บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1031

บทที่ 1031 ค่าหัว

บทที่ 1031 ค่าหัว

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นอันดับของตนอย่างชัดเจน ก่อนที่มุมปากของชายหนุ่มจะยกขึ้นนิด ๆ จนดูแปลก ๆ

แต่สุดท้ายเขาก็ยิ้มพลางส่ายหัว ก่อนจะหันหลังกลับและจากไป

เฉินซีตั้งใจจะไปตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายมิติระหว่างทวีป ในเวลาเดียวกันเขาก็ต้องการขายศิลากำเนิดวิญญาณครามที่ครอบครองบางส่วนออกไป เพื่อดูว่าตนสามารถแลกเปลี่ยนกับวัตถุดิบเซียนบางอย่างที่ใช้ในการขัดเกลายันต์ศัสตราได้หรือไม่

ไม่นานหลังจากที่เฉินซีจากไป เซียนที่ยืนอยู่หน้ากำแพงลอยแห่งแสง จู่ ๆ ก็ร้องขึ้น “เฮ้ ดูชื่อนั้นเร็วเข้า มันเพิ่มระดับขึ้นเร็วมาก!”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกไป ความสนใจของทุกคนก็ถูกดึงไปในทันที ทุกคนต่างมองไปรอบ ๆ จากนั้นพวกเขาก็เห็นว่า ที่ด้านล่างของกำแพงมีแสงสีทองพร่างพราวสว่างวาบกำลังขยับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยการสลัดทิ้งชื่อแล้วชื่อเล่าไว้ด้านหลัง

“สวรรค์! ชื่อนี้ดูเหมือนจะไม่เคยอยู่ในพันอันดับแรก ข้าศึกษาการเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปสันติบูรพามาหลายปี แต่ข้าไม่เคยเห็นชื่อนี้มาก่อนเลย!”

“เฉินซี? สหายผู้นี้คือใคร? เขามาจากนิกายไหน?”

“สวรรค์! เขาขึ้นไปสู่ห้าร้อยอันดับแรกแล้ว!”

ฉากนี้ทำให้ฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ เกิดความโกลาหลในทันที พวกเขาทั้งหมดเบิกตากว้าง จ้องมองไปยังแสงสีทองพร่างพราวอย่างจดจ่อ ด้วยความประหลาดใจและสับสนในดวงตา เพราะพวกเขารู้สึกไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้

นี่เป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง เพราะทวีปสันติบูรพานั้นกว้างใหญ่ และมีดินนแดนในครอบครองถึงแปดหมื่นหกพันเมือง สิ่งมีชีวิตมากมาย นิกายต่าง ๆ มีมากมายดุจดั่งต้นไม้ในป่าใหญ่ ในขณะที่ผู้เยี่ยมยุทธ์เองก็มีมากมายเหมือนเมฆบนท้องฟ้า เมืองรัศมีเมฆานี้ก็เป็นเพียงหนึ่งในเมืองของทวีปนี้เท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่ราชันเซียนลิ่นฮ่าวออกหมายจับเฉินซีนั้นเป็นสิ่งที่ผู้เยี่ยมยุทธ์ใต้บังคับบัญชาของราชันเซียนเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลที่ชื่อของเฉินซีจะไม่คุ้นเคยสำหรับพวกเขา

ความไม่คุ้นเคยก็บ่งบอกถึงความไม่รู้เช่นกัน

เซียนทั้งหมดที่ยืนอยู่หน้ากำแพงล้วนเติบโตขึ้นในทวีปนี้ และพวกเขาทราบอย่างชัดเจนว่าในบรรดาผู้เยี่ยมยุทธ์พันอันดับแรกในเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีป ทั้งหมดนั้นต่างก็เป็นศิษย์หรือลูกหลานจากขุมกำลังต่าง ๆ และไม่ค่อยมีผู้บ่มเพาะอิสระหรือคนแปลกหน้าปรากฏขึ้นบนอยู่นั้น

ตัวอย่างเช่น หลินซิงหุนอยู่ในอันดับแรกนั้นมาจากตำหนักราชันเซียน อวี่เหวินฉงอันดับที่สองมาจากตระกูลเก่าแก่ของทวีปสันติบูรพา อย่างตระกูลอวี่เหวิน และอันดับอื่น ๆ

แต่ตอนนี้ ชื่อที่ไม่คุ้นเคยได้ปรากฏขึ้นจริงในเทียบจัดอันดับ ไม่เพียงแต่จะถูกจัดอยู่ในพันอันดับแรกเท่านั้น ทว่ามันยังพุ่งเข้าสู่ห้าร้อยอันดับแรกได้ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ไม่น่าแปลกใจได้อย่างไร?

“ใครจะรู้? ยามนี้ชื่อของเขาเข้าสู่สามร้อยอันดับแรกแล้ว และหากตัดสินจากที่เห็น มันก็ยังไม่แสดงทีท่าว่าจะหยุดลงเลย ข้าไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าชื่อของเขาจะไปหยุดอยู่ในตำแหน่งใด”

“มันแปลก แปลกจริง ๆ เป็นไปได้ไหมว่าเซียนอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบคนใหม่ ได้ปรากฏตัวขึ้นมาจากหนึ่งในมหาอำนาจของทวีปสันติบูรพา? ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย?”

