บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1331

บทที่ 1331 บินสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์

บทที่ 1331 บินสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์

น่าเสียดายที่เตียนเตี้ยน สืออวี๋ และเซียงหลิวหลี ในยามนี้อยู่ในอารมณ์ไม่ดีนัก จึงไม่มีใครให้คำอธิบายแก่เฉินซี ว่ากระจกปฐพีไร้ขอบเขตเป็นสมบัติแบบใด

แต่ถึงอย่างนั้น เฉินซีก็ยังสามารถระบุได้ว่าเมื่อเข้าสู่ขอบเขตราชันเซียน แม้จะไม่ปะทะกันโดยตรง ทว่าในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาก็ยังใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อวางแผนขัดขวางและต่อสู้กันเอง

เห็นได้ชัดว่าเมื่อดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน สืออวี๋และคนอื่น ๆ ตามหลังนิกายอำนาจเทวะ ที่เข้าสู่ภูมิภาคบรรลุเทพไปแล้วอยู่หนึ่งก้าว

“ไม่มีเวลาให้เสียแล้ว เราต้องลงมือโดยเร็วที่สุด หากพวกเขาถึงเทวาคารบรรลุเทพก่อนเรา มันจะสายเกินไป…” สืออวี๋ขมวดคิ้ว

“เจ้าทั้งสองคนควรรู้ว่า เมื่อเราเข้าสู่ภูมิภาคบรรลุเทพ กฎของเต๋าแห่งสวรรค์และพลังแห่งกรรมภายในนั้นจะไม่อยู่ในการควบคุมของเราอีกต่อไป ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ราชันเซียนส่วนใหญ่ที่เข้าไปในนั้นมักจะดับสูญ และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถบรรลุเต๋าและกลายเป็นเทพได้”

สายตาที่เคร่งขรึมปรากฏขึ้นในดวงตาที่กระจ่างใสของเตียนเตี้ยน ขณะที่นางพูดช้า ๆ “ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ อาจกล่าวได้ว่าชีวิตของเราอยู่บนเส้นด้าย และถูกรายล้อมด้วยจิตสังหารอยู่ทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นในความคิดของข้า มันจะดีกว่าถ้าเราลงมืออย่างระมัดระวัง เราไม่ควรปล่อยให้นิกายอำนาจเทวะมาทำให้แผนของเรายุ่งเหยิง”

“ข้าเห็นด้วยกับพี่รัตติกาล ซากโบราณสถานแรกกำเนิดครานี้ มันเป็นสถานที่ที่กลียุคของสามภพเริ่มต้นขึ้น ภูมิภาคบรรลุเทพที่เงียบงันอยู่ในแม่น้ำแห่งกาลมาตลอดหลายปีนี้ ได้กลับมาปรากฏตัวขึ้นในโลกอีกครั้ง อาจกล่าวได้ว่าเป็นโชคลาภและภัยพิบัติมาคู่กัน แม้ว่าไอ้สารเลวจากนิกายอำนาจเทวะจะล่วงหน้าเข้ามาก่อนเรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายและจิตสังหารภายในนั้นได้”

เซียงหลิวหลีพูดเสียงเบา ๆ หน้าผากที่เรียบเนียนสั่นไหวด้วยแสงแห่งปัญญา “ดังนั้นเมื่อเราเข้าสู่ภูมิภาคบรรลุเทพแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการไปถึงเทวาคารบรรลุเทพอย่างปลอดภัย แทนที่จะวางแผนอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าเพื่อขัดขวางพวกนิกายอำนาจเทวะ”

ความจริงในเรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องง่ายมาก ดังนั้นสืออวี๋จึงเข้าใจมันโดยธรรมชาติ

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ตัดสินใจกันเถิด”

พวกเขาไม่ลังเลอีกต่อไปและเริ่มลงมือทันที ทั้งสี่พุ่งผ่านข้ามทะเลเลือดแห่งความตายที่เงียบงัน เข้าไปในประตูทองสัมฤทธิ์ขนาดมหึมาสองบานที่ตั้งตระหง่านบนท้องฟ้า ก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย

โครม!

ทันทีที่พวกเขาจากไป จู่ ๆ ก็เกิดเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าสั่นสะเทือนความว่างเปล่าอย่างรุนแรง และจากนั้นร่างสูงและสง่าก็ปรากฏขึ้นในอากาศ

“บ้าเอ๊ย! มันเกิดขึ้นจริง ๆ! อาจารย์ไม่ได้หลอกลวงข้า ครั้งนี้เต็มไปด้วยตัวแปรมากเกินไป ยิ่งมีโอกาสมากเท่าไร อันตรายก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น… แต่ถ้าเจ้าตัวเล็กนั้นเข้าไปแล้ว ข้าก็จะดึงเขากลับออกมาไม่ได้แล้ว…”

