บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 14

บทที่ 14 การฝึกฝน
บทที่ 14 การฝึกฝน

วิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพถูกแบ่งเป็นเจ็ดระดับ

ระดับแรก: ปรับแต่งผิวด้วยเหล็ก คือ พลังเจ็ดดาราทองจะถูกดึงมาเพื่อปรับสภาพผิว

ระดับสอง: ทำให้กระดูกแข็งขึ้นด้วยเพลิง คือ พลังดาราเพลิงจะถูกดึงมาเพื่อทำให้กระดูกแกร่งขึ้น

ระดับสาม: นวดเส้นเอ็นด้วยวารี คือ พลังดารานทีอันยืดหยุ่นจะถูกดึงมาเพื่อนวดเส้นเอ็น

ระดับสี่: คลายกล้ามเนื้อด้วยดิน คือ พลังดาราปฐพีอันแน่นหนาจะถูกดึงมาเพื่อทำให้เนื้อและเลือดเย็นลง

ระดับห้า: หล่อหลอมร่างกายกับไม้ คือ พลังดาราพฤกษาที่ถูกดึงมาเพื่อหล่อหลอมร่างกายเสียใหม่

จนถึงตรงนี้ การปรับแต่งร่างกายสำหรับขอบเขตสมบูรณ์แบบได้บรรลุไปแล้ว

“มันน่าเกรงขามตามที่คาดไว้ สามารถบ่มเพาะให้สมบูรณ์แบบภายในขอบเขตก่อกำเนิดโดยใช้พลังแห่งดาราจักรขัดเกลาทั้งร่าง มันยอดเยี่ยมกว่าเคล็ดวิชาขัดเกลากายาทั่วไปอย่างไม่อาจเทียบกันได้”

เฉินซีอุทานด้วยความลิงโลด ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วพึมพำ “ถึงกระนั้น เรียบง่ายหาได้แปลว่าง่ายไม่ เดิมทีวิธีการปรับแต่งร่างกายนั้นยากอย่างยิ่ง และผู้ที่ไม่มีความอุตสาหะและจิตตานุภาพมากพอจะไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดที่เกิดจากการปรับแต่งร่างกายได้อย่างเต็มที่ วิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพนี้มาจากปรมาจารย์ของเคหาบ่มเพาะแห่งยุคบรรพกาลเมื่อล้านปีก่อน การฝึกฝนย่อมยากกว่าเคล็ดวิชาปรับแต่งร่างกายทั่วไป”

จิตใจของเฉินซีเย็นลงมากเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ และเริ่มอ่านต่อ

ระดับหกคือการปรับแต่งร่างกายของขอบเขตก่อกำเนิด เมื่อมาถึงระดับนี้ พลังชีวิตและเลือดทั่วร่างกายจะเพิ่มขึ้นเท่าทวี ปราณและพลังชีวิตไหลผ่านร่างกายดุจสายรุ้ง และคนผู้นั้นจะมีความแข็งแกร่งมหาศาลจนสามารถเคลื่อนภูเขาได้

ระดับเจ็ดคือการปรับแต่งร่างกายของขอบเขตตำหนักอินทนิล เมื่อมาถึงระดับนี้ พลังงานลึกลับอันน่าสะพรึงกลัวจะไหลออกมาจากระหว่างเนื้อหนัง เลือด และเชิงกราน พลังงานจ้าววิญญาณ! เมื่ออาศัยพลังงานนี้ คนผู้นั้นจะสามารถฝึกฝนวิชาลับ ทักษะศักดิ์สิทธิ์ วิชาเฉพาะ และวิธีการปรับแต่งสภาพร่างกายสุดพิเศษได้ ยกตัวอย่างเช่น วิชาแปลงหมัดภูผา วิชาร่างแปลงสวรรค์ ร่างทองมิอาจเคลื่อน และอีกมากมายนัก

“พลังงานจ้าววิญญาณ? เป็นไปได้ไหมว่ามันคล้ายกับปราณแท้? ทว่าทักษะศักดิ์สิทธิ์และวิชาเฉพาะคือสิ่งใด? น่าเสียดายที่ข้ามีความรู้เกี่ยวกับการปรับแต่งร่างกายเพียงเล็กน้อย ข้าจักต้องหาโอกาสที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมดให้ได้ มิเช่นนั้นยามฝึกฝนคงได้หยุดชะงักเป็นแน่”

เฉินซีไตร่ตรองอย่างเงียบ ๆ จากนั้นจึงนึกถึงปัญหาอื่น ‘วิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพนี้มาจากปรมาจารย์ของเคหาบ่มเพาะ ซึ่งย่อมสามารถใช้ฝึกฝนไปได้จนถึงระดับสูงล้ำแน่นอน เป็นไปได้หรือไม่ว่าเนื้อหาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นนั้นยังอยู่ในกำมือของผู้อาวุโสจี้อวี๋?’

