สรุปตอน บทที่ 98 เสิ่นโหรวเม่ยควบคุมตัวเองไม่อยู่ – จากเรื่อง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา
ตอน บทที่ 98 เสิ่นโหรวเม่ยควบคุมตัวเองไม่อยู่ ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดยนักเขียน พระจันทร์ขี้เมา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ยาระงับประสาทในมือของไป๋ชิงหลิงถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายของฮูหยินเสิ่นทันที
ฮูหยินเสิ่นจ้องเข็มที่ปักอยู่ที่แขนด้วยสายตาตื่นตะลึง อารมณ์ที่เดือดพล่านของนางค่อยๆสงบลง จนผล็อยหลับไปในที่สุด
เหล่าหมอหญิงเห็นดังนั้นก็ตกใจ รีบเข้าไปประคองฮูหยินเสิ่น แล้วเอ่ยถามขึ้น “หมอหญิงไป๋ ท่านฉีดสิ่งใดให้ฮูหยินเสิ่น เหตุใดนางจึงสลบไป”
“ไม่ต้องกังวล นางเพียงแค่หลับไปชั่วครู่เท่านั้น พวกเจ้ารีบพาฮูหยินเสิ่นออกไปเสีย แล้วขอแรงอีกสองคนมาช่วยกันจับคุณหนูเสิ่นเอาไว้” ไป๋ชิงหลิงโยนเข็มฉีดยาในมือทิ้ง พลางแอบบ่นเบาๆ : สิ้นเปลืองไปหนึ่งเข็ม
สิ่งนี้นับว่าราคาสูงเลยทีเดียว แม้ว่าสิ่งของในห้วงมิติเวลาของนางจะสามารถสร้างใหม่ได้อีก แต่นางก็จำเป็นต้องช่วยเหลือผู้คนต่อไป
หากเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูง เช่นนั้น คนไข้ที่นางจะต้องรักษาก็ยิ่งมากขึ้น
ยาระงับประสาทนี้ไม่ใช่ยากล่อมประสาทธรรมดาทั่วไป แต่กลับต้องมาสิ้นเปลืองไปกับฮูหยินเสิ่น
เมื่อบรรดาหมอหญิงได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงหลิง จึงพาฮูหยินเสิ่นกลับห้องนอนได้อย่างคลายใจ
แต่ทางด้านเสิ่นโหรวเม่ยกลับอาละวาดขึ้นมาเนื่องจากการหมดสติอย่างกะทันหันของฮูหยินเสิ่น หมอหญิงหลายคนเริ่มจับนางเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
นางแผดเสียงคำรามด้วยจิตใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ใส่ไป๋ชิงหลิง “ไป๋เจาเสวี่ย เจ้าฆ่าแม่ของข้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ ฮองเฮาเป็นเสด็จป้าของข้า นางจะต้องฆ่าเจ้าเพื่อชดใช้ชีวิตให้แม่ของข้า”
ไป๋ชิงหลิงหยิบยากล่อมประสาทอันใหม่ เดินมาที่ตรงหน้าของเสิ่นโหรวเม่ย
นางค่อยๆ ดันเข็มในมือของนาง ยาหยดหนึ่งพุ่งออกมาจากปลายเข็ม
เสิ่นโหรวเม่ยตาเบิกโพลงและถอยหนีด้วยความหวาดกลัว เธอกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก “อย่าฆ่าข้าเลย ข้าจะไม่ไปแย่งอ๋องหรงกับเจ้าอีกแล้ว ท่านอ๋องจะสมรสกับใคร ข้าก็จะไม่ยุ่งอีก หากเจ้าฆ่าข้า เจ้าก็จะไม่รอดเช่นกัน”
บาดแผลจากแส้ที่หรงเยี่ยประทับไว้ให้นางช่างรุนแรงเหลือเกิน
เมื่อเสิ่นโหรวเม่ยเห็นไป๋ชิงหลิง ก็จะนึกถึงหรงเยี่ย
เมื่อไป๋ชิงหลิงได้เชือกมา ก็ให้คนย้ายฮูหยินเสิ่นจากเก้าอี้นวมไปที่เตียง และย้ายเสิ่นโหรวเม่ยไปที่เก้าอี้นวมแทน จากนั้นจึงนำเชือกมัดไปที่มือ สะโพก และขาของเสิ่นโหรวเม่ยให้ยึดติดอยู่กับเก้าอี้นวมอย่างแน่นหนา
เก้าอี้นวมตัวนั้นยาวเพียงพอสำหรับคนหนึ่งคน และเชือกเส้นนั้นก็ยาวพอที่จะมัดให้แน่นได้
เมื่อมัดเสร็จ เหล่าหมอหญิงต่างรู้สึกไม่สบายใจ พวกนางเกรงว่าเมื่อฮูหยินเสิ่นฟื้นขึ้นมาเห็นคุณหนูเสิ่นถูกมัดไว้ทั้งตัว นางจะต้องอาละวาดขึ้นมาอีกแน่นอน
และแล้ว เวลาผ่านไปสามชั่วยาม เมื่อฮูหยินเสิ่นตื่นขึ้นและเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น นางแผดเสียงอย่างดุร้าย “ไป๋เจาเสวี่ย เจ้าจับลูกสาวของข้ามัดเยี่ยงนักโทษ เด็กๆ เข้ามาเดี๋ยวนี้”
ไป๋ชิงหลิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “ฮูหยิน ท่านกำลังเรียกคนเข้ามาดูสภาพคุณหนูเสิ่นที่กำลังป่วยแบบนี้ ข้ารับรองได้เลยว่าพรุ่งนี้จะต้องมีเสียงซุบซิบนินทาว่าคุณหนูเสิ่นเสียสติไปแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นข้าหรือท่านที่ทำร้ายคุณหนูเสิ่นกันแน่!
ในใจของฮูหยินเสิ่นสั่นสะท้าน และในเวลานี้เอง เสิ่นโหรวเม่ยก็ได้สติขึ้นมา
แต่คำพูดแรกของนางที่เอ่ยเมื่อฟื้นขึ้นมาก็คือ “ท่านแม่ ท่านรีบหนีไป ท่านอ๋องหรงจะฆ่าพวกเรา...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...