“เอ๋อ…” แม่นมซ่งตะลึงอีกครั้ง
เมื่อเห็นเธอยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว หยุนหยินจึงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า: "แม่นมซ่ง ฮองเฮาคิดถึงองค์รัชทายาท หรือว่าต้องขอความคิดเห็นจากแม่นมซ่งก่อนถึงจะสามารถให้องค์รัชทายาทใสอยู่ด้วยได้"
แม่นมซ่งกลับมามีสติอีกครั้งและสะดุ้ง: "บ่าวไม่กล้า องค์รัชทายาทเป็นลูกของฮองเฮา ดังนั้นแน่นอนว่าเขาจะสามารถอยู่ทานข้าวที่ตำหนักเฟิงอี้ได้"
“แม่นมซ่งอยู่ในวังมาหลายสิบปีแล้วแม้จะไม่มีเกียรติยศแต่ก็ทำงานหนักเช่นกัน หากฮองเฮาอยากให้แม่นมซ่งพักผ่อนและพักฟื้นสักสองสามวันละก็ งั้นช่วงนี้แม่นมซ่งก็ไม่ต้องยุ่งกังวลเรื่องขององค์รัชทายาท ฮองเฮาต้องการให้องค์รัชทายาทและองค์หญิงอยู่เป็นเพื่อนสองสามวัน แม่นมซ่งลงไปก่อนได้เลย” หยุนหยินเอาท่าทีนางกำนัลใหญ่ออกมา ทำให้แม่นมซ่งไม่มีทางที่จะปฎิเสธิได้
แม่นมซ่งมองดูองค์รัชทายาทแล้วคำนับอย่างสุภาพและพูดว่า: "พะยะค่ะ!"
หลังจากที่แม่นมซ่งจากไปแล้ว หรงจิ่งหลินก็สูบหายใจเข้าลึกๆ คว้ามือของไป๋ชิงหลิงทันที และเรียกอย่างมีความสุขว่า: "เสด็จแม่ ข้าสามารถอยู่ในตำหนักเฟิงอี้ได้จริงๆใช่ไหม"
“ข้าคิดว่าเเม่นมซ่งจะต้องไปฟ้องให้เสด็จพ่อ เสด็จพ่อจะต้องไม่เห็นด้วยกับที่เจ้าจะอยู่ในตำหนักเฟิงอี้ แต่ข้านั้นต่างออกไป ข้าเป็นเด็กผู้หญิง ข้าสามารถอยู่ในตำหนักเสด็จแม่ได้ และข้ายังสามารถนอนกอดเสด็จแม่ได้!”
ร่างกายของหรงจิ่งหลิ่นติดอยู่กับไป๋ชิงหลิงและเขาก็จับแขนของไป๋ชิงหลิง ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ดูพึงพอใจ
หูของหรงจิ่งหลินกระตุกสองสามครั้งทันที สีหน้าของเขาดูเศร้าหมอง
ไป๋ชิงหลิงเหลือบมองเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: "ไม่หรอกนะ เสด็จพ่อของเจ้านั้นฟังคำพูดของข้า!"
