บทที่ 842 เซี่ยซานมีปฏิกิริยาบางอย่างผิดปกติ – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 842 เซี่ยซานมีปฏิกิริยาบางอย่างผิดปกติ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เมื่อหรงเยี่ยส่งไป๋ชิงหลิงกลับไปที่ศาลาชิงหลิง ก็เห็นหรงเฉินยืนอยู่ที่ลานบ้านพร้อมกับสาวใช้คนหนึ่ง
แม่นมหยางเดินเข้ามา แล้วพูดว่า :“ พระสนม ท่านอ๋งเฉินบอกว่าจะให้เซี่ยซานพักอยู่ที่ลานบ้านของเรา หม่อมฉันอยากถามว่า พระสนมยังต้องการสาวใช้หรือไม่ ถ้าไม่ต้องการ หม่อมฉันก็จะส่งนางไปอยู่ที่อื่น”
“เซี่ยซาน?” ไป๋ชิงหลิงเหลือบมองเซี่ยนซาน และรู้สึกคุ้นเคย
เมื่อเธอมองนางอีกครั้ง ในที่สุดเธอก็จำนางได้
“เซี่ยซาน ทำไมเจ้าถึงติดตามท่านอ๋องเฉิน เจ้าไม่ได้ติดตามคุณหนูของเจ้าไปจวนตระกูลฉินเหรอ?”
เซี่ยซานเดินไปข้างหน้า คุกเข่าลงกับพื้น น้ำตาคลอและพูดว่า :“คุณหนูให้ข้าน้อยติดตามท่านอ๋องเฉิน ให้ท่านอ๋องเฉินส่งข้าน้อยเข้าเมืองหลวงเพื่อมาหาพระสนมไป๋”
“เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูของเจ้าหรือเปล่า?” ไป๋ชิงหลิงถามกลับ
หรงเยี่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วทันที เขารู้หมดแล้วว่า คุณชายใหญ่ตระกูลฉินทำอะไรกับเซี่ยซานบ้าง
เซี่ยซานเงยหน้าขึ้นมองท่านอ๋องเฉินทั้งน้ำตา จากนั้นก็ก้มหน้าลง แล้วพูดว่า :“คุณชายต้องการให้ข้าเป็นนางสนมของเขา”
“อะไรนะ?” คราวนี้ไป๋ชิงหลิงเป็นฝ่ายขมวดคิ้ว
เซี่ยซานเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ไป๋ชิงหลิงฟัง รวมถึง........
“หลังจากที่คุณหนูของข้าถูกโจรค่ายไป๋หูจับตัวไป นางก็ตั้งครรภ์ สามีของนางไม่รู้ที่ไปที่มาของเด็กในท้อง เขาจึงรู้สึกอึดอัดใจ ต้องการให้ข้าน้อยเป็นนางสนมของเขาเพื่อให้คุณหนูโกรธ แต่ข้าน้อยไม่ยินยอม และขู่จะฆ่าตัวตาย คนตระกูลฉินจึงยอมปล่อยข้าน้อย”
“แต่คุณหนูเกรงว่าคนตระกูลฉินจะฆ่าข้าน้อยตอนที่นางไม่ทันตั้งตัว นางจึงให้องครักษ์ลับจำนวนครึ่งหนึ่งพาข้าน้อยไปหาท่านอ๋องเฉินที่เมืองชี และให้ข้าน้อยมาเมืองหลวงเพื่อขอลี้ภัยกับพระสนมไป๋”
หลังจากพูดจบ เซี่ยซานก็หยิบจดหมายที่เขียนโดยฉางเล่อเหยียนออกมาจากกระเป๋าสัมภาระของเธอ
ไป๋ชิงหลิงเอื้อมมือไปรับจดหมาย และเปิดอ่าน
ข้อความข้างต้นฉางเล่อเหยียนหวังว่าไป๋ชิงหลิงจะรับเซี่ยซานไว้ ด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความถ่อมตน ข้อความนั้นช่างบีบคั้นหัวใจยิ่งนัก
ความประทับใจแรกที่เธอมีต่อฉางเล่อเหยียนคือนางเป็นคนที่มีความมั่นใจและกล้าแสดงออก ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เธอกลับรู้สึกถึงความเศร้าและความยากลำบากจากจดหมายของนาง
“นางลำบากหรือเปล่า?” ไป๋ชิงหลิงลดสายตามองไปที่เซี่ยซาน
ในที่สุดเซี่ยซานก็กลั้นไม่อยู่ และร้องไห้ :“ตอนแรกคุณชายปฏิบัติต่อคุณหนูดีมาก แต่หลังจากที่คุณชายถูกโจรตีขาจนได้รับบาดเจ็บ และคุณหนูกลับมาจากข้างนอกเพียงลำพัง อารมณ์ของคุณชายก็เริ่มรุนแรงมากขึ้น และก็ไม่ทำดีกับคุณหนูเหมือนก่อน”
คำพูดเหล่านี้ของเซี่ยซาน ล้วนพูดให้ท่านอ๋องเฉินฟัง
เธอไม่รู้ว่าท่านอ๋องเฉินจะฟังเข้าใจหรือไม่
หากเขาฟังเข้าใจ ท่านอ๋องเฉินก็ควรไปรับคุณหนูกลับมา ไม่ว่าอย่างไร คุณหนูก็ตั้งครรภ์สายเลือดของเขา
ไป๋ชิงหลิงไม่เคยคิดเลยว่า เด็กในครรภ์ของฉางเล่อเหยียน จะเป็นลูกของหรงเฉิน
อย่างไรก็ตามแต่นางก็แต่งงานเข้าตระกูลฉินหลายเดือนแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ในเวลานี้นางจะตั้งครรภ์ลูกของคุณชายใหญ่ตระกูลฉิน
“เจ้าลุกขึ้นก่อน พักที่ศาลาชิงหลิงเถอะ” ไป๋ชิงหลิงกล่าว
“ขอบคุณพระสนมไป๋” เซี่ยซานเช็ดน้ำตาและลุกขึ้น
หรงเยี่ยอุ้มไป๋ชิงหลิงเข้าไปในบ้าน แต่หรงเฉินยังคงไม่จากไป
ขณะที่ลี่ว์อีกำลังเตรียมตัวพาเซี่ยซานออกไป หรงเฉินก็เรียกนางไว้ :“เซี่ยซาน!”
