นางรีบเปิดกล่องยา และแน่นอนว่ามีผลไม้ขนาดเท่าฝ่ามืออยู่ข้างใน
ดูเหมือนนกฟีนิกซ์ตัวหนึ่ง โดยทั้งตัวมีสีแดงเพลิง
ดังนั้น นางจึงเข้าใจว่าเลือดฟีนิกซ์...คือน้ำของผลฟีนิกซ์ ขนของฟีนิกซ์คือใบไม้ของผลฟีนิกซ์ และเกล็ดมังกร...คือหัวใจและจิตวิญญาณของบุคคล
และที่หมอซูเคยบอกว่าเลือดมนุษย์ใช้เป็นยาได้ อาจเป็นเพราะผลฟีนิกซ์ถูกรดน้ำด้วยเลือดมนุษย์ ซึ่งทำให้ยามีกลิ่นคล้ายเลือด...
ดวงตาของไป๋ชิงหลิงปกคลุมไปด้วยหมอก และทันใดนั้นนางหันกลับมามองที่หน้าต่างเล็ก ๆ ด้านหลังรถม้า
นางเห็นเพียงแคว้นหนึ่งแคว้น พระราชวังของแคว้นเฉินจมอยู่ในเมืองน้อยใหญ่ และแบบนี้นางมองไม่เห็นพระราชวังของแคว้นเฉินอีกต่อไป และนางไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับหยางสวี่อี้ที่ใช้เลือดของเขาเพื่อปลูกผลไม้ฟีนิกซ์...
นางรู้สึกเหมือนมีหนามแหลมอยู่ในลำคอของนาง
หยางสวี่อี้...เจ้างี่เง่า ทำไมไม่บอกข้า?
ในเวลานี้ นางรู้สึกว่าแขนของนางถูกใครบางคนกระตุก
เมื่อไป๋ชิงหลิงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง กู้เฉิงวั่งเป็นผู้ดึงแขนเสื้อของนาง เมื่อเขาเห็นนางมองกลับมาที่เขา เขาจึงปล่อยมือ
ไป๋ชิงหลิงกล่าวว่า "ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของเจ้า เราพบวัตถุดิบยาทั้งหมดแล้ว ไปเถอะ... กลับไปที่แคว้นหรงกัน"
"อาเหลียน นำองครักษ์เหยี่ยวดำสองสามตัวติดตัวไปด้วยล่วงหน้า พาอวิ๋นเซียงและอวิ๋นเยว่กลับไปก่อน และฝังพวกนางอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้มีข่าวรั่วไหลออกไป"
"พระชายา เกี่ยวกับอวิ๋นเซียงอวิ๋นเยว่ เมื่อกระหม่อมกลับไปยังเมืองหลวง กระหม่อมจะบอกท่านอ๋อง และฝ่าบาทจะไม่มีทางปล่อยจินจื่อเสวียนไปอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!" อิงเหลียนกล่าว
ไป๋ชิงหลิงพูดอย่างเคร่งขรึม "ข้าที่ขายหน้าไปเช่นนี้ ข้าต้องกู้หน้ากลับมาให้ได้ ไม่จำเป็นต้องให้พวกเจ้าออกหน้าแทนข้าหรอก เขา... ยุ่งมาก!"
ยุ่ง!
ใช่!
ถ้าไม่ใช่เพราะเขายุ่ง อวิ๋นเซียงและอวิ๋นเยว่คงไม่รอฝ่าบาท มาโดยตลอดเพราะนาง
นางและหรงเยี่ยเป็นฆาตกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อการเสียชีวิตของอวิ๋นเซียงอวิ๋นเยว่ และไม่มีใครสามารถหลบเลี่ยงความรับผิดชอบได้
ไป๋ชิงหลิงปิดม่านลง แล้วพูดว่า "ไปกันเถอะ!"
ปีนี้หิมะในแคว้นหรงตกหนักเป็นพิเศษ ผู้คนที่อาศัยพืชผลเพื่อความอยู่รอดถูกอาหารแช่แข็งจนตาย
จำนวนธัญพืชในร้านค้าในเมืองเล็ก ๆ บางแห่งถูกกวาดล้างโดยคนธรรมดาทั่วไป
มีหิมะตกอยู่ทุกหนทุกแห่ง และพ่อค้าไม่สามารถออกจากเมืองเพื่อซื้อสินค้าได้ ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีอาหารและอดอยากจนตาย
แต่สิ่งที่ไป๋ชิงหลิงไม่รู้ก็คือ ระหว่างทางกลับ ถนนที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งได้ถูกจัดการแล้วหนึ่งวันก่อนหน้านี้
นางกลับเข้าสู่เมืองหลวงอย่างราบรื่นและปลอดภัย
แต่วันนี้ มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในเมืองหลวง
ผู้คนมารวมตัวกันที่ถนน และผู้คนต่างเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออก
ไป๋ชิงหลิงตื่นตระหนกทันทีเมื่อนางนึกถึงท่านแม่ของนางที่ยังอยู่ในคุก และท่านพ่อของนางที่ถูกจักรพรรดิเหยาพาเข้ามาในพระราชวัง
"ไปดูสิว่าเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า?" ไป๋ชิงหลิงกล่าว
อิงเหลียนหายตัวไปท่ามกลางฝูงชน แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขากลับมาพร้อมลูกสองคน ตามมาด้วยหงเหนียง
ไป๋ชิงหลิงตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อนางเห็นไป๋ชงเซิงและหรงจิ่งหลิน
เด็กทั้งสองรีบไปที่หน้าต่างรถม้า วางมือบนหน้าต่าง แล้วตะโกนว่า "เสด็จแม่..."
"เสด็จแม่"
"ท่านมาจากไหน พวกข้าคิดว่าเสด็จแม่ไม่ต้องการเราอีกต่อไปแล้ว" ลูกทั้งสองร้องพร้อมกัน และถามคำถามนี้พร้อมกัน
ไป๋ชิงหลิงจับมือพวกเขา แล้วพูดว่า "ขึ้นมาเร็วเข้า"
หงเหนียงเข้ามากอดไป๋ชิงหลิง ไป๋ชิงหลิงพูดว่า "หงเหนียง ขึ้นมาด้วยสิ ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า"
"เพคะ"
หลังจากที่หงเหนียงนำเด็กสองคนขึ้นรถม้าแล้ว นางจึงขึ้นรถม้าไปด้วย
เด็กสองคนโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของนาง และกอดร่างกายของนางแน่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...