บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1271

สรุปบท บทที่ 1271 คาบแรก: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

สรุปตอน บทที่ 1271 คาบแรก – จากเรื่อง บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

ตอน บทที่ 1271 คาบแรก ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดยนักเขียน novelones เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 1271 คาบแรก

บทที่ 1271 คาบแรก

ในช่วงเช้าของวันนี้

โอม!

คลื่นเสียงดังกระหึ่มมาจากทางด้านนอกของเคหา ทำให้เฉินซีตื่นจากการทำสมาธิ

“เฉินซี เจ้าพร้อมหรือไม่?” เฉินซีเปิดข้อจำกัดของเคหา และได้ยินเสียงที่ชัดเจนของจี้เซวียนปิง

เฉินซีตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นชายหนุ่มก็ตบหน้าผากตัวเอง ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาให้หัวฉับพลัน วันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะเข้าสู่เขตฝ่ายใน!

“โปรดรอสักครู่พี่จี้ ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้” เฉินซีเก็บกระดูกต้นกำเนิดของราชาปลาหยินหยางออกไป ก่อนจะออกจากเคหาพร้อมกับความเสียดายที่แล่นเข้ามาในหัวใจ แต่ก็กลับมาสงบทันที

ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วันมานี้ เขาเพิ่งเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับมหาเต๋าแห่งแสงสว่างและความมืด ซึ่งยังไม่เข้าใจพวกมันอย่างถ่องแท้ นับประสาอะไรกับการควบคุมพวกมัน ดังนั้นความรู้สึกเสียดายจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

เมื่อเฉินซีออกมาจากเคหา เขาก็เห็นจี้เซวียนปิงที่สวมเสื้อคลุมขนนกสีทองอ่อนและยืนเอามือไพล่หลัง เมื่ออีกฝ่ายสังเกตเห็นเฉินซี จี้เซวียนปิงก็เดินเข้ามาทักทายเฉินซีด้วยรอยยิ้ม

“มาเถอะ ศิษย์ทุกคนที่ผ่านการทดสอบของเขตฝ่ายใน จะต้องเข้าร่วมพิธี ‘รับน้องใหม่’ เจ้าต้องเตรียมตัวเตรียมใจด้วย” จี้เซวียนปิงยิ้มขณะที่กล่าวกับเฉินซี จากนั้นจึงทะยานวาบออกไปในระยะไกล

“พี่จี้ มีอะไรที่ข้าควรรู้เมื่อเข้าสู่เขตฝ่ายในหรือไม่?” เฉินซีตามไปติด ๆ และเอ่ยถามอย่างสงสัย

“ไม่ เพียงแต่ว่าอาจารย์ใหญ่ฝ่ายในมีนิสัยแปลก ๆ เขามักใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อเหยียบย่ำศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่เขตฝ่ายใน… อืม ข้าหมายถึงขัดเกลาพวกเขา และหากอธิบายในแง่ดี มันเป็นคาบแรกของการเข้าสู่เขตฝ่ายใน” จี้เซวียนปิงหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนไหวไหล่และหัวเราะอย่างขมขื่น “ไม่ว่าใครก็หลีกเลี่ยงไม่ได้”

เฉินซีตกตะลึง

คาบแรก? ขัดเกลา? นี่ดูเหมือนจะเป็นการแสดงอำนาจสินะ…

ในบรรดาห้าฝ่ายที่สำคัญของสำนัก ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ฝ่ายในเป็นสถานที่ที่ศิษย์สายนอกปรารถนาที่จะเข้าไปอย่างไม่ต้องสงสัย

เขตฝ่ายในตั้งอยู่ในพื้นที่หลักของสำนัก ก่อตั้งขึ้นบนแอ่งน้ำอันกว้างใหญ่ ล้อมรอบด้วยภูเขาและมวลเมฆอุดมสมบูรณ์ อาคารโบราณจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่ภายใน คล้ายอาณาจักรที่ตั้งตระหง่านอยู่ในแอ่งน้ำ

แต่ต่างจากอาณาจักรทั่วไป การจัดเรียงของเขตฝ่ายในสอดคล้องกับภูเขาโดยรอบ และมันก็เหมือนกับผลงานอันวิจิตรของธรรมชาติ

บนผืนฟ้า มีรัศมีอันเป็นมงคลสาดส่องไปทั่ว ขณะที่เมฆมงคลห้าสีรวมตัวกัน บนผืนดิน นกกระเรียนมงกุฎแดงกระพือปีก เห็นกวางสีขาวอยู่ราง ๆ เถาวัลย์บางขดอยู่รอบต้นไม้โบราณเก่าแก่ ดอกไม้แปลกประหลาดเปล่งประกายแสงสีเขียวหยก สัตว์ร้ายมากมายเคลื่อนไหว กล้วยไม้ปกคลุมเต็มช่องเขาในบริเวณโดยรอบ สมุนไพรอมตะเติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์บนหน้าผา โถงโบราณตั้งตระหง่านอยู่ทุกหนทุกแห่งราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า และทางเดินก็สลับกันไปมาเหมือนกระสวย

ฉากดังกล่าวดูเหมือนจะเกินความงามของธรรมชาติ คล้ายสรวงสวรรค์สำหรับผู้เป็นเซียนเสียมากกว่า

เมื่อเฉินซีและจี้เซวียนปิงมาถึงที่นี่ พร้อมกับเห็นฉากนี้ พวกเขาก็อุทานด้วยความประหลาดใจไม่รู้จบ

“แม้แต่ตระกูลของข้าก็ไม่มีสรวงสวรรค์เช่นนี้” จี้เซวียนปิงถอนหายใจ

เขามาจากตระกูลจี้ที่เก่าแก่ แต่กลับถอนหายใจและกล่าวประโยคดังกล่าวออกมา จึงเห็นได้ชัดว่าเขตฝ่ายในนั้นวิเศษเพียงใด

เฉินซีก็หายใจเข้าลึก ๆ เช่นกัน ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่า ไม่เพียงปราณเซียนที่หนาแน่นในฟ้าดินเท่านั้น ยังมีกระทั่งกลิ่นอายของความโกลาหล บรรพกาล การรังสรรค์ ต้นกำเนิด และอื่น ๆ อีกมากมาย ถึงขนาดที่เขาสามารถสัมผัสถึงพลังแห่งโชคลาภอันเป็นมงคลได้!

“ช่างน่ากลัวจริง ๆ!”

บางทีคงมีเพียงสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเท่านั้น ที่สามารถสร้างสิ่งฟุ่มเฟือยดังกล่าว และจัดเตรียมสรวงสวรรค์เพื่อให้ศิษย์สายในได้ฝึกฝน

ในขณะที่ทั้งสองถอนหายใจ เสียงคำรามอันรุนแรงและทุ้มหนัก ซึ่งเหมือนกับเสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นมาทันที “เจ้าเด็กเหลือขอสองตัวตรงนั้น มีอะไรน่าสนใจเกี่ยวกับภูมิทัศน์ขยะเหล่านี้หรือ? รีบไสหัวมาที่นี่ซะ!”

แค่ประโยคเดียวก็ทำลายกลิ่นอายอันเงียบสงบของสรวงสวรรค์แห่งนี้ได้ในฉับพลัน

ครืน!

แต่นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของมัน พร้อมกับเสียงคำรามที่ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน จู่ ๆ ก็มีภูเขาขนาดมหึมาสองลูกปรากฏขึ้นมาจากอากาศธาตุ พวกมันแฝงไปด้วยพลังอันรุนแรง ซึ่งโจมตีเฉินซีและจี้เซวียนปิงอย่างดุร้าย

พลังนั้นรุนแรงเกินไป จนถึงขั้นบดขยี้ความว่างเปล่าจนเกิดเสียงระเบิดโครมคราม จี้เซวียนปิงและเฉินซีไม่ทันตั้งตัว ทำได้เพียงต้านมันโดยอาศัยปฏิกิริยาตอบสนองของพวกตนเท่านั้น

ตู้ม! ตู้ม!

ภูเขาระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ ทำให้เกิดเศษหินกระเด็นไปรอบ ฝุ่นผงฟุ้งกระจาย แม้ว่าเฉินซีและจี้เซวียนปิงจะไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ แต่ร่างกายก็เต็มไปด้วยฝุ่นผง และตกอยู่ในสภาพที่น่าอับอายอย่างยิ่ง

สีหน้าของเฉินซีดิ่งลงทันที และเผยท่าทางไม่เป็นมิตร

“อย่าโมโหเลย นี่แหละอาจารย์ใหญ่ฉือฉางเซิง!” จี้เซวียนปิงรีบเตือนเฉินซีผ่านกระแสปราณเมื่อสังเกตสีหน้าของสหาย

สายตาของเฉินซีขยับขึ้นสูง และเห็นทันทีว่า ศิษย์ที่อยู่ในอันดับที่หนึ่งคือ พิรุณเผาผลาญหลิงชิงอู๋!

