บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1167

สรุปบท บทที่ 1167 เทียบอันดับทองคำมวลสวรรค์: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

สรุปเนื้อหา บทที่ 1167 เทียบอันดับทองคำมวลสวรรค์ – บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

บท บทที่ 1167 เทียบอันดับทองคำมวลสวรรค์ ของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย novelones อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 1167 เทียบอันดับทองคำมวลสวรรค์

บทที่ 1167 เทียบอันดับทองคำมวลสวรรค์

สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า มหาอำนาจชั้นนำที่ยืนหยัดอย่างทรงเกียรติและเป็นอิสระในภพเซียน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้เยี่ยมยุทธ์รุ่นเยาว์จำนวนนับไม่ถ้วนจากทั้งสามภพได้มารวมตัวกันที่นี่ ซึ่งพวกเขาได้เปิดเผยพรสวรรค์อันโดดเด่นและน่าอัศจรรย์ใจออกมา ทุกคนล้วนผ่านการขัดเกลาฝีมือมานับไม่ถ้วน ก่อนจะเติบโตเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่แพรวพราวที่สุดของภพทั้งสาม

หากดูจากภายนอก ความแข็งแกร่งของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋านั้นไม่ได้โดดเด่นนัก แต่มีเพียงผู้ยิ่งใหญ่บางส่วนเท่านั้น ที่รับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า เป็นพลังที่ซ่อนอยู่

ที่แห่งนี้เป็นสถานศึกษาที่รวบรวมศิษย์ชั้นนำของมหาอำนาจต่าง ๆ ในโลก และในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ผู้เยี่ยมยุทธ์ชั้นนำนับไม่ถ้วนได้ถือกำเนิดขึ้นจากสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ย่อมไม่ขาดผู้ที่ไม่ธรรมดา ยิ่งกว่านั้น ในหมู่พวกเขายังมีราชันเซียนดาราวีรบุรุษ!

ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ที่เป็นเจ้าเหนือในภพทั้งสาม แม้จะออกจากสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋ามานานแล้ว แต่สายสัมพันธ์ของอาจารย์และศิษย์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจตัดขาดได้

บางทีมันอาจจะไม่แสดงในเวลาปกติ แต่เมื่อสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าต้องเผชิญกับภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่เมื่อใด ผู้ยิ่งใหญ่ที่ถือกำเนิดจากสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ก็จะปรากฏกายออกมาเหมือนเมฆบนท้องฟ้าอย่างแน่นอน!

ในเวลานั้น ผู้คนในโลกจะเข้าใจได้ว่า กองกำลังที่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าซ่อนอยู่ใต้พื้นผิวนั้นน่ากลัวเพียงใด!

มันเหมือนกับมังกรหลับที่ปกติไม่โดดเด่น แต่เมื่อมันเริ่มตื่นขึ้นจริง ๆ มันอาจจะสั่นสะเทือนไปทั้งโลก

นี่คือรากฐานของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า และเป็นเหตุผลที่ทำให้สามารถเป็นสำนักศึกษาอันดับหนึ่งในภพเซียนได้

เมื่อเฉินซีและคนอื่น ๆ ผ่านประตูสัมฤทธิ์ภายใต้การนำของโจวจื่อหลี พวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นในโลกที่ไม่คุ้นเคยในทันที

เมื่อวิสัยทัศน์ชัดเจนขึ้น หัวใจของศิษย์ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย

เพราะนั่นคือแท่นที่วางอยู่บนยอดเขาสูงถึงหนึ่งหมื่นสามพันสองร้อยจั้ง แท่นนั้นเรียบเนียนดุจกระจกและครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งดูเหมือนว่ามันตั้งตระหง่านอยู่บนยอดฟ้า โดยถูกปกคลุมด้วยหมอกและเมฆ ทำให้มันดูงดงามประหนึ่งภาพฝัน

