บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1072

บทที่ 1072 ดาบอสนีโค้ง

บทที่ 1072 ดาบอสนีโค้ง

เสียงกระบี่คำรามดั่งคลื่นสมุทรดังก้องไปทั่วหล้า!

ราวกับสามารถทะลวงเหล็กทลายหินได้ สะท้านไปถึงแก้วหูจนรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เหมือนถูกเข็มทิ่มถึงจิตวิญญาณ เกิดความรู้สึกเย็นว่าน่าผวากระจายไปทั่วกาย

นี่คือพลังและอิทธิพลของกระบี่!

ทุกคนตกตะลึงยิ่ง ไม่คิดว่าเฉินซีจะมีสมบัติอมตะที่ทรงอำนาจเช่นนี้อยู่ในครอบครอง

“นั่นมันสมบัติอะไรกัน?”

“ต้องมีอำนาจอยู่ระดับวิญญาณทมิฬขั้นสูงเป็นแน่!”

“คงไม่ใช่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดกันในตระกูลเหลียงหรอกใช่ไหม?”

เสียงพูดคุยดังขึ้น ทุกคนสามารถประเมินได้อย่างชัดเจนโดยอิงจากอำนาจของสมบัติอมตะของตนเอง กระบี่เซียนธรรมดาในมือเฉินซีนั้น ทัดเทียมกับดาบทลายขุนเขาพรากวิญญาณของอินหว่านซวิน!

“เหมือนจะเป็น…” พร้อมกันนั้น นัยน์ตาของกู่อวี่ถังก็ส่องประกายวาบเหมือนจำบางอย่างได้ แต่ไม่มั่นใจด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาเองก็ดูประหลาดใจและยังเคลือบแคลงอยู่

“น่าสนใจ น่าสนใจยิ่ง!” หลัวจื่อเฟิงที่อยู่ใกล้ ๆ มีสายตาล้ำลึก นัยน์ตาส่องประกายระยับยามมองกระบี่เซียนในมือเฉินซี แทบไม่อยากพลาดจังหวะใดไป

เคร้ง!

เสียงสะท้านของดาบดังก้อง เฉินซีถือยันต์ศัสตราไว้ในมือด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม เหมือนราชันแห่งกระบี่ยามฟาดอาวุธลงมา ปราณกระบี่สว่างจ้าพุ่งขึ้นสูง คล้ายธารดาราโปรยลงจากฟ้า

ตู้ม!

ดาบโค้งปะทะกับกระบี่ เกิดเป็นปราณกระบี่ระเบิดออกมาเคล้ากับแสงดาบ มันกวาดออกไปรอบทิศ ส่งผลให้สนามประลองตกสู่ห้วงแห่งความโกลาหล

“สหายน้อย กระบี่เซียนในมือของเจ้าดูเหมือน…” อินหว่านซวินเผยแววหวาดกลัว เหมือนจำบางอย่างจากยันต์ศัสตราของเฉินซีได้และทำท่าไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง

ฟ้าว!

เฉินซีฟาดกระบี่ออกไปอีกครั้ง ไม่ให้อินหว่านซวินพูดเรื่องไร้สาระอีก

การโจมตีนี้แตกต่างจากครั้งก่อนอย่างสิ้นเชิง เพราะผสานไปด้วยกฎแห่งอัคคีและวารีผสมอยู่ บนกระบี่จึงมีเปลวไฟผสานกับน้ำ กฎเกณฑ์ทั้งสองหลอมรวมเข้าด้วยกัน เสียดสีและปะทะ ก่อนจะเกิดปรากฏการณ์ทะเลเพลิงและหมอกเย็นยะเยือกกระจายตัวออกมาปกคลุมฟ้าดิน เกิดเป็นภาพยิ่งใหญ่ตระการตา

“หึ! สามารถประสานกฎสองอย่างเข้าด้วยกันได้ มีความสามารถในการทำความเข้าใจไม่เลว แต่น่าเสียดายที่ยังอ่อนแอเกินไป!” อินหว่านซวินแค่นเสียงเย็น พลางสัมผัสได้ถึงแรงบีบคั้นที่แผ่ออกจากปราณกระบี่ จึงไม่กล้าเสียสมาธิอีก เขาก้าวออกไป บิดข้อมือฟันดาบโค้งลงมาในพลัน

เห็นได้ชัดว่าในกระบวนท่าเมื่อครู่ ผังอักขระยันต์อันสลับซับซ้อนและลึกล้ำส่องสว่างขึ้นจากตัวดาบโค้ง ทุกผังเสริมพลังให้ดาบยิ่งดุดันมากขึ้นกว่าเก่า

อีกทั้งเมื่อผังอักขระยันต์ที่ห้าส่องสว่างขึ้น ทั่วทั้งตัวดาบก็เหมือนมีอักขระยันต์โคจรอยู่เต็มไปหมด ปลดปล่อยอสนีบาตสีน้ำเงินเข้มที่ทั้งงดงามตระการตาออกมา

“ในหมู่ความแกร่งเก้าระดับของดาบทลายขุนเขาพรากวิญญาณ เขาใช้มาห้าระดับแล้ว ดูเหมือนว่าอินหว่านซวินจะไม่ได้ประเมินศัตรูต่ำไป” หลัวจื่อเฟิงเอ่ยเสียงเบา

พร้อมกันนั้น เฉินซีเองก็หรี่ตาลงเช่นกัน เขาไม่ได้กลัวกลิ่นอายดุดันของศัตรู แต่สัมผัสกลิ่นอายคุ้นเคยได้จากดาบโค้งของอินหว่านซวิน

มันคือกลิ่นอายยันต์เทวะ!

