท่องออกมา "ท่านอ๋องไม่มีทายาทสืบสกุล พระชายาของเขาลักพาตัวเด็กไปเพื่อแอบอ้างเปลี่ยนตัวองค์รัชทายาท แต่กลับต้องถูกจับเข้าคุกไปอย่างคาดไม่ถึง......"

หลังจากไป๋ชิงหลิงฟังที่เขาท่องจบก็รู้สึกร่างกายแข็งทื่อเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ให้ชิงจู๋แพร่ออกไปได้เผยแพร่ออกไปแล้ว แม้แต่ท่านอ๋องหรงก็ท่องได้

จากนั้นเขากลับท่องต่อไปอีก "พระสนมเอกหรงต้องการปกปิดและโยนความผิดให้กับผู้บริสุทธิ์"

ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้วและแอบพูดออกมา "ข้าไม่ได้เพิ่มประโยคนี้เข้าไป ใครเป็นคนเพิ่ม?"

นางเหลือบมองหรงเยี่ย และพอจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นในใจ

"ข้าเพียงแค่มาดูว่าเสด็จแม่หรงได้โกรธแค้นผู้บริสุทธิ์คนไหน ที่แท้ก็เป็นแม่ของเด็กคนนั้น" น้ำเสียงของหรงเยี่ยเต็มไปด้วยการดูถูก

ทุกคนต่างดูออกว่าหรงเยี่ยกำลังเยาะเย้ยพระสนมเอกหรงและท่านอ๋องต้วน

นางกำนัลที่คอยติดตามท่านอ๋องต้วนแทบจะเป็นลม เพราะเกรงว่าท่านอ๋องทั้งสองจะทะเลาะกันที่นี่ และทำให้ตำหนักลี่อี๋ต้องพังทลายลง

ทว่าหลังจากที่หรงฉี่ฟังเพลงบอกที่เขาท่องออกมาจนจบ เขาได้ยกนิ้วขึ้นและชี้ไปที่หรงเยี่ย ก่อนจะตะโกนออกไปด้วยความโกรธ "ข้างนอกจะแพร่เพลงบอกเช่นนี้ได้อย่างไร เจ้าเป็นคนทำใช่หรือไม่"

"อืม อาจจะเป็นเช่นนั้น......" หรงเยี่ยเลิกคิ้ว "อาจจะไม่ใช่ก็ได้!"

ไป๋ชิงหลิงเงยหน้าขึ้นมองหรงเยี่ย

พอดีกับที่หรงเยี่ยก็กำลังจ้องมองนาง "ตอนนี้พวกท่านเตรียมวางแผนจะฆ่านางอย่างไร ก็รีบจัดการได้เลย จากนั้นข้าค่อยพาเสด็จแม่หรงกลับไปพูดคุยกันที่คุก ปิดบังการกระทำผิด มีโทษขั้นร้ายแรงสูงสุด"

"หรงเยี่ย เจ้ากล้า" หรงฉี่โกรธจนแทบกระโดด "เจ้ากล้าแตะต้องเสด็จแม่ของข้าก็ลองดู วันนี้ผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางได้ออกไปแน่นอน ข้าบอกว่านางผิดก็คือผิด ส่งคนมาที่นี่ ลากตัวผู้หญิงคนนี้ไปโบย ข้าไม่มีทางเชื่อหรอกว่าไม่สามารถทำอะไรนางได้"

องครักษ์สองคนกำลังเดินเข้ามาที่ไป๋ชิงหลิง จากนั้นแม่นมกวนได้รีบวิ่งออกมาจากตำหนักลี่อี๋และห้ามไว้ "ท่านอ๋องต้วนเพคะ ทำเช่นนั้นไม่ได้ ทำเช่นนั้นไม่ได้เพคะ พระสนมเอกเชิญแม่นางไป๋เข้าไปภายในเพคะ"

หรงฉี่ขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ "เหตุใดท่านแม่ต้องเชิญนางเข้าไป? นางใส่ร้ายจิ่นเอ๋อร์ ทำให้จิ่นเอ๋อร์ต้องเข้าคุก เสด็จแม่สับสนอะไรหรือไม่"

แม่นมกวนหัวเราะแห้ง "พระสนมกล่าวว่า แม่นางไป๋เป็นแขก จึงจำเป็นต้องเชิญนางเข้าไปนั่งเพคะ"

สีหน้าของหรงฉี่ทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด เขากำหมัดแน่นและกล่าวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ "เสด็จแม่มีสถานะสูงศักดิ์ จะรับเอาคนที่มีจิตใจชั่วร้ายเช่นนี้เป็นแขกได้อย่างไร"

ไป๋ชิงหลิงเลิกคิ้วขึ้น และเกือบจะหัวเราะออกมากับคำพูดของเขา

คนที่มีจิตใจชั่วร้าย

เขาลืมเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนไปสนิทเลยหรือว่าได้ทำอะไรกับคนรักคนเดิมที่ชื่อไป๋ชิงหลิงของตัวเองอย่างไร

เขาฆ่าลูกที่อยู่ในท้องของนางอย่างไร หากไม่ใช่เป็นเพราะนางผ่าท้องเพื่อเอาเด็กออกมา นางคงเกือบตายไปอีกครั้ง

คนที่ฆ่าคนอื่นกลับด่านางว่าเป็นผู้ร้ายฆ่าคน ไม่รู้สึกขยะแขยงบ้างเลยหรือ!

"ท่านอ๋องต้วนชมกันเกินไปแล้ว เมื่อเทียบกับความชั่วช้าจิตใจต่ำทรามของบางคนแล้ว ข้าน้อยไม่อาจเทียบได้ เมื่อพูดเช่นนี้แล้ว ข้าน้อยก็ควรเอาเรื่องคนที่ลักพาตัวลูกของข้าน้อยไปให้ถึงที่สุด และใช้บทลงโทษขั้นสูงสุด สับ นิ้ว มือ ทั้ง สิบ นิ้ว ของ นาง ไม่เช่นนั้นแล้ว คงไม่เหมาะสมกับคำยกย่องชื่นชมที่ท่านอ๋องต้วนมอบให้ข้าน้อย"

นางกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ

หรงฉี่กำลังจะคำรามด้วยความโกรธที่เดือดพล่าน เขาจ้องนางตาเขม็ง ทว่าไป๋ชิงหลิงกลับเดินผ่านเขาไปโดยไม่สนใจ......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น