คนผู้นี้คือมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ประตูทองสัมฤทธิ์ขนาดมหึมาสองบานที่อยู่ใจกลางทะเลเลือด ใบหน้าหยาบกร้านและดุร้ายไม่อาจปิดร่องรอยของความกังวลได้อีก

“อนิจจา ไม่เป็นไร ข้ารอมาหลายปีแล้ว หากข้ายังไม่สามารถเป็นเทพได้ การมีชีวิตอยู่มันก็คงจะน่าเบื่อเกินไป…”

ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนที่จะกระทืบเท้ากลายเป็นสายฟ้าแห่งความมืดมิดอีกครั้ง และเข้าสู่ประตูที่นำไปสู่ภูมิภาคบรรลุเทพอย่างรวดเร็ว

นี่คือพื้นที่แห่งความว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ ที่เต็มไปด้วยหมอกอันวุ่นวาย และดาวเคราะห์ขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน ทำให้มันเหมือนกับจักรวาลอันยุ่งเหยิง

เมื่อเฉินซีเห็นภาพตรงหน้าอย่างชัดเจน หัวใจก็อดกระตุกอย่างรุนแรงไม่ได้

นี่ไม่ใช่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวของจักรวาลอย่างแน่นอน แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย มันเต็มไปด้วยปราณโกลาหล ไม่เพียงแต่จะมีดาวนับไม่ถ้วนอยู่ในความว่างเปล่า มันยังมีแผ่นดินกว้างใหญ่ที่ลอยอยู่ทั้งผืน มีทั้งภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และแม่น้ำ!

แผ่นดินทุกผืนที่ลอยอยู่พาดผ่านดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วน มันใหญ่โตอย่างไม่น่าเชื่อ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์นั้นดูราวกับว่าตั้งตระหง่านอยู่กลางจักรวาล ทั้งสูงส่งและกว้างใหญ่ แม่น้ำไหลเชี่ยวอย่างรุนแรงผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ก็ดูราวกับแม่น้ำแห่งโชคชะตาที่ไหลอยู่ชั่วนิรันดร์!

ยิ่งใหญ่มาก!

ไร้ขอบเขต!

เต็มไปด้วยปราณโกลาหล!

ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่นอกเหนือจินตนาการของเฉินซีไปแล้ว

นี่คือภูมิภาคบรรลุเทพ!

ความว่างเปล่าลึกลับอันไร้ขอบเขต ดินแดนแห่งโชคลาภที่ดึงดูดให้ราชันเซียนนับไม่ถ้วน ตั้งแต่ต้นยุคก่อนประวัติศาสตร์ มุ่งเข้ามาค้นหาเส้นทางสู่การเป็นเทพ!

ในเวลาเดียวกัน เฉินซีสังเกตเห็นว่าบนดวงดาวที่ลอยอยู่ บนผืนแผ่นดิน และบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ล้วนมีสมุนไพรอันล้ำค่ามากมายเติบโตอยู่ พวกมันทอแสงประกายอันศักดิ์สิทธิ์หลากสีสันและถูกห่อหุ้มไว้ด้วยชั้นปราณโกลาหล รัศมีศักดิ์สิทธิ์สาดส่องเต็มท้องฟ้า เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจที่ไม่มีใครเทียบได้

อย่างไรก็ตาม รัศมีอันน่าสะพรึงกลัวที่ชวนให้หัวใจหยุดเต้นกระจายอยู่มากมาย เห็นได้ชัดว่าความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตเต็มไปด้วยจิตสังหารแทบทุกประเภท และมันอันตรายอย่างยิ่ง

ตู้ม!

ขณะที่ความคิดพัดผ่านจิตใจของเฉินซีอย่างรวดเร็ว รัศมีอันน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งออกมาจากดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกล ปกคลุมท้องฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน มันเป็นสัตว์บินได้ขนาดมหึมามาก ปีกที่กางออกบดบังท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ ครอบคลุมพื้นที่กว่าพันลี้ ดวงตาสีแดงเข้มสองดวงดูราวกับดวงดาวขนาดมหึมา

สัตว์ร้ายบรรพกาลที่กลืนกินแก่นแท้ของสวรรค์และปฐพี แล้วคายแม่น้ำปรภพออกมา!

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เมื่อเห็นคุนเผิงปรากฏตัวขึ้น ทันทีที่เข้ามาก็ได้พบกับสัตว์ร้ายบรรพกาลที่น่ากลัวเช่นนี้เลยหรือ? แล้วในส่วนลึกของภูมิภาคนี้จะมีสิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงกลัวชนิดใดที่อาศัยอยู่กันแน่?

“เยี่ยม! คุนเผิงจริง ๆ ! แม้ว่ามันจะตายไปหลายปีแล้ว แต่วิญญาณของมันกลับยังคงอยู่ มันสามารถเอามาใช้เป็นวัตถุดิบศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]