บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1460

บทที่ 1460 เหตุไม่คาดคิดภายในค่ายกล

……………………………………………………………………..

บทที่ 1460 เหตุไม่คาดคิดภายในค่ายกล

ค่ายกลขจัดเทพ แท้จริงแล้วถูกวางโดยประมุขแห่งนิกายอำนาจเทวะ!

ครั้นพวกเขาได้ยินเสียงหัวเราะอันพึงพอใจของซุ่ยเหรินถิง เฉินซี และคนอื่น ๆ ต่างประหลาดใจรวมถึงวิตกกังวล

“มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรือ?” หลียางยังคงสงบสติอารมณ์ เจดีย์แก้วในมือของนางปลดปล่อยอักขระยันต์ออกมามากมาย โดยที่พวกมันควบแน่นเป็นม่านกำแพงอันงดงามที่ต้านทานการโจมตีจากทุกทิศทางอย่างมั่นคง

“แน่นอน!” ซุ่ยเหรินถิงหัวเราะดัง ๆ อยู่นอกค่ายกล “คุกเนตรเซียนที่อยู่ใต้ทะเลทรายเนตรสวรรค์นี้ ว่ากันว่าผู้เป็นเซียนและปีศาจยังต้องหนีห่างจากมัน ขณะที่ทวยเทพไม่อาจสั่นคลอนมันได้! ทว่าพวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าคุกเซียนแห่งนี้ แท้จริงแล้วเรียกว่าโซ่ตรวนแห่งภัยพิบัติ! มันถูกสร้างโดยประมุขแห่งนิกายอำนาจเทวะของข้าเมื่อหลายปีก่อน และไม่ใช่เพื่อจองจำนักโทษของตระกูลจั่วชิว แต่เพื่อบดขยี้พวกนอกรีตอย่างพวกเจ้าในวันนี้!”

ทันใดนั้น เสียงของซุ่ยเหรินถิงดังกึกก้องไปทั่วฟ้าดิน ทั้งยังเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ “โดยมีคุกเนตรเซียนเป็นรากฐานของค่ายกล และอาศัยวังวนโลกาวินาศเป็นแกนหลัก เพื่อที่จะสร้างค่ายกลขจัดเทพจากแดนเทพโบราณ การเตรียมการที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ แม้ว่าศิษย์ของเขาเทพพยากรณ์ทั้งหมดจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง ก็ไม่มีทางหลบหนีไปได้อย่างแน่นอน!”

พอสิ้นคำกล่าว เขาหัวเราะออกมาดัง ๆ ทั้งยังอวดดีและหยิ่งผยองจนถึงขีดสุด

โครม!

ราวกับเป็นการพิสูจน์คำพูดของซุ่ยเหรินถิง พลังของค่ายกลขจัดเทพที่ปกคลุมทั่วทั้งทะเลทรายเนตรสวรรค์ก็เพิ่มขึ้นสูงในยามนั้น โซ่ศักดิ์สิทธิ์สีดำมากมายที่หนาพอ ๆ กับหินโม่ได้บิดเป็นเกลียว และฟาดลงมาอย่างบ้าคลั่ง!

ทันใดนั้น ค่ายกลศักดิ์สิทธิ์ก็ปะทุด้วยพลังแห่งการทำลายล้างอีกครั้ง อำนาจของมันมากมายมหาศาลดั่งกระแสน้ำในมหาสมุทรที่ตั้งใจจะกลืนกินสวรรค์และโลกทั้งใบ ทำลายกาลเวลา ห้วงมิติ และบดขยี้ทุกสิ่งในปฐพีให้เป็นผุยผง!

พลังของมันเพิ่มขึ้นอย่างระเบิดมากกว่าสองเท่า!