ส่วนอันดับสองคือ อเวจีเหล็กเยี่ยถัง

ชื่อสองคนนี้ ถูกห่อหุ้มด้วยชั้นแสงสีม่วงทองที่ส่องแสงระยิบระยับ มันเปล่งรัศมีที่สง่างามและน่าสะพรึงกลัวออกมา

ส่วนชื่อที่อยู่ด้านล่างถูกปกคลุมไปด้วยชั้นแสงสีทองเท่านั้น

เมื่อดวงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้า ปราณสีม่วงก็มาจากทิศตะวันออก!

เห็นได้ชัดจากสิ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลิงชิงอู๋หรือเยี่ยถัง พวกเขาก็เป็นหนึ่งในหกสุริยันอันเจิดจ้าและได้รับการยอมรับจากผู้คนในภพเซียน ดังนั้นพวกเขาจึงดูแตกต่างจากคนอื่นโดยปริยาย

ทว่าเฉินซีกลับรู้สึกสงสัย… จะต้องผ่านการทดสอบเช่นใด ถึงจะกลายเป็นหนึ่งในสุริยันอันเจิดจ้าได้? แล้วการที่ชื่อของหลิงชิงอู๋และเยี่ยถังถูกปกคลุมด้วยแสงสีม่วง เป็นเพราะพวกเขาคือหนึ่งในสุริยันอันเจิดจ้าใช่หรือไม่?”

ไม่นานนัก ศิษย์ทั้งสี่สิบเจ็ดคนที่ผ่านการทดสอบของฝ่ายในก็มาถึง

ดวงตาที่ดุร้ายและลึกล้ำของฉือฉางเซิงที่ยืนอยู่ในระยะไกล กวาดผ่านเฉินซีและคนอื่น ๆ ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะแปลก ๆ และเจ้าเล่ห์ ที่ฟังดูแหบแห้งและน่ากลัวราวกับเสียงหอน

ใจของทุกคนสั่นไหวเมื่อได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาต่างมีสีหน้าหนักใจ ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ทุกคนตระหนักดีว่า ‘คาบแรก’ กำลังจะเริ่มต้นแล้ว!

“โอ้ ข้าได้ยินมาว่า มีเพื่อนตัวน้อยสองสามคนในหมู่พวกเจ้า ที่ทำผลงานได้ดีในสมรภูมินอกพิภพ คือใครกัน? ก้าวออกมาให้ข้าดูหน่อย!” ฉือฉางเซิงกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง ดวงตากวาดผ่านเฉินซีและคนอื่น ๆ อย่างเย็นชา

ทุกคนตกตะลึง เพราะจะมีใครถามคำถามเช่นนี้บ้าง? แม้จะรู้สึกว่าการแสดงฝีมือของพวกตนไม่ได้แย่ แแต่ก็ยังลังเลว่าควรจะก้าวออกไปหรือไม่

เดิมทีเฉินซีตั้งใจที่จะก้าวออกไป แต่ชายหนุ่มก็สลัดความคิดนี้ทิ้งทันที เมื่อเขาเห็นปฏิกิริยาของคนอื่น ซึ่งคนที่เสนอหน้าออกไปก่อนมักจะต้องรับการโจมตีที่รุนแรง ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใจเย็น

“ไม่มีใครเลยหรือ? ฮ่า ๆ! พวกเจ้านี่ถ่อมตัวจริง ๆ ช่างหาได้ยาก! หาได้ยากจริง ๆ!” ฉือฉางเซิงหัวเราะอีกครั้ง ใบหน้าเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยความรังเกียจ

“ท่านอาจารย์ใหญ่ฉือ เฉินซีเป็นผู้แสดงผลงานที่ดีที่สุดในสมรภูมินอกพิภพในครั้งนี้ เขาบดขยี้เหล่าศิษย์ของสำนักทั้งหก และคู่ควรที่จะเป็นอันดับหนึ่งในการทดสอบครั้งนี้” ทันทีที่สิ้นเสียงของฉือฉางเซิง จู่ ๆ จั่วชิวจวินก็โค้งคำนับท่ามกลางฝูงชน แล้วกล่าวด้วยเสียงที่ชัดเจน ซึ่งเจือด้วยความจริงใจและเคารพ

“ไอ้สารเลวนี้จงใจวางกับดักให้เฉินซี!”

จี้เซวียนปิงขมวดคิ้ว พลางเหลือบมองสหายตนด้วยหางตา แน่นอนว่า แววตาของเฉินซีนั้นทอประกายเย็นชาอย่างรุนแรง และตระหนักได้ว่าจั่วชิวจวินมีเจตนาร้ายอย่างแน่นอน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]