ทันใดนั้นเด็กก็เงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาของเขาค่อยๆ เป็นกลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว
ไป๋ชิงหลิงพาลูกสองคนของเธอกลับไปที่ตำหนักเฟิงอี้ แต่ก่อนที่เธอจะก้าวเข้าสู่ตำหนักเฟิงอี้ วั่นฝู๋ก็รีบเดินเข้ามาจากด้านนอก
ไป๋ชิงหลิงหยุดและถามว่า "มีเรื่องอะไร"
วั่นฝู๋ตอบว่า: "นางสนม เป็นคนจากตระกูลสวี่ที่ต้องการพบไทเฮา บ่าวบังเอิญผ่านและเจอผู้คุมที่ประตูพระราชวัง ผู้คุมบอกข้าเรื่องนี้ และข้าก็หยุดพวกเขาไว้ ก็เลยมาถามคำคิดเห็นของนางสนมว่าจะให้ตระกูลสวี่จากไปหรือว่า…”
“คนจากตระกูลสวี่?” ไป๋ชิงหลิงหันกลับมาด้วยรอยยิ้มที่มีความหมายบนริมฝีปากของเธอ: "พวกเขาไม่รู้หรือว่าวันนี้ข้าได้กลับวังแล้ว"
“คาดว่ายังไม่รู้ ดูเหมือนว่าตระกูลสวี่กำลังมีปัญหาจริงๆ ว่ากันว่านายผู้เฒ่าสวี่ป่วยหนักและต้องการพบไทเฮา!” วั่นฝู๋ กล่าว
“เหอะ ข้ออ้างนี้อีกแล้ว ข้าจะไปพบพวกเขาดู” ไป๋ชิงหลิงก้มหัวลงแล้วมองดูเด็กน้อยทั้งสองแล้วพูดว่า “กลับไปที่ตำหนักก่อน ท่านแม่มีเรื่องต้องทำ พวกเจ้ากลับไปรอท่านแม่นะ"
เด็กน้อยทั้งสองพยักหน้า
ไป๋ชิงหลิงกลับไปเปลี่ยนชุดเฟิ่งเผา แต่งกายอย่างงดงาม จากนั้นจึงออกจากตำหนักไป
สำหรับสมาชิกในตระกูลสวี่ ไป๋ชิงหลิงได้ให้พวกเขาจากไปตั้งนานแล้ว
ดังนั้น เมื่อไป๋ชิงหลิงออกจากวัง เธอจึงไม่เห็นคนตระกูลสวี่เลย
และคนในตระกูลสวี่ก็ไม่รู้ด้วยว่าไป่ชิงหลิงจะไปตระกูลสวี่
เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ รู้ว่าคนของเธอถูกสั่งกลับมาโดยฮองเฮาใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีดำราวกับว่าโดนหมึกสาดหน้า เธอกัดฟัน และพูดอย่างโกรธว่า: "ฮองเฮานี้หมายถึงอะไร? ข้าส่งคนไปที่วังเพื่อเชิญไทเฮา และขอให้ไทเฮาเสด็จกลับบ้านมาพบพ่อของเธอสักหน่อย หากฮองเฮาต้องการจะหยุด ฮองเฮาไม่กลัวที่จะถูกประชาชนดุว่าเป็นคนเนรคุณ ไม่ซื่อสัตย์และไม่ยุติธรรมหรือไง!”
นางหลิวปาดน้ำตาแล้วกล่าวว่า "ลูกสะใภ้ยืนรออยู่นอกประตูพระราชวังเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็ม แต่ก็ถูกไล่กลับด้วยประโยคเดียว ฮองเฮาช่างหยิ่งผยองมาก ข้าไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจของฮองเฮาหรือความตั้งใจของไทเฮาเอง แม้ว่าเธอจะไม่ชอบตระกูลสวี่แต่ยังไงแล้วตระกูลสวี่ก็ยังเป้นบ้านโดยกำเนิดของไทเฮานี้!”
นางเจิ้งเหลือบมองนางหลิวและไม่ได้พูดอะไร
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ รู้สึกโกรธเคืองกับคำพูดของนางหลิว "ข้าจะไปที่นั่นด้วยตัวเอง ข้าจะดูว่าหากข้าคุกเข่าตายอยู่ในประตูวัง ราชวงค์จะเผชิญหน้ากับประชาชนยังไง"
ในเวลานี้ ก็มีเสียงมาจากภายนอก: "ฮองเฮาเสด็จ——"
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ ไม่ตอบสนองอยู่ชั่วขณะ ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า: "เมื่อกี้เสียงอะไรนะ?"
ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าสวี่เปลี่ยนไปด้วยความตกใจ และเธอก็โพล่งออกมาว่า: “ไม่ ไม่… ไม่เป็นไร!”
