บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1253

สรุปบท บทที่ 1253 จากไปด้วยความโกรธ: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

ตอน บทที่ 1253 จากไปด้วยความโกรธ จาก บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1253 จากไปด้วยความโกรธ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ที่เขียนโดย novelones เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 1253 จากไปด้วยความโกรธ

บทที่ 1253 จากไปด้วยความโกรธ

พวกเขามาที่นี่ด้วยตั้งใจจะหาเรื่อง!

ครั้นผู้คนมากมายที่อยู่ที่นี่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าทุกคนจึงต่างมืดหม่นลงถนัดตา

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกันแล้ว ดูเหมือนว่าความสนใจของผู้คนจะจดจ่ออยู่ที่แผ่นหยกที่เฉินซีส่งต่อให้กับโจวจื่อหลีมากกว่าสิ่งอื่นใด

ศิษย์บางคนพอจะคาดเดาบางอย่างออก ใบหน้าจึงเคร่มขรึมลงในพลัน

ทว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังคงสงสัยว่าสิ่งที่บันทึกไว้ในแผ่นหยกคืออะไรกันแน่? เหตุใดเฉินซีจึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่ด้วยความมั่นใจ ปราศจากความเกรงกลัวต่อบรรยากาศที่ตึงเครียดเช่นนี้

นี่คือแผ่นหยกเงา

โจวจื่อหลีเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที ด้วยความมั่นใจที่มีต่อเฉินซี เขาเอ่ยด้วยเสียงทุ้มกังวาน ไร้ซึ่งร่องรอยแห่งความลังเล “ตอนนี้เรื่องจะหาว่าใครถูกใครผิดเอาไว้ทีหลังเถอะ ไม่แน่ว่าการดูแผ่นหยกนี้อาจจะทำให้เราได้คำตอบชัดเจนกว่าการมานั่งถกเถียงเช่นนี้ พวกเจ้าว่าอย่างไร?”

ไม่ว่าจะด้วยท่าทางสงบนิ่งและเรียบเฉยของเฉินซี หรือสุ้มเสียงสุขุมแต่ทรงอำนาจของโจวจื่อหลี ก็ล้วนแต่ทำให้สีหน้าของอาจารย์จากสำนักศึกษาอื่น ๆ เปลี่ยนแปลงไป พวกเขาสัมผัสได้ราง ๆ ว่าสถานการณ์เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น…

ฟึ่บ!

ยังไม่ทันจะได้ตอบรับหรือปฏิเสธ โจวจื่อหลีก็เปิดแผ่นหยกเงาขึ้น ม่านฉายซึ่งเกิดจากรวมตัวของแสงปรากฏขึ้นกลางอากาศ ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นสามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกบันทึกไว้ได้อย่างชัดเจน

ละอองแสงบนม่านฉายหลอมรวมเป็นภาพของฉากแรกด้วยความรวดเร็ว มันเป็นภาพของทางเดินอนิจจังซึ่งนำไปสู่ด้านในของสุสาน ตอนนั้นเฉินซีกำลังบุกโจมตีฝูงค้างคาวอมตะ ทว่าเขากลับต้องเผชิญกับความลำบากจากคำว่าร้ายและการคุกคามของเล่อเชียนฉวนและคนอื่น ๆ จากสำนักศึกษานภาไพศาล

เพราะศิษย์ของสำนักศึกษานภาไพศาลนั้นถูกค้างคาวอมตะสังหาร พวกเขาจึงต้องการระบายความโกรธแค้นทั้งหมดลงไปที่เฉินซี โดยที่ตั้งแต่ต้นจนจบ ชายหนุ่มไม่เคยตอบโต้เลยสักครั้ง

“ท่าทีของสำนักศึกษานภาไพศาลช่างยอดเยี่ยมเสียจริง!” ทันทีที่โจวจื่อหลีเห็นสิ่งนี้ น้ำเสียงที่เย็นชาก็ดังขึ้นมาพร้อมกับท่าทีเรียบเฉย

ฉือหลิงจื่อรวมถึงอาจารย์คนอื่น ๆ จากสำนักศึกษานภาไพศาลโกรธขึ้งในพลัน พลางจ้องมองศิษย์ของตนด้วยแววตาโมโหระคนผิดหวัง

ภาพเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง คราวนี้ม่านฉายแสดงให้เห็นภาพของเฉินซีที่กำลังเผชิญหน้ากับการโจมตีหนึ่ง มันเกิดขึ้นที่หน้าประตูทองสัมฤทธิ์ซึ่งอยู่ด้านในทางเดินอนิจจัง เห็นได้ชัดว่าการโจมตีนี้เกิดจากพลังของน้ำเต้าฟ้าดินซึ่งอยู่ในการครอบครองของเล่อเชียนฉวน

การปะทะในครั้งนั้นทำให้ร่างกายของเฉินซีกระแทกเข้ากับประตูอย่างแรง ชายหนุ่มถึงกับกระอักเลือดออกมาคล้ายว่าจะต้องตายจากการโจมตีนี้แล้ว นับเป็นฉากที่น่าตกใจและให้ความรู้สึกอันตรายอย่างยิ่ง

เมื่อฉากนี้ฉายจบ สีหน้าของโจวจื่อหลี หวังต้าวหลู และอาจารย์คนอื่น ๆ ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าพลันเหี้ยมเกรียมขึ้น ดวงตาวาวโรจน์ไปด้วยกระแสเยือกเย็นซึ่งโอบล้อมรัศมีแห่งความอาฆาตเอาไว้

“พวกเจ้าไม่เพียงแต่ใส่ความศิษย์ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเท่านั้น แต่ยังเปิดฉากโจมตีหมายปลิดชีพเขาอีก ช่างเป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยมนัก!” โจวจื่อหลีวิพากษ์เสียงทุ้ม แม้ว่ามันจะฟังดูเรียบเฉยและเย็นชา หากก็แฝงไปด้วยโทสะอันคุกรุ่น

อีกฟากหนึ่ง ฉือหลิงจื่อและคนอื่น ๆ จากสำนักศึกษานภาไพศาลต่างก็มีสีหน้าย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ

พวกเขารู้ดีอยู่แล้วว่าเหตุใดเล่อเชียนฉวนและพวกจึงได้จงเกลียดจงชังเฉินซีเช่นนี้ เหตุผลนั้นหาใช่ใดอื่น มันเป็นเพราะความอัปยศอดสูที่อวิ๋นฝูเซิงได้สร้างไว้ให้สำนักศึกษาของพวกตนเมื่อหลายปีก่อน ทว่าไม่คิดเลยว่าเฉินซีจะบันทึกเรื่องเหล่านี้ไว้ทั้งหมด!

คนที่เหลือจากสำนักศึกษาอื่น ๆ ต่างรู้สึกแย่ในใจเมื่อได้เห็นฉากนี้ และเริ่มกังวลว่าภาพบนม่านฉายจะสร้างความอับอายให้พวกตนเป็นรายต่อไปหรือไม่

แต่ไม่ว่าคนอื่น ๆ จะรู้สึกอย่างไร ละอองแสงบนหน้าจอก็ยังดำเนินต่อไปโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดนิ่ง

เหตุการณ์ที่สามเกิดขึ้นในห้องโถงของวังนพเก้าหม้อกลั่นแห่งจักรพรรดิอวี่ ศิษย์จากสำนักศึกษาระทมสันต์ สำนักศึกษามหาเดียวดาย และสำนักศึกษานภาไพศาลกำลังปิดล้อมจี้เซวียนปิง จ้าวเมิ่งหลี และเจิ่นลู่เอาไว้

ช่างเป็นสถานการณ์ที่อันตรายยิ่ง!

เมื่อเหตุการณ์ออกมาเช่นนี้ สีหน้าของโจวจื่อหลีและบรรดาอาจารย์ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าก็ยิ่งแดงก่ำจนเกือบม่วงคล้ำ พวกเขาตระหนักแก่ใจดีว่าการที่ศิษย์ของตนเข้าไปในสุสานของราชันเซียนนั้น จะต้องเผชิญอันตรายมากมายเพียงใด ทว่าไม่คิดเลยว่านอกจากอันตรายของสุสานแล้ว ยังต้องรับมือกับศิษย์ของสำนักศึกษาอื่น ๆ ที่รวมหัวกันโจมตีเช่นนี้อีก!