ในขณะนี้ เฉินซีและคนอื่น ๆ ยืนอยู่บนแท่นที่ยิ่งใหญ่และโอ่อ่านี้ เมื่อเทียบกับแท่นแล้ว พวกเขาเหมือนมดตัวเล็กจำนวนมากและไม่มีค่าอะไรเลย

สภาพแวดล้อมของแท่นถูกปกคลุมด้วยฉากที่กว้างใหญ่และงดงามอย่างไร้ขอบเขต ภูเขาสูงตระหง่านมากมายเหมือนต้นไม้ในป่า ทะเลสาบกระจายไปทั่วเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า และแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวอยู่รอบภูเขา นอกจากนี้ยังมีอาคารสูง เก่าแก่ และโบราณจำนวนนับไม่ถ้วนที่ตั้งเรียงรายอยู่โดยรอบ

บางครั้งก็มองเห็นสัตว์อสูรเซียนโบยบินผ่านทะเลเมฆ และสัตว์อสูรเซียนที่เคลื่อนตัวไปมาบนภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ ก็สามารถเห็นได้เป็นครั้งคราว ยิ่งกว่านั้น ดวงแสงศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ก็ยังสามารถมองเห็นได้บ่อยครั้ง พวกมันเป็นร่างที่มีกลิ่นอายน่าเกรงขาม และเคลื่อนไหวไปมาระหว่างภูเขาที่ไร้ขอบเขต

ฉากตรงหน้านั่นสูงส่งและกว้างใหญ่เกินไป มันเหมือนกับอาณาจักรเซียนที่ซ่อนเร้นจากโลกภายนอก!

“นี่คือสถานที่ตั้งที่แท้จริงของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า และถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิเต๋าเมื่อหลายปีก่อนด้วยพลังเหนือธรรมชาติ นอกจากนี้ ปราณบรรพกาลโกลาหลได้มาบรรจบกันที่นี่ ดังนั้นการบ่มเพาะเพียงวันเดียว ก็เท่ากับการบ่มเพาะเป็นเวลาสิบวันในโลกภายนอก”

โจวจื่อหลีชี้ไปที่สรวงสวรรค์อันกว้างใหญ่และไร้ขอบเขต จากนั้นกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำที่มีร่องรอยของความภาคภูมิใจ “ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เหล่าผู้ยิ่งใหญ่และตำนานนับไม่ถ้วนที่พวกเจ้าทุกคนคุ้นเคย ล้วนแต่ถือกำเนิดขึ้นที่นี่”

หัวใจของเฉินซีและคนอื่น ๆ สั่นไหวเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ทุกสายตาทอประกายแววววับ ขณะเผยให้เห็นถึงความตื่นเต้นลุกโชนอยู่ภายใน เพราะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกตนก็จะได้บ่มเพาะที่นี่เช่นกัน!

โจวจื่อหลีหันกลับไปมองเฉินซีและคนอื่น ๆ ที่แสดงออกถึงความตื่นเต้น จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม ในใจหวนรำลึกได้ว่า ตนก็เคยเป็นเหมือนกับเด็กเหล่านี้เมื่อหลายปีก่อน ทั้งตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความคาดหวังที่มีต่อสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า

“มาเถอะ ข้าจะพาพวกเจ้าไปที่เขตสำหรับศิษย์ใหม่” โจวจื่อหลีสะบัดแขนเสื้อ เรียกเมฆขนาดมหึมาลอยอยู่ใต้เท้า จากนั้นก็พาเฉินซีและศิษย์อีกสี่ร้อยเก้าสิบเก้าคนไปที่ส่วนลึกของภูเขา

ตลอดทาง โจวจื่อหลีแนะนำความรู้พื้นฐานบางอย่างให้กับพวกเขาอย่างเป็นกันเอง

ปรากฏว่าสำนักจักรพรรดิเต๋าถูกแบ่งออกเป็นฝ่ายนอก ฝ่ายใน ฝ่ายสงวนคัมภีร์ ฝ่ายสงวนโอสถ และฝ่ายบำเพ็ญเต๋า

