บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1091

บทที่ 1091 ใครปราบใคร

บทที่ 1091 ใครปราบใคร

สามเดือน!

ด้วยเวลาเพียงสามเดือน เลื่อนขั้นจากขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นสูงสู่ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นสมบูรณ์!

ความเร็วของการบ่มเพาะเช่นนี้ สามารถอธิบายเป็นคำง่าย ๆ ได้ว่าอัศจรรย์ ในฐานะทายาทสายตรงของตระกูลใหญ่ และในฐานะที่เป็นสิบอันดับแรกของเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีป หลัวจื่อเฟิงกับกู่อวี่ถัง ย่อมเคยพบเห็นอัจฉริยะมาแทบทุกรูปแบบ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเฉินซีแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะโดดเด่นแค่ไหน ก็ล้วนดูจืดชืดไปหมด

ชายคนนี้ช่างประหลาดอย่างแท้จริง!

หลัวจื่อเฟิงและกู่อวี่ถัง ถอนหายใจด้วยอารมณ์อัดแน่นภายใน แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตกตะลึงอีกครั้ง เดี๋ยวก่อน… จากขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นสูงสู่ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นสมบูรณ์?

ถ้าจำไม่ผิด ตอนที่ต่อสู้กับอินหว่านซวินในดินแดนจักรพรรดิแห่งการต่อสู้ เฉินซียังอยู่แค่ขั้นกลางของขอบเขตเซียนสวรรค์เองไม่ใช่หรือ…

“พี่เฉิน ข้าขอถามอะไรสักหน่อย ครั้งสุดท้ายที่เจ้าทะลวงขอบเขตผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว?”

หลัวจื่อเฟิงอดไม่ได้ที่จะถาม เขาตกใจมาก แม้จะคาดเดาเวลาที่เฉินซีใช้ในการเลื่อนระดับจากขั้นกลางสู่ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นสูงราง ๆ ได้ แต่ก็ไม่กล้าพูดตัดสินมันอย่างแน่นอน

“เรื่องนั้นยังต้องถามด้วยหรือ? แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นเมื่อเดือนก่อน” ก่อนที่เฉินซีจะทันตอบ เหลียงปิงก็ชิงตอบอย่างสบาย ๆ

ที่กล่าวว่าไม่จำเป็นต้องถามนั่นเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า เมื่อสี่เดือนก่อนเฉินซีอยู่ที่ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นกลาง และได้เข้าสู่การปิดประตูฝึกมากว่าสามเดือน จึงทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นสมบูรณ์ ดังนั้นเขาย่อมเข้าสู่ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นสูงไปเมื่อสามเดือนก่อน นี่เป็นสิ่งที่คำนวณได้ง่ายมาก

ตึง!

แต่เมื่อพวกเขาได้ยินคำตอบ หลัวจื่อเฟิงและกู่อวี่ถังก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง จนร่างกายแข็งทื่อไปชั่วขณะ พระเจ้า! ตัวประหลาดนี้โผล่มาจากที่ไหนกัน?

ทันใดนั้น สายตาของทั้งสองคนก็มองไปทางเฉินซี ราวกับพวกเขาเจอเรื่องแปลกประหลาดที่สุดในชีวิต มันช่างเป็นการยากเกินไปที่จะหาคำใดมาอธิบายอารมณ์ของพวกเขาในตอนนี้ได้

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเหลียงปิง ทำให้อีกฝ่ายยิ้มกว้างก่อนที่จะส่งกระแสปราณมาว่า “หรือว่าข้าคำนวณผิดไป?”

เฉินซีทำอะไรไม่ถูก แน่นอนว่าที่นางพูดมานั้นถูกต้อง แต่การบอกอีกฝ่ายตรง ๆ จะทำให้ตนดูผิดปกติ และถูกมองเป็นตัวประหลาดตลอดเวลา ซึ่งเขาไม่ต้องการ

“เอาล่ะ ข้าแค่อยากเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาเท่านั้น” เหลียงปิงอธิบายเสียงเบา จากนั้นก็กัดริมฝีปากอวบอิ่มอันแสนเย้ายวนใจในขณะที่พูด ทำให้ดูน่าสงสารมาก

เมื่อสาวงามสง่าที่เย็นชาและทะนงตนอย่างเหลียงปิง เผยท่าทางเย้ายวนดึงดูดใจเช่นนี้ แม้แต่เหล็กบริสุทธิ์ก็ต้องกลายเป็นเต้าหู้ที่อ่อนนุ่ม

แน่นอนว่าเป็นธรรมดาที่เฉินซีจะไม่โกรธ และถึงแม้จะโกรธ เมื่อเห็นท่าทางของเหลียงปิง ความโกรธนั้นมันคงจะหายไปราวกับหมอกควัน

เขาจึงเปลี่ยนหัวข้อและแสดงเจตจำนงของตน

“อะไรนะ? เจ้าต้องการที่จะท้าทายเหลียงปิง?”

เมื่อพวกเขาพบว่าเฉินซีมาที่นี่ เพื่อประลองกับเหลียงปิง เพื่อตรวจสอบความแข็งแกร่งในปัจจุบันของตน หลัวจื่อเฟิงก็อุทานด้วยความประหลาดใจ

กู่อวี่ถังที่อยู่ข้าง ๆ ก็มีท่าทางแปลก ๆ เช่นกัน

เฉินซีชะงัก “เป็นไปไม่ได้หรือ?”

เหลียงปิงยืนกอดอกและยิ้มอยู่เงียบ ๆ

หลัวจื่อเฟิงเตือนอีกครั้งด้วยความกลัวที่ยังฝังลึกอยู่ในใจ “เจ้าแน่ใจหรือ?”

เฉินซีรู้สึกว่าการแสดงออกของเหล่าสหายในวันนี้ดูกระตือรือร้นและแปลกเกินไป เหมือนจะ… กังวลเกี่ยวกับการประลองระหว่างเขากับเหลียงปิงอย่างยิ่ง

“ฮ่าฮ่า! เฉินซี เหลียงปิงได้ขึ้นสู่ตำแหน่งที่ห้าในเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปแล้ว พี่หลัวเองก็พ่ายแพ้ให้กับนางอย่างน่าสังเวช นั่นเป็นเหตุผลที่เขาอดไม่ได้ที่จะเตือนเจ้า”

กู่อวี่ถังอธิบายและมองไปทางหลัวจื่อเฟิงด้วยความยินดีในความโชคร้ายของอีกฝ่าย

ทันใดนั้นเฉินซีก็ตระหนักได้ว่า เพราะสหายคนนี้ถูกเหลียงปิงทุบตีอย่างรุนแรง ไม่แปลกใจที่จะคิดมากเรื่องนี้

หลัวจื่อเฟิงรู้สึกอับอายทันทีเมื่อถูกเปิดโปง เขาถลึงตาใส่กู่อวี่ถังอย่างแข็งกร้าว ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “พี่อวี่ถัง ทำไมเราไม่มาประลองกันบ้างล่ะ?”

กู่อวี่ถังส่ายหัว “คิดจะระบายความโกรธใส่ข้าหรือ? ถ้าเจ้ามีความสามารถ ทำไมเจ้าไม่ไปหาพี่ใหญ่ของข้าล่ะ?”

“พี่ชายของเจ้า พี่ชายของเจ้า ทั้งหมดที่เจ้าทำตลอดทั้งวัน คือพูดถึงแต่พี่ชายของเจ้า ถ้าไม่มีพี่ชายอยู่ด้วย เจ้าจะอยู่รอดได้หรือไม่?” หลัวจื่อเฟิงคำรามและเย้ยหยันอย่างไม่ปิดบัง

พี่ชายของกู่อวี่ถัง คือกู่เยวหมิง ซึ่งเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ยืนอยู่ในอันดับสองในเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีป เมื่อเผชิญกับตัวตนเช่นนี้ หลัวจื่อเฟิงย่อมไม่มีความกล้าที่จะท้าทาย

เมื่อเห็นทั้งสองทะเลาะกัน คิ้วเรียวงามของเหลียงปิงพลันขมวดแน่น และหันไปถามเฉินซีตรง ๆ “เจ้าต้องการประลองกับข้าจริงหรือ?”

เฉินซีไหวไหล่และถอนหายใจอย่างติดตลก “เพื่อการจัดอันดับ ข้าไม่มีทางเลือกอื่น”

“เจ้าต้องการให้ข้าออมมือสักเล็กน้อยหรือไม่?”

“ไม่ต้องการ”

“เช่นนั้น ให้ข้าไม่ใช้กระสวยแสงเงิน?”

“ไม่จำเป็น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]