บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1067

บทที่ 1067 เพลงหมัดเทวะจตุรทิศ

บทที่ 1067 เพลงหมัดเทวะจตุรทิศ

ทั้งสองพุ่งปะทะกันอีกครั้ง

โดยครั้งนี้ต่างฝ่ายต่างใช้พลังอย่างเต็มที่ ฝ่ามือของทั้งสองเต็มไปด้วยพลังแห่งกฎ และการต่อสู้ก็ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ

เฉินซีฟาดฝ่ามือด้วยพลังอันน่าเกรงขาม กฎแห่งหยินหยางถูกใช้ออกมาด้วยเคล็ดวิชาลึกล้ำ ไม่ว่าจะเป็นปราณกระบี่ พลังฝ่ามือ หรือพลังหมัด พวกมันผสมผสานด้วยเคล็ดวิชาต่าง ๆ อย่างฝ่ามือหมื่นคลื่นใต้พิภพ เคล็ดกระบี่ฝังวิญญาณบงการนภา เพลงหมัดมหาทำลายล้าง เป็นต้น

พวกมันถูกซัดออกไปทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง ยิ่งการต่อสู้ดำเนินไปนานเท่าใด กลิ่นอายของเขาก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น

ในทางกลับกัน สีหน้าของเหยียนผิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นดวงตาคู่นั้นที่สว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ กระบวนท่าของชายหนุ่มนั้นเรียบง่ายมาก และไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ แม้แต่น้อย แต่กลับไร้ความปรานีอย่างยิ่ง เพราะพวกมันต่างโจมตีไปที่ลำคอ เส้นเอ็น กระดูก ต้นขาด้านใน… ล้วนเป็นจุดอ่อนทั้งสิ้น

สีหน้าของผู้ชมโดยรอบก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นกลั้นหายใจอย่างใจจดใจจ่อ

ศาสตร์แห่งการสังหาร!

เห็นได้ชัดว่ารูปแบบการต่อสู้ของพวกเขาเกิดจากฝึกฝนผ่านการเข่นฆ่าและการนองเลือดมานับครั้งไม่ถ้วน เพราะไม่ว่าจะเป็นการใช้ปราณเซียนพิสุทธิ์ พลังชีวิต หรือแม้แต่พลังแห่งกฎก็ได้รับการขัดเกลาจนสมบูรณ์แบบ จึงดูหมดจด ตรงไปตรงมา และน่าทึ่งอย่างแท้จริง

ไม่มีคำว่าเสียเปล่า!

ไม่มีความลังเล!

ทุกอย่างเฉียบคมและเด็ดขาด แม้แต่จิตสังหารที่แผ่ออกมาก็อันตรายเป็นอย่างมาก จนผู้ชมรอบ ๆ ตกตะลึงและอุทานชื่นชมไม่ขาดปาก

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็ผละออกจากกัน ทิ้งระยะเพื่อหยั่งเชิงอีกฝ่าย เพราะทั้งคู่ต่างรู้ว่ากำลังเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจ

เลือดไหลออกจากบาดแผลบนร่างกายของเฉินซีหลายแห่ง และเหยียนผิงก็ไม่ได้สภาพดีไปกว่ากันมากนัก แม้ว่าบาดแผลบนร่างกายจะน้อยกว่า แต่กลับร้ายแรงกว่าเฉินซีมาก

หลังจากการปะทะรอบนี้สิ้นสุดลง เฉินซีก็ตระหนักได้ว่าเหยียนผิงนั้นมีประสบการณ์ต่อสู้โชกโชน และมีจิตต่อสู้อันพลุ่งพล่าน ยิ่งไปกว่านั้น รูปแบบการต่อสู้ของเหยียนผิงนั้นเรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพมาก เห็นได้ชัดว่าเหยียนผิงต้องผ่านการต่อสู้นองเลือดมานับครั้งไม่ถ้วนเหมือนเฉินซี และขัดเกลาพลังฝีมือจนแหลมคม

เหยียนผิงก็ตกตะลึงอย่างมากเช่นกัน เพราะนึกไม่ถึงว่าการบ่มเพาะของตนซึ่งเหนือกว่าอีกฝ่ายถึงสามขั้น กลับไม่สามารถเป็นฝ่ายได้เปรียบได้

ฟุ่บ! ฟุ่บ!

พริบตาต่อมา ทั้งสองก็พุ่งตัวออกไปอีกครั้ง

เลือดสาดกระเซ็นอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของทั้งสองปรากฏบาดแผลมากขึ้น สนามประลองถูกปกคลุมด้วยปราณเซียนพิสุทธิ์และพลังแห่งกฎอันน่าหวั่นเกรง การเคลื่อนไหวอันรวดเร็วจนเหมือนภาพติดตาฉีกผ่านไปทั่วสนามประลอง และเสียงกู่ร้องแหลมสูงก็พลุ่งพล่านราวกับกระแสน้ำ

“เข้ามา!” เฉินซีคำรามลั่น จิตต่อสู้ของเขาปะทุขึ้นเหมือนหินหลอมเหลว ชายหนุ่มสร้างกระบี่ด้วยนิ้วมือ ก่อนที่ปราณกระบี่จะฟันออกไป มันปกคลุมด้วยกฎแห่งทองอันแพรวพราว คมกริบ และดุร้ายอย่างไม่มีใครเทียบได้

เหยียนผิงเม้มริมฝีปาก ร่างของเขาเป็นเหมือนสายฟ้าสีดำ กำปั้นพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า วาดเป็นเส้นโค้งอันน่าเกรงขามในอากาศ ราวกับสายฟ้าที่ผ่าลงมาจากเบื้องบน

ตูม!