"หืม!" ไป๋ชิงหลิงเลิกคิ้วอย่างสงสัย: "ไหนบอกนายู้เฒ่าสวี่ไม่สบายไม่ใช่หรือ พวกเจ้าขอให้ไทเฮาเสด็จมา แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ หมอหลวงข้างๆข้านั้นเป็นหมอหลวงที่เก่งเป็นอันดับต้นๆของวังเลย ในวัง ในเมื่อหมอตระกูลสวี่ไม่สามารถรักษาอาการของนายผู้เฒ่าสวี่ได้ งั้นก็ให้หมอหลวงตรวจดู มีอะไรที่ไม่สะดวกหรือ?”
เมื่อพูดถึงตอนหลังๆ ก็มีความสงสัยในดวงตาของไป๋ชิงหลิง
แน่นอน เธอกำลังถามฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ว่าทำไมเธอถึงไม่ปล่อยให้หมอหลวงตรวจดู หรือมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่กลอกตาไปมาสองสามครั้ง จากนั้นเธอก็มองย้อนกลับไปที่นางเจิ้ง ลูกสะใภ้คนที่สามของเธอ
ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ชอบเล่นกลสกปรก แต่หลังจากถูกจับได้เธอก็ทำอะไรไม่ถูก และสุดท้ายต้องให้คนอื่นมารับผิดแทนเธอ
ลูกสะใภ้หลายคนข้างล่างมักจะหวาดกลัวการขู่ของฮูหยินผู้เฒ่าสวี่อยู่เสมอ
และไป๋ชิงหลิงก็ดูออกทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติกับฮูหยินผู้เฒ่าสวี่และยังเห็นว่าเมื่อกี้ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่กำลังแอบจ้องไปที่นางเจิ้ง
มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อยอย่างสงบ: "ข้าได้ยินมาว่าตอนที่ข้าไม่อยู่ ไทเฮาเสด็จมาที่ตระกูลสวี่ เดิมที่ท่านต้องการมาเยี่ยมนายผู้เฒ่าสวี่แค่ฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ขวางไทเฮาไว้นอกบ้าน ไม่อนุญาตให้ไทเฮาเสด็จเข้าเยี่ยม!”
ร่างกายฮูยินผู้เฒ่าสวี่ เกร็งและคุกเข่าลงทันทีด้วยความหวาดกลัวว่า: "ไม่ใช่อย่างนั้นพะยะค่ะ ฮองเฮา ไม่มีเรื่องแบบนี้แน่ๆ ที่ข้าไม่อนุญาตให้ไทเฮาเข้าเยี่ยมนายชราเพราะกลัวว่าอาการป่วยของนายชราจะจิดไปให้ไทเฮา”
ลูกสะใภ้หลายคนก็หวาดกลัวและคุกเข่าลงเช่นกัน
นางเจิ้งรีบตอบอย่างรวดเร็วว่า “ใช่ ใช่ พะยะค่ะ พวกข้าไม่มีเจตนาอย่างยิ่งที่จะไม่ยอมให้ไทเฮาเสด็จเยี่ยมพ่อตา ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่า... เพราะหมอในจวนบอกว่าพ่อตามีอาการไอรุนแรงและอาจติดเชื้อได้ และอยากสั่งให้แม่ยายของบ่าวนั้นไปเยี่ยมพ่แตายให้น้อยลง ตอนที่ไทเฮาเสด็จมานั้นเป็นช่วงที่พ่อตาแ่วยหนักที่สุด แม่ยายจะกล้าไม่ให้ไทฌอาเข้าเยี่ยมได้อย่างไร หากไทเฮาติดโรคไปจะไปทำร้ายร่างกายไทเฮา นั่นจะเป็นอันตรายต่อไทเฮาไม่ใช่หรือ?”
ไป๋ชิงหลิงแอบยิ้ม: นางเจิ้งคนนี้ช่างเป็นคนที่เลือกพูดแต่เรื่องดีๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...