“ผ่านมาหลายปีแล้ว ในที่สุดชื่อที่ไม่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้น! นี่เป็นปรากฏการณ์ที่หายากยิ่ง บางทีเราอาจได้เห็นปาฏิหาริย์ในวันนี้!”

ทุกคนพูดคุยกันด้วยเสียงต่ำและแสดงสีหน้าตื่นเต้น

เมื่อเวลาผ่านไป แสงสีทองที่เป็นตัวแทนของชื่อของเฉินซี ก็ยังคงเพิ่มขึ้นด้วยความเร็วที่คงที่ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น สับสน และงุนงง ก่อนที่ทั้งหมดนี้จะแปรเปลี่ยนเป็นความตกใจจนพูดไม่ออก

บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาแต่เดิมกลับเงียบสงบลงทันที เงียบสงัด

สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่แสงสีทองที่สาดส่องขึ้น พวกเขากลั้นหายใจลุ้น ราวกับกลุ่มนักพนันที่รอให้ผลเดิมพันถูกเปิดเผยอย่างใจจดใจจ่อ

ในที่สุดชื่อนี้ก็หยุดลงที่อันดับที่ 127 และไม่ขยับไปไหนอีก

ตำแหน่งนี้อยู่เหนือกว่าเซียนหรานจิง ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 128 และเป็นศูนย์กลางของความสนใจก่อนหน้านี้เสียอีก…

เมื่อเห็นสิ่งนี้ บรรยากาศที่เงียบสงบก็ปะทุขึ้นแปรเป็นความโกลาหล คลื่นเสียงจอแจดังขึ้นไปทั่วท้องฟ้า

“127! เขาเอาชนะคนกว่าแปดร้อยคนในเทียบจัดอันดับด้วยเวลาเพียงชั่วพริบตา!”

“บัดซบ! นี่ข้าตาพร่ามัวอยู่หรือไม่? ก่อนหน้านี้เซียนหรานจิงผู้เคยอยู่ในอันดับที่ 338 และวันนี้นางก็เพิ่งพุ่งเข้าสู่อันดับที่ 138 ไป”

“สหายผู้นี้คือใครกัน? ช่างเป็นคนที่น่าตกใจยิ่ง”

“เฉินซี… เป็นไปได้ไหมว่าสหายผู้นี้เป็นศิษย์ของตำหนักราชันเซียน?”

“ตำหนักราชันเซียน? เป็นไปได้มากทีเดียว ข้าจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน หลินซิงหุนจากตำหนักราชันเซียนเอง ก็พุ่งเข้าสู่ร้อยอันดับแรกในวันเดียวเช่นกัน หลังจากนั้นพยายามฝึกฝนอย่างหนักนับสิบปี เขาก็ได้ครอบครองอันดับแรกมาจนถึงปัจจุบัน และเป็นเวลากว่าสามสิบปีมาแล้วนับแต่นั้น แม้ว่าเฉินซีจะด้อยกว่าหลินซิงหุนเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ด้อยกว่ามากนัก”

“เป็นไปไม่ได้!”

ในเวลาเดียวกัน หญิงสาวคนหนึ่งผู้มีแก้มสีดอกกุหลาบ และเสน่ห์เย้ายวนใจร้อนแรงในชุดคลุมภูตไฟ ก็เดินออกจากฝูงชนมาหยุดเบื้องหน้ากำแพงลอยแห่งแสง นางจ้องไปที่ชื่อของเฉินซี ในขณะที่ริมฝีปากของนางแยกออกเล็กน้อย พร้อมสีหน้าไม่เชื่อสายตา

“ท่านเซียนหรานจิง!” ฝูงชนจดจำผู้หญิงคนนั้นได้ทันที โกลาหลเกิดขึ้นราวกับว่าพวกเขาไม่คาดคิดว่าบุคคลอัจฉริยะที่มีชื่อในเทียบจัดอันดับจะปรากฏตัวขึ้นที่นี่

ในเมืองรัศมีเมฆานี้ นิกายรัศมีเมฆานับเป็นนิกายที่มีชื่อเสียงมากยิ่ง และในบรรดาศิษย์ของนิกายรัศมีเมฆานั้น หรานจิงก็เป็นหนึ่งในศิษย์ที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ไม่เพียงแค่นางมีพรสวรรค์แต่กำเนิดที่ไม่ธรรมดาเท่านั้น นางยังก้าวจากขอบเขตเซียนสวรรค์สู่ขอบเขตเซียนลึกลับในเวลาเพียงสามสิบกว่าปีเท่านั้น ยิ่งกว่านั้น หรานจิงยังเป็นสาวงามที่มีเสน่ห์ในหัวใจของชายหนุ่มจำนวนนับไม่ถ้วนของเมืองรัศมีเมฆา ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่หญิงผู้มีทั้งการบ่มเพาะและความงามจะไม่เป็นที่รู้จักของทุกคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]