การโจมตีของพวกเขาปะทะกัน ปราณกระบี่และพลังหมัดแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นสายลมที่รุนแรงก็พัดโหมไปยังบริเวณโดยรอบ ทำให้ม่านพลังป้องกันของสนามประลองสำแดงพลังอย่างเต็มที่

ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!

เฉินซีฟันด้วยนิ้วมือซ้ำ ๆ โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ทำให้เกิดเส้นปราณกระบี่หลายสาย พวกมันเต็มไปด้วยประกายไฟ ส่องแสงเขียวขจี หนักแน่นดั่งขุนเขา และกว้างใหญ่เหมือนมหาสมุทร

สิ่งเหล่านี้คือปราณกระบี่ที่มีกฎแห่งมหาเต๋าที่แตกต่างกันถึงสี่ประเภท!

เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้ รูม่านตาของผู้ชมก็หดเล็ก และรู้สึกประหลาดใจมาก

“ไม่แปลกใจที่เขาสามารถเอาชนะอินหุนได้ ทั้งที่อยู่เพียงขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้น เมื่อรวมกับกฎแห่งทองในปราณกระบี่ เขาคงเข้าใจกฎของธาตุทั้งห้าหมดแล้ว”

ปัง!

ดวงตาของเหยียนผิงสว่างวาบราวกับดวงอาทิตย์อันเจิดจ้า และไม่คิดถอยกลับ แต่รุกคืบไปข้างหน้า พร้อมกับยกแขนประสานกัน จากนั้นจึงชกหมัดอันลึกล้ำและคาดเดาไม่ได้ออกไป

หมัดเหล่านี้ทรงพลังและเหนือกว่า พวกมันเหมือนสัตว์ร้ายในยุคบรรพกาลจำนวนมากที่พุ่งออกมาจากอวเจี แล้วคำรามเสียงโหยหวนอย่างน่าเกรงขาม ในขณะที่ร่างกายของพวกมันถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานมากมายของกฎแห่งมหาเต๋า

“นี่มันมรดกสูงสุดของตระกูลเหยียนแห่งเมืองนทีกระจ่าง เพลงหมัดเทวะจตุรทิศ!”

“ไม่ใช่ว่าตระกูลเหยียนนั้นถดถอยและเหลืออยู่เพียงแค่ชื่อเท่านั้นหรือ?”

“เขาเป็นลูกหลานของตระกูลเหยียนแห่งเมืองนทีกระจ่างอย่างแน่นอน เพราะเพลงหมัดเทวะจตุรทิศไม่สามารถปลอมแปลงได้ นึกไม่ถึง นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ หากเหยียนผิงสามารถเติบโตเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ได้สำเร็จ เขาก็อาจจะฟื้นฟูชื่อเสียงของตระกูลเหยียนขึ้นมาใหม่ได้”

เหล่าผู้ชมล้วนอุทานด้วยความประหลาดใจ และจำเพลงหมัดเทวะจตุรทิศได้ทันที

นี่เป็นศาสตร์เซียนที่น่าเกรงขามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ซึ่งมีกฎแห่งมหาเต๋าของธาตุพฤกษา ธาตุปฐพี ธาตุอัคคี และธาตุวารี เพราะเป็นยากมากที่จะสามารถเข้าใจกฎแห่งมหาเต๋าทั้งสี่ประเภทได้ ผู้เป็นเซียนสวรรค์ทั่วไปจึงไม่สามารถบ่มเพาะได้อย่างเต็มที่

ตูม!

บนสนามประลอง ปราณกระบี่และพลังหมัดปะทะกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน บังเกิดเป็นแสงสว่างที่เจิดจ้า เหมือนการปะทะกันของดวงดาวขนาดมหึมาสองดวง กระแสลมพัดโหมอย่างแรงจนทำให้ชั้นเมฆบนท้องฟ้าแยกออกจากกัน และเกิดเสียงคร่ำครวญเสียดหู คลื่นอากาศกระจายออกไปหลังจากปะทะกัน

ครืน! ครืน! ครืน!

ท่ามกลางฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายในอากาศ เฉินซีและเหยียนผิงต่างถอยไปสิบก้าว การปะทะกันครั้งนี้ ถือได้ว่าเสมอกัน

“ยอดเยี่ยมมาก!” เฉินซีอดไม่ได้ที่จะชื่นชม การโจมตีเช่นนี้เพียงพอที่จะบดขยี้สยงหมิงและอินหุนได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้เหยียนผิงกลับต้านทานโดยที่ไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลยแม้แต่น้อย สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเหยียนผิงเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา

“ฝีมือของเจ้าก็ไม่เลวเช่นกัน” เหยียนผิงกล่าวขณะที่สีหน้ายังคงสงบเหมือนเช่นเคย อย่างไรก็ตาม เขากลับรู้สึกชื่นชมอย่างมาก เพราะทราบดีว่าแท้จริงแล้วแม้ตนจะได้เปรียบในแง่ของการบ่มเพาะ แต่เฉินซีกลับสามารถต่อสู้ได้อย่างสูสี ดังนั้นจึงอดรู้สึกทึ่งและชื่นชมในความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]