ทั้งหมดนี้มาจากวังวนโลกาวินาศที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้า ซึ่งเสมือนแหล่งพลังงานที่อัดแน่นอยู่ในค่ายกล มันสะท้อนและผสมผสานกันจากระยะไกล เพื่อเพิ่มพูนพลังของค่ายกลอย่างไม่หยุดยั้ง!

ใต้ผืนทรายของทะเลทรายเนตรสวรรค์ จู่ ๆ แถวของอักขระที่คลุมเครือและหนาแน่นก็สว่างวาบเหนือคุกเนตรเซียน ซึ่งแต่เดิมถูกผนึกไว้ในดินแดนเร้นลับ โดยมันได้หลอมรวมเข้ากับค่ายกลขจัดเทพและวังวนโลกาวินาศ จนถึงจุดที่สมบูรณ์แบบ!

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุกเนตรเซียนได้จองจำผู้ทรยศและกบฏมากมายจากตระกูลจั่วชิว ทว่าทุกคนล้วนเสียชีวิตพร้อมกันในเวลานี้!

เลือด วิญญาณ ซากศพ ปราณเซียนพิสุทธิ์ พลังชีวิต… ทุกสิ่งกลายเป็นพลังงานไร้รูปร่างที่ถูกดูดซับโดยค่ายกล และสลายหายไปทันที

หากเฉินซีเห็นเหตุการณ์นี้เข้า สีหน้าของเขาคงเปลี่ยนไปทันที เพราะสิ่งนี้… เกี่ยวพันถึงชะตากรรมของมารดาเขา จั่วชิวเสวี่ย!

เสียงหัวเราะดังสนั่นของซุ่ยเหรินถิง และการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในค่ายกล ก็ทำให้สีหน้าของทุกคนที่ติดอยู่ในนั้นเปลี่ยนไปอีกครั้ง มันดูเคร่งขรึมและมืดมน

เพราะในขณะนี้ พวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง และนั่นก็เพราะพลังของค่ายกลกำลังเติบโตอย่างบ้าคลั่ง!

ในขณะนี้ เป็นเรื่องยากที่จะเห็นหลียางนิ่งเงียบเช่นนี้ สีหน้าของนางค่อย ๆ กลายเป็นเคร่งขรึม ด้วยเหตุทั้งหมดนี้ได้เกินความคาดหมายของนางไปแล้ว!

คิ้วของเหมิงซิงเหอขมวดเข้าหากัน

ในขณะนี้ สีหน้าของศิษย์ทั้งสี่จากตำหนักเต๋าหนี่หวาก็เริ่มเคร่งขรึมเช่นกัน

พลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวของค่ายกลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนี้ ได้กดดันพวกเขาจนเริ่มรู้สึกตึงเครียด และพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ความสามารถทั้งหมดเพื่อต้านทานมัน

ในขณะนี้ แม้แต่จ้าวไท่ฉือ อ๋าวจิ่วหุย และฉือฉางเซิงก็ไม่กล้าที่จะยั้งมือ พวกเขาต่างยื่นมือช่วยเหลือเพื่อต้านทานแรงกดดันที่มาจากทุกทิศทางโดยไม่รอช้า!

สำหรับเฉินซี เซวียนหยวนเส้า หัวเจี้ยนคง ราชันเซียนรัตติกาล และคนอื่น ๆ พวกเขาทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งยังรู้สึกกังวลอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้เลย

เพราะเมื่อเผชิญกับพลังของค่ายกลนี้ การบ่มเพาะที่ขอบเขตเทวายังไม่เพียงพอที่จะต้านทานด้วยซ้ำไป!

“ข้าเข้าใจแล้ว พวกมันคิดอาศัยพลังของค่ายกลขจัดเทพ วังวนโลกาวินาศและคุกเนตรเซียนเพื่อที่จะบดขยี้พวกเราทุกคน แล้วจึงสังเวยด้วยโลหิตเทพของเราเพื่อหล่อเลี้ยงวังวนโลกาวินาศ เพื่อที่จะชักนำกลียุคของทