ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 870

ฉางเล่อเหยียนยังคงอยู่ในภาวะตกตะลึง ในขณะที่เปลวไฟกำลังพุ่งเข้ามา แต่ไป๋ชิงหลิงได้กระชับมือของนาง และพานางเข้าไปในห้วงมิติเวลา

ขณะที่ฉินซานหลิงพาคนของนางไปที่บ้านตระกูลฉิน เรือนของฉินหย่วนอี้ก็ถูกไฟไหม้ทั้งหมดแล้ว

“คุณหนู ไฟไหม้แล้ว!” เหอเจินสาวใช้ข้างกายของฉินซานหลิงคว้าแขนของเจ้านายตัวเองไว้

ฉินซานหลิงก้าวไปข้างหน้าสองก้าว สาวใช้ก็ดึงนางแน่นขึ้น :“คุณหนู ท่านเข้าไปไม่ได้ ไฟไหม้แล้ว”

“ฮองเฮาอยู่ข้างใน พวกเจ้ารีบ.......รีบไปตามคนมาช่วย ไปตามคน มาดับไฟ!” ฉินซานหลิงใช้แรงผลักเหอเจินออก และตะโกนออกไปอย่างเสียงดัง

ฝ่าบาทยังรอให้ฮองเฮาไปช่วยเขา

นางจะตายไม่ได้

“มาเร็วเข้า รีบดับไฟ!” ฉินซานหลิงหันกลับมา คว้าและพูดกับคนที่เดินผ่าน

เพื่อนบ้านใกล้เคียงรีบหยิบถังที่สามารถใส่น้ำได้ แล้วราดไปที่บ้านตระกูลฉิน แต่ไฟได้ลุกไหม้ขึ้นแล้ว

สิ่งที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้ ก็คือป้องกันไม่ให้ไฟลามไปบ้านหลังอื่น

เหอเจินคว้าแขนของฉินซานหลิงไว้แน่นแล้วพูดว่า :“คุณหนู พวกเรารีบกลับเถอะ คุณชายหรงรอคุณหนูอยู่”

ทันใดนั้นฉินซานหลิงก็สะดุ้งขึ้นมา :“ใช่ เขายังรอข้าอยู่”

หาฮองเฮาไม่เจอ เธอก็ไม่สามารถรออยู่ที่นี่ได้ บางทีถ้าฮองเฮาเสียชีวิตในกองเพลิงแล้วล่ะ

เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ ในใจของฉินซานหลิงก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก........

ถ้านางเสียชีวิตในกองเพลิงจริงๆ เธอก็ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป ว่าฮองเฮาจะยอมให้เธอเข้าวังหรือไม่ จะยอมให้เธอร่วมรับใช้ฝ่าบาทหรือไม่

จากนี้ไปหรงเยี่ยก็จะเป็นของเธอเดียว

เธอจะดูแลเขาและอบรมเลี้ยงดูลูกชายของฮองเฮา ราวกับลูกของตัวเองอย่างสุดใจ

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการช่วยฝ่าบาท

“เหอเจิน เจ่รีบไปบ้านท่านยาย แล้วรีบเชิญหมอหลวงเจินมา!”

หมอหลวงเจินเกษียณมาสามปีแล้ว และได้ถูกครอบครัวของท่านตาเธอว่าจ้าง ให้เป็นหมอประจำตระกูล เพื่อดูแลสุขภาพให้กับท่านยายของเธอ

ฉินซานหลิงมองดูบ้านที่ถูกไฟไหม้ท่วมทั้งหลัง หันหลังกลับและจากไป โดยไม่มีการลังเลใดๆ

หวู่ซือหลิงเดินออกมาจากฝูงชน มองร่างของฉินซานหลิงที่จากไปอย่างเร่งรีบ นางก็ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา

นางไม่เชื่อว่า ในเวลานี้ฉินซานหลิงจะไม่มีความคิดที่จะแทนที่ฮองเฮาหมิงเจิน

มนุษย์ย่อมมีความโลภ

ตราบใดที่มีความโลภ แล้วจะสามารถควบคุมตัวเองได้อย่างไร?

หลังจากที่ร่างของฉินซานหลิงหายลับไป หวู่ซือหลิงก็สวมหมวกที่มีผ้าคลุมและพูดว่า :“ไปจากเมืองจิงโจว ยิ่งเร็วยิ่งดี!”

ในตอนกลางคืน บ้านตระกูลฉินกลายเป็นซากปรักหักพัง

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังรวบรวมศพผู้เสียชีวิต

ไป๋ชิงหลิงพาฉางเล่อเหยียนออกมาจากหวงมิติเวลา เลี่ยงเจ้าหน้าที่เหล่านั้น และไปที่โรงเตี๊ยมที่นัดกับหรงเยี่ยไว้อย่างเงียบๆ

หลังจากกลับมาถึงห้องที่โรงเตี๊ยม ใบหน้าของฉางเล่อเหยียนก็ซีดมาก

“ใครต้องการฆ่าพวกเรา?”

“เจ้าดูไม่ออกเหรอ!” ไป๋ชิงหลิงหรี่ตา แล้วพูดว่า :“ฉินหย่วนอี้ และแม่สามีของเจ้า ก็ดี........เจ้าก็ฉวยโอกาสนี้เกิดใหม่ซะ”

หัวใจของฉางเล่อเหยียนเต้นแรงสองสามครั้ง และมองไป๋ชิงหลิงด้วยความประหลาดใจ :“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“ภรรยาของฉินหย่วนอี้เสียชีวิตในกองเพลิง เจ้า.......ตอนนี้คือน้องสาวญาติห่างๆของข้าชื่อไป๋เหยียน เด็กในท้องของเจ้า คือลูกที่มีกับท่านอ๋องเซ่อเจิ้งตอนอยู่ที่เมืองชี ตอนนี้ครอบครัวเจ้าตกต่ำ ไม่มีทางเลือก จึงมาขอความช่วยเหลือจากข้า ข้าจึงช่วยตัดสินใจแทนเจ้า ให้เจ้าแต่งงานกับท่านอ๋องเซ่อเจิ้ง อย่างถูกทำนองคลองธรรม!”

หัวใจของฉางเล่อเหยียนเริ่มเต้นระรัวหนักกว่าเดิม :“จะเป็นไปได้เหรอ ท่านอ๋องเซ่อเจิ้งเขา.......”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น