อีกด้านหนึ่ง ดวงหน้าของคณาจารย์จากสำนักศึกษาอื่น ๆ กลับแข็งทื่อด้วยความโกรธเกรี้ยว ความดุดันเมื่อครั้งก่อนเลือนหายจากใบหน้าจนหมดสิ้น เหลือเพียงความซีดเซียวอย่างคนใกล้สิ้นสติแทน

เหตุการณ์ต่อมาที่ปรากฏบนม่านฉายคือภาพที่เฉินซีกำลังต่อสู้กับศิษย์จากสำนักศึกษาทั้งสามเพียงลำพัง ภาพที่น่าตกใจและเต็มไปด้วยการนองเลือดนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างล้นหลาม

ทว่าหากเทียบกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ฉากดังกล่าวก็หาได้เป็นประเด็นหลักแต่อย่างใด

เมื่อเหตุการณ์ถูกฉายมาจนถึงจุดนี้ ม่านแสงก็ค่อย ๆ สลายตัวไป

ทั้งห้องโถงอัดแน่นไปด้วยเสียงแห่งแรงกดดันที่แม้จะเงียบงันแต่ก็ดังก้อง

โจวจื่อหลีและอาจารย์คนอื่น ๆ ต่างมีสีหน้าหม่นหมอง เช่นเดียวกับอาจารย์สำนักศึกษาอื่น ๆ ที่ก็ดูย่ำแย่ไม่ต่างกัน

“จริงอยู่ที่การกระทำของศิษย์สำนักศึกษาของข้าจะดูรุนแรงเกินไปเล็กน้อย แต่มันก็ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการแข่งขันมิใช่หรือ? ไม่มีเหตุอันใดที่ต้องมาประหัตประหารกันแม้แต่น้อย ใช่หรือไม่เล่า?” ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉือหลิงจื่อก็พูดขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น หากแฝงเร้นไปด้วยความไม่พอใจ

“ใช่ ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าสำหนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าของเราเป็นฝ่ายเสียหายครั้งใหญ่” โจวจื่อหลีพยักหน้าเห็นด้วย

เมื่อฉือหลิงจื่อและคนอื่น ๆ ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของพวกเขาพลันกระตุกแรง นี่มันจะมากเกินไปแล้ว! จะหัวหงอกหรือหัวดำ คนของสำนักศึกษาจักรพรรดิก็ล้วนแต่เหี้ยมโหด!

“หึ! ข้าหวังว่าเจ้าจะดูแลมันเป็นอย่างดี หากเจ้าทำมันหายหรือเสียไปละก็ ต่อให้เจ้าจะมีเก้าชีวิตก็ชดใช้ไม่พอ!” ฉือหลิงจื่อกล่าวเสียงเดือดดาลก่อนจะหันหลังกลับ พาศิษย์ของตนออกไป ช่วยไม่ได้ เขากังวลว่าขืนอยู่ต่อ ทั้งโจวจื่อหลีและคนอื่น ๆ คงพยายามตีฟูให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตยิ่งกว่านี้แน่

ครั้นคนอื่น ๆ ที่มาจากสำนักศึกษาระทมสันต์ และสำนักศึกษามหาเดียวดายเห็นสิ่งนี้ ก็ต่างแสดงความโกรธขึ้นบนดวงหน้าหม่นหมอง

สำหรับศิษย์และอาจารย์จากสำนักศึกษาเมฆาหมอก สำนักศึกษาเต๋าเร้นลับ และสำนักศึกษากระแสวาตะ พวกเขาเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ด้วยความนิ่งเฉยมาตั้งแต่ต้น นอกเหนือจากเสียงถอนใจที่มีต่อความน่าเกรงขามของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ก็มีเพียงความโล่งใจในโชคดีที่พวกตนไม่ได้กินดีหมีหัวใจเสือ อาจหาญเข้าไปคุกคามคนของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเหล่านั้น หากไม่เช่นนั้นแล้ว พวกเขาก็คงมีชะตากรรมไม่ต่างจากสำนักศึกษานภาไพศาลและคนอื่น ๆ

หลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใด ๆ เกิดขึ้นอีก ทุกคนทยอยออกไปเพื่อเตรียมการพักผ่อน ตั้งใจที่จะออกเดินทางจากเมืองเมฆาสุบินในวันรุ่งเพื่อกลับไปยังสำนักศึกษาของตน

ทว่าก่อนที่พวกเขาจะจากไป ตงจวินโหวก็ได้ประกาศว่าในคืนนี้จะมีงานเลี้ยงที่โถงกลาง ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นการฉลองให้แก่ศิษย์ที่สอบผ่าน แน่นอนว่าสมบัติอมตะทั้งสามชิ้นจะถูกแจกจ่ายในเวลานั้น โดยมันจะกลายเป็นของรางวัลสำหรับศิษย์สามคนที่ทำผลงานในสมรภูมิฝันร้ายได้โดดเด่นที่สุด

“เจ้าทำได้ดีมากเฉินซี!” หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว โจวจื่อหลีก็เข้ามาชื่นชมเฉินซีพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้า คำชมนี้หาฟังได้ยากนัก เนื่องจากโจวจื่อหลีมักเข้มงวดกับลูกศิษย์ และไม่ค่อยออกปากแสดงความรู้สึกให้ผู้ใดได้ยินเท่าไรนัก ไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นว่าเขายิ้มหรือชื่นชมผู้ใด

“ผู้อาวุโสเมตตาข้าแล้ว” เฉินซีประสานมือคารวะ เขาสังเกตเห็นว่าในตอนนี้นอกจากโจวจื่อหลี หวังต้าวหลู และจั่วชิวไท่อู่แล้ว ก็ไม่พบร่างของทาปาเทียนซีอยู่ที่นี่แต่อย่างไร

“ไปพักผ่อนให้เต็มที่แล้วค่อยกลับมาที่ห้องโถงในตอนค่ำเถอะ ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นผลงานของเจ้าในสมรภูมิฝันร้าย” ทันทีที่โจวจื่อหลีพูดจบ เขาก็จากไปพร้อมกับหวังต้าวหลู และจั่วชิวไท่อู่ทันที

เดิมทีเฉินซีตั้งใจจะใช้โอกาสนี้เพื่อถามบางสิ่งกับจั่วชิวไท่อู่ ทว่าเมื่อเห็นเช่นนี้ เขาก็ทำได้เพียงแต่ล่าถอยไป

แต่ทันใดนั้น เฉินซีเหมือนจะจับสัมผัสถึงบางอย่างได้ ชายหนุ่มกวาดสายตาไปยังด้านข้างก่อนจะเห็นจั่วชิวจวินกำลังมองตนจากระยะไกลด้วยแววตาขุ่นเคืองและชิงชังอย่างยากจะปกปิด

ไม่ใช่เพียงจั่วชิวจวินเท่านั้น ทว่าศิษย์ทุกคนจากตระกูลจั่วชิว รวมไปถึงอ๋าวจ้านเป่ยและศิษย์อาวุโสคนอื่น ๆ ต่างก็จ้องมองมาด้วยความไม่พอใจไม่ต่างกัน แน่ล่ะ พวกเขาถูกเฉินซีเล่นงานในสุสานจนน่วม ไม่มีทางรู้สึกดีกับอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน

เฉินซีหันไปยิ้มให้จั่วชิวจวินครั้งหนึ่ง ก่อนจะพูดบางอย่างที่คนอื่น ๆ ไม่เข้าใจนัก “ดูเหมือนว่าตระกูลจั่วชิวของเจ้า… จะล้มเหลวอีกแล้วสินะ”

ผู้คนที่ได้ฟังต่างงุนงง มีเพียงจั่วชิวจวินเท่านั้นที่มีท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่เพียงแต่ความเกลียดชังและคั่งแค้น หากยังมีความคับข้องใจปรากฏขึ้นในแววตา ราวกับตนไม่ได้คาดหวังให้เฉินซีออกมาจากสมรภูมิฝันร้ายได้อย่างปลอดภัย…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]