‘ไม่เป็นไร มันไม่มีประโยชน์ที่จะคิดอีกต่อไปแล้ว ข้าควรจะบรรลุขอบเขตตำหนักอินทนิลโดยเร็ว จากนั้นเมื่อข้าเข้าไปในคฤหาสน์อีกครั้ง ตราบใดที่ข้าสามารถผ่านระดับที่หนึ่งของบททดสอบสรวงสวรรค์ได้ ผู้อาวุโสจี้อวี๋ก็ควรส่งต่อเนื้อหาวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพให้ข้าในภายหลัง’

เฉินซีลุกขึ้นและออกจากบ้านของเขา

ท้องฟ้ายามราตรีเป็นสีดำสนิท และดวงดาวดุจไข่มุกอันเจิดจรัสริบหรี่บนผืนม่านรัตติกาล กำลังทอดแสงดาวอันเยือกเย็นที่น่าหลงใหลและลึกซึ้ง

เฉินซีเงยหน้าขึ้นและครุ่นคิดเกี่ยวกับการฝึกฝนการปรับแต่งร่างกายขั้นแรกของวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพอย่างเงียบงัน ขณะจ้องมองไปยังดารานับไม่ถ้วนบนท้องฟ้า ผ่านไปนาน คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน จากนั้นชายหนุ่มก็พึมพำออกมา “มันยากมาก!”

การขัดเกลาร่างกายของวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพมีอุปสรรคอันยิ่งใหญ่อยู่สองสามอย่าง และการเริ่มต้นก็เป็นหนึ่งในนั้น

หากใครต้องการดึงพลังเจ็ดดาราทองเพื่อปรับแต่งร่างกาย ขั้นตอนแรกจะต้องสัมผัสถึงดาวศุกร์ ซึ่งเต็มไปด้วยพลังเจ็ดดาราทอง ขั้นตอนที่สองคือการสร้างความเชื่อมโยงกับดาวดวงนี้โดยมีร่างกายเป็นศูนย์กลาง มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถดูดซับและดึงพลังเจ็ดดาราทองเพื่อทำให้ผิวอ่อนนุ่มลงได้

ในบรรดาดวงดาวทั้งหมด ดาวศุกร์เป็นดาวที่สว่างที่สุด และหากผู้ใดจะระบุมันด้วยความระมัดระวัง ก็จะใช้เวลาไม่นานในการค้นหามัน ส่วนการใช้พลังเจ็ดดาราทองเพื่อปรับสภาพผิว มันไม่ได้ถือว่ายากเกินไป และจำเป็นต้องฝึกฝนตามวิธีการบ่มเพาะเท่านั้น

ที่ยากที่สุดคือขั้นตอนที่สอง สัมผัสดาวศุกร์และเชื่อมโยงกับมัน

โชคดีที่วิธีการสัมผัสดาวศุกร์ถูกบันทึกไว้ในทักษะการฝึกวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพอย่างละเอียด และแม้ว่าวิธีการจะซับซ้อน แต่ก็สามารถแก้ไขความต้องการเร่งด่วนของเฉินซีได้

“สำเร็จหรือไม่ ลองสักครั้งย่อมไม่เสียหาย…” เฉินซีสูดหายใจลึก ๆ จนกระทั่งสภาวะจิตใจของเขากลับมาสงบนิ่งในที่สุด เขาก็ค่อย ๆ หลับตาลง จากนั้นนั่งไขว่ห้างอยู่บนพื้นลานและเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อเผชิญหน้ากับดวงดาราที่สว่างที่สุดบนขอบฟ้าอันไกลโพ้น

จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นตรงตำแหน่งหน้าอกอย่างเฉื่อยช้า นิ้วของเขาคดงอประหนึ่งเถาวัลย์ เพื่อสร้างผนึกโบราณจำนวนมากซึ่งให้ความรู้สึกลึกลับและล้ำลึก

ทีละดวง ตราประทับมือปรากฏขึ้นและถูกทำลายลง ราวกับน้ำขึ้นและลง ดูเหมือนไร้ที่สิ้นสุด

หลังจากผ่านไปครึ่งเค่อ*[1] เฉินซีก็หยุดลงทันที ฝ่ามือขวาของเขาคว้าสวรรค์ และฝ่ามือซ้ายของเขาก็ฝังลงดิน ชายหนุ่มไม่ได้เคลื่อนไหวอีกต่อไป เหมือนกับการแกะสลักหินเงียบ ๆ ที่ปล่อยความสงบออกมาอย่างผิดปกติ

กริ๊ง!

เสียงเหมือนระฆังอูฐอันแผ่วเบาแว่วมาจากทะเลทรายอันไกลโพ้น นำร่องรอยของพลังงานอันเงียบสงบที่ชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ ดังก้องไปทั่วทะเลแห่งจิตสำนึกของเฉินซี

“เขาเริ่มบ่มเพาะแล้วหรือ?” ภายในเคหาบ่มเพาะ จี้อวี๋เงยหน้าขึ้นจากแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว ดูเหมือนว่ากำลังฟังอะไรบางอย่าง สายตาลุ่มลึกอันเปี่ยมด้วยประสบการณ์ชีวิตเผยให้เห็นร่องรอยความผิดปกติ ราวกับตื่นเต้น แต่ก็ยังคงสั่นไหวระริก…

เฉินซีรู้สึกเหมือนตนเองมีปีกที่ทะยานขึ้นไป ยังสรวงสวรรค์ และมุ่งสู่ส่วนลึกของนภารัตติกาล โดยไม่รู้จักเหนื่อยล้าหรือจุดสิ้นสุดของผืนฟ้า

โบยบินผ่านหมู่ดาวพร่างพรายบนท้องฟ้าทีละดวง

ทะยานผ่านหลุมดำที่ลึกและเงียบสงัดซึ่งทำให้เกิดความกลัวในใจผู้คน

ผ่านหมู่ฝนดาวตกที่เหมือนดอกไม้ไฟบานทีละกลุ่ม

ในท้ายที่สุด เขาก็หยุดอยู่บนอวกาศที่กว้างใหญ่ไพศาล และมีเพียงดาวดวงเดียวที่นี่ เป็นดาวขนาดมหึมาที่เปล่งแสงสีทองออกมานับล้าน

แสงสีทองนั้นแหลมคมราวกับกระบี่ และดาวทั้งดวงเปรียบดุจกระบี่นับเล่มไม่ถ้วนกำลังเปล่งไอปราณเย็นเฉียบ และพุ่งออกมาอย่างแรงกล้า จนมิอาจมองใกล้ ๆ ได้

แสงสีทองที่หนาแน่นนั้นคือพลังเจ็ดดาราทอง?

จิตใจของเฉินซีกระจ่างใสขึ้นยามโชคลาภเข้ามาใกล้ จากนั้นชายหนุ่มก็นั่งไขว่ห้างในอากาศด้วยท่าทางที่เงียบสงบขณะที่หลับตาลง

ในขณะนี้ แสงดาวที่เย็นยะเยือกและของเหลวสาดโปรยลงมาจากดวงดาราที่อยู่เหนือท้องฟ้ายามค่ำคืน ละอองฝนโปรยปรายเงียบงันและต่อเนื่อง ร่วงลงสู่ลานบ้านและชำระล้างร่างกายของเฉินซี

ฉากนี้เป็นฉากที่แปลกใหม่มาก ดุจดั่งสะพานแสงที่บางเฉียบประหนึ่งสายลาก ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่างสวรรค์และโลก เชื่อมโยงเฉินซีและดาวศุกร์เอาไว้!

หืม?

ราวกับสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เหล่าตัวตนน่าสะพรึงกลัวนับพันแถบอาณาเขตทางใต้อันกว้างใหญ่ ต่างจ้องมองไปทางทิศใต้ด้วยความงงงวย ตกใจ และอีกมากมาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]