หากเขาคาดไว้ไม่ผิด ดาบโค้งของอินหว่านซวินย่อมเป็นสิ่งที่คล้ายกับยันต์ศัสตราแน่นอน ที่เขารู้ว่ามันคล้ายกันเพราะเฉินซีรู้ดีว่ามันไม่ใช่ยันต์ศัสตราของจริง เพราะยันต์เทวะที่ผนึกไว้ภายในไม่สมบูรณ์ วิธีที่ใช้สร้างมันขึ้นมาก็ไม่ถูกต้อง

ยันต์เทวะอสนีบาตทมิฬ? น่าเสียดายที่วิธีสร้างยังอ่อนด้อยเกินไป… เมื่ออ่านความลึกล้ำของดาบโค้งเล่มนี้ออกได้ในแวบเดียว เฉินซีก็คลายกังวลในใจทันที

อินหว่านซวินเป็นคนตระกูลอิน ทั้งยังเป็นลูกหลานของจักรพรรดิแห่งความมืดหยวนสวิน การที่พวกเขารู้วิธีสร้างยันต์เทวะอสนีบาตทมิฬ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร

หากอธิบายต้องใช้เวลานาน แต่แท้จริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในพริบตาเดียวเท่านั้น

อึดใจต่อมาทั้งสองก็เข้าปะทะกันอีกครั้ง ปราณกระบี่ดั่งทะเลเพลิงและหมอกเย็นยะเยือกเข้าปะทะกับแสงดาบ เสียงระเบิดดังสะเทือนเลือนลั่น คลื่นพลังกระแทกออกมาดั่งพายุคลั่ง ส่งเสียงโหยหวนไปทั่วฟ้าดิน

เฉินซีไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายต้านท่ากระบี่ของตนไว้ได้ เขาซัดกระบี่ออกไปอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน มันผสานไปด้วยกฎแห่งมหาเต๋าน้ำ ไฟ และทอง

ทันทีที่ปล่อยการโจมตีออกไป น้ำและไฟจึงเข้าผสาน นำพาแสงทองส่องสว่างอันเฉียบคมให้สว่างวาบขึ้น!

กฎสามอย่างผสานด้วยกันหรือ? อินหว่านซวินหรี่ตา เขารู้มานานแล้วว่าเด็กขอบเขตเซียนสวรรค์ตรงหน้าเข้าใจกฎแห่งมหาเต๋าถึงเจ็ดประเภท แต่ไม่คิดเลยว่าแค่การโจมตีเดียวจากเฉินซีจะสามารถผสมผสานพลังแห่งกฎสามอย่างพร้อมกันได้!

การใช้พลังแห่งกฎที่แตกต่างกันสามประเภทพร้อมกันเป็นสิ่งที่ยากมาก ไม่ใช่สิ่งที่คนขอบเขตเซียนสวรรค์จะทำได้ แต่มันกลับเกิดขึ้นตรงหน้าเขาแล้ว จะให้อินหว่านซวินไม่ตกใจได้อย่างไร?

แม้แต่ผู้ชมรอบข้างยังรู้สึกหวาดกลัว เพราะพลังแห่งกฎนั้นสอดคล้องกับเต๋าแห่งสวรรค์ เป็นสิ่งที่ใช้งานได้ยากที่สุด ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์บางคนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นยิ่งอาจสามารถทำความเข้าใจพลังกฎแห่งมหาเต๋าถึงสามอย่างหรือมากกว่านั้นได้ แต่เพราะมีข้อจำกัดด้านขอบเขตพลัง อย่างมากก็สามารถใช้กฎพร้อมกันได้เพียงสองอย่างเท่านั้น

มีเพียงผู้อยู่ขอบเขตเซียนลึกลับเท่านั้นจึงจะสามารถใช้กฎสามอย่างได้พร้อมกัน

ทว่าตอนนี้เฉินซีกลับสามารถทำเช่นนั้นได้ด้วยขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นกลางจึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นตะลึงยิ่ง!

“อัสนีประหารชีพ!” บนลานประลอง แม้ว่าอินหว่านซวินจะประหลาดใจ แต่การเคลื่อนไหวไม่ได้ช้าลงสักนิด ดาบโค้งกรีดผ่านฟ้า ผังอักขระยันต์อันสลับซับซ้อนอีกผังส่องสว่างขึ้นบนตัวดาบโค้ง ส่งผลให้ดาบโค้งสีดำสนิทถูกปกคลุมไปด้วยพลังพายุคลั่งสีน้ำเงินเข้ม หากมองจากไกล ๆ จะดูคล้ายแหล่งกำเนิดสายฟ้าฟาด มองแล้วชวนให้ชาวาบไปทั้งหนังศีรษะ

ตู้ม!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]