เซี่ยซานหยุดฝีเท้าเล็กน้อย หันกลับมาแล้วทำความเคารพ
“คุณหนูของเจ้า.......”
“ท่านอ๋องเฉิน เด็กในท้องของคุณหนูอายุได้สามถึงสี่เดือนแล้ว และไม่รู้ว่าจะสามารถรักษาไว้ได้หรือไม่ เพราะคุณชายฉินก็เกิดความระแวงมาก”
หรงเฉินสำลักในลำคอ
เขาสามารถทำอะไรเพื่อนางได้บ้าง?
“ไม่มีทาง ตระกูลฉินจะฆ่าสายเลือดของตัวเองได้อย่างไร”
เมื่อเซี่ยซานได้ยินสิ่งนี้ ร่างกายของเธอก็สั่นเล็กน้อย และมองเขาด้วยความตกใจ
ท่านอ๋องเฉินไม่รู้ว่านั่นคือลูกของเขาเหรอ?
“แล้ว.......แล้ว........”
นางกำนัลอีกคน ถืออ่างที่เต็มไปด้วยเลือดออกมาอีกครั้ง
สีหน้าของหรงเฉินเปลี่ยนไปเพราะความตกใจ :“เลือดเหล่านี้........”
ฮองเฮาเต๋อเงยหน้าขึ้น และโบกมือเบาๆ เพื่อหยุดไม่ให้หรงเฉินถามอีก
หรงเฉินรีบหุบปากทันทีแล้วพูดว่า :“หมอเทวดาซูอยู่ข้างในหรือเปล่า?”
เสี่ยวเก๋อจื่อมองไปที่หรงเยี่ยอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าหรงเยี่ยไม่มีกะจิตกะใจจะตอบ เขาจึงตอบแทนว่า :“หมอเทวดาซูกำลังถอนพิษให้กับซื่อจื่อ”
เมื่อหรงเฉินได้ยินสิ่งนี้ เขาก็สำลักในลำคอ และไม่รู้ว่าจะปลอบใจพี่เจ็ดของเขาอย่างไรดี
เขารู้ว่า ตอนนี้หน้าของหรงเยี่ยดูสงบ แต่จริงๆแล้วในใจของเขาสับสนและว้าวุ่น อยากที่จะทรมานแทนผู้หญิงที่อยู่ข้างใน
ในขณะนี้ หรงเยี่ยก็ลุกขึ้นยืน และเดินเข้าไปข้างใน เสี่ยวเก๋อจื่อรีบห้ามไว้ :“องค์รัชทายาท อย่าทำเช่นนี้เด็ดขาด!”
“หลีกไป ข้าจะเข้าไป”
“แพทย์หญิงอีได้กำชับไว้ ว่าข้างในเป็นห้องปลอดเชื้อ ห้ามใครบุกเข้าไปเด็ดขาด รวมถึงองค์รัชทายาทด้วย มิฉะนั้น จะทำให้พระสนมไป๋ได้รับอันตรายระหว่างผ่าตัด” เสี่ยวเก๋อจื่อคุกเข่าต่อหน้าเขา แล้วพูดจาเกลี้ยกล่อม
หรงเยี่ยหันกลับมา และเห็นนางกำนัลถือน้ำอุ่นเข้ามาอีกครั้ง เขาเอื้อมมือไปคว้าเสื้อของนางกำนัล :“พระสนมไป๋เป็นอย่างไรบ้าง?”
นางกำนัลตกใจมากจนอ่างน้ำในมือของนางตกลงบนพื้น กระเด็นใส่เสื้อผ้าของหรงเยี่ยจนเปียก จากนั้นนางก็คุกเข่าลงกับพื้นแล้วพูดว่า :“กราบ.....กราบทูลองค์รัชทายาท เลือดของพระสนมไป๋.......ห้าม.......ไม่สามารถห้ามเลือดได้ เหล่าแพทย์หญิงกำลังช่วยให้เลือดกับพระสนมไป๋”
“ไปเอาชุดปลอดเชื้อมาให้ข้า ข้าจะเข้าไป” เขารอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
นางกำนัลเก็บอ่างน้ำ แล้วรีบคลานออกไปจากห้องโถง
ณ ตอนนี้ ไม่มีใครกล้าขัดขวางหรงเยี่ยไม่ให้เข้าไป
ขณะที่หรงเยี่ยไปเปลี่ยนเสื้อผ้า นางกำนังคนหนึ่งก้มหน้า ถืออ่างน้ำในมือและรีบเดินเข้าไปในห้องโถงด้านใน
ฮองเฮาเต๋อเงยหน้าขึ้นมองร่างของนางกำนัล ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคุ้นเคยกับท่าทางของนางกำนัลคนนี้..........
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...