ทุก ๆ ฝ่ายต่างมีอาจารย์ใหญ่และรองอาจารย์ใหญ่ และภายใต้อาจารย์ใหญ่คือ หัวหน้าอาจารย์และอาจารย์ทั่วไป ตัวอย่างเช่นโจวจื่อหลีเป็นอาจารย์ใหญ่ของสำนึกศึกษาฝ่ายนอก ในขณะที่หวังต้าวหลูเป็นหัวหน้าอาจารย์ของสำนึกศึกษาฝ่ายใน

สิ่งที่ควรกล่าวถึงก็คือ ในสำนักศึกษาฝ่ายในมีเพียงหัวหน้าอาจารย์เท่านั้นที่เป็นผู้สอน ในขณะที่สำนักศึกษาฝ่ายนอกมีหัวหน้าอาจารย์เพียงไม่กี่คน และผู้สอนส่วนใหญ่ล้วนเป็นอาจารย์ธรรมดาทั่วไป

เมื่อเข้าใกล้เขตสำหรับศิษย์ใหม่ ทันใดนั้น ศิษย์คนหนึ่งก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ

“นั่นอะไร!?”

ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น สายตาของศิษย์คนอื่น ๆ ก็จ้องไปยังที่ที่หนึ่งโดยพร้อมเพรียงกัน และที่นั่นมีเสาหินที่ตั้งตระหง่านจรดท้องฟ้า!

“อันดับที่หนึ่ง อ้าวจ้านเป่ย บ่มเพาะมา 100 ปี”

“เทียบอันดับทองคำมวลสวรรค์จะแสดงรายชื่อห้าร้อยอันดับแรกเท่านั้น และเวลาในการบ่มเพาะที่จารึกไว้นั้น คือเวลาบ่มเพาะภายในสำนักศึกษาของคนผู้นั้น การสอบของสำนักศึกษาจะจัดขึ้นทุก ๆ สิบปี มีเพียงศิษย์ที่อยู่ในห้าสิบอันดับแรกเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมการสอบของเขตฝ่ายใน และผู้ที่สอบผ่านจะสามารถเป็นศิษย์ของเขตฝ่ายในได้” โจวจื่อหลีอธิบาย

สิ้นคำ อ๋าวอู๋หมิงก็หัวเราะเยาะด้วยความดูถูกเหยียดหยาม “โอ้ เป็นเช่นนั้นเอง พวกเขาเป็นกลุ่มขยะอย่างแท้จริง ในเมื่อการสอบของเขตฝ่ายในนั้นจัดขึ้นทุก ๆ สิบปี แต่กลับยังคงวนเวียนอยู่ที่สำนักศึกษาฝ่ายนอก แม้จะดูเหมือนครอบครองห้าร้อยอันดับแรกอย่างโดดเด่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ก็มีแค่นั้น”

คนอื่น ๆ หัวเราะเบา ๆ ไม่รู้สึกเคารพต่อชื่อในการจัดอันดับ และเยาะเย้ยรายชื่อในการจัดอันดับเหล่านั้นอย่างสนุกสนาน

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะหากยึดหลิวเจ๋อเฟิงที่อยู่ในอันดับที่แปดเป็นตัวอย่าง แม้จะอยู่ในอันดับที่แปด แต่ก็ยังบ่มเพาะเป็นเวลากว่าเก้าร้อยสิบหกปีในสำนักศึกษาฝ่ายนอก!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาเคยผ่านการทดสอบของเขตฝ่ายในมาหลายสิบครั้ง แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่สามารถเข้าสู่เขตฝ่ายในได้ มันจึงเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า บางทีหลิวเจ๋อเฟิงอาจเป็นอัจฉริยะที่ไม่ธรรมดาในโลกภายนอก แต่พรสวรรค์ยังด้อยกว่าเมื่อเทียบกับศิษย์คนอื่น ๆ

โจวจื่อหลีอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและชำเลืองมองศิษย์ใหม่ทั้งหมด ก่อนที่จะกล่าวว่า “ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนยังคงอยู่ที่ขอบเขตเซียนลึกลับ และอย่างน้อยพวกเจ้าทุกคนจะใช้เวลามากกว่าสิบปีหรือมากกว่าร้อยปีในการบรรลุสู่ขอบเขตเซียนทองคำ แล้วมีกี่คนที่สามารถเข้าสู่ห้าร้อยอันดับแรกได้อย่างรวดเร็ว? พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่า มีศิษย์ทั้งหมดแปดพันคนในสำนักศึกษาฝ่ายนอก? ถ้าพวกเขาเป็นขยะ แล้วพวกเจ้าล่ะ?”

โจวจื่อหลีหยุดไปชั่วขณะ ก่อนจะกล่าวต่อ “หลิวเจ๋อเฟิงอยู่เพียงขอบเขตเซียนลึกลับขั้นกลางเมื่อเข้าสู่สำนักศึกษาฝ่ายนอก และใช้เวลาเกือบสี่ร้อยปีเพื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนทองคำ หลังจากนั้นเขาใช้เวลาเกือบสามร้อยปีเพื่อติดอันดับหนึ่งในห้าสิบอันดับแรก จนสามารถครอบครองอันดับที่แปด พวกเจ้ายังคิดว่าเขาเป็นเศษขยะอยู่หรือไม่?”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวออกไป สีหน้าของทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็สงบลง และจริงจังมากขึ้น

ขอบเขตเซียนทองคำเป็นธรณีประตูที่เปรียบได้กับช่องว่างอันยิ่งใหญ่ และเป็นการยากที่จะก้าวข้าม ตามความเร็วในการบ่มเพาะของหลิวเจ๋อเฟิง เท่านี้ก็เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่ไม่ธรรมดาแล้ว

แต่อ๋าวอู๋หมิงยังคงไม่หวั่นไหว ชายหนุ่มกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “คนในตระกูลข้าได้เข้ามาในสถานศึกษาเมื่อร้อยปีก่อน ใช้เวลาบ่มเพาะเพียงสิบปี ก่อนที่จะบรรลุสู่ขอบเขตเซียนทองคำ หลังจากนั้น เขาก็ขึ้นสู่อันดับที่สี่สิบเจ็ดของเทียบอันดับทองคำมวลสวรรค์ และผ่านการสอบของเขตฝ่ายในได้ในคราวเดียว ดังนั้นหลิวเจ๋อเฟิงก็เป็นเศษขยะอยู่ดีไม่ใช่หรือ”

ในขณะนี้ เฉินซีก็เข้าใจในที่สุด เพราะตัวอย่างที่โจวจื่อหลียกมาคืออัจฉริยะทั่วไป ในขณะที่อ๋าวอู๋หมิงกำลังกล่าวถึงอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ ทั้งคู่ก็ไม่อาจเทียบกันได้เลย

ในทางกลับกัน โจวจื่อหลีขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และไม่ได้อธิบายใด ๆ เพียงกล่าวว่า “เมื่อเจ้าทุกคนเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า เจ้าจะสังเกตเห็นว่าการแข่งขันภายในสำนักศึกษานั้นโหดร้ายและเข้มข้นกว่าที่อื่นมาก”

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ พวกเขาก็มาถึงเขตศิษย์ใหม่แล้ว

สถานที่แห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยภูเขาที่ทอดยาวสูงต่ำ ขณะที่บ้านโบราณตั้งตระหง่านเหมือนต้นไม้ในป่า มันเหมือนกับอาณาจักรเล็ก ๆ ที่ก่อตั้งขึ้นบนภูเขา และมันได้แผ่ปราณบรรพกาลโกลาหลปะทะเข้าใบหน้าของทุกคน ทำให้วิญญาณของทุกคนสดชื่นขึ้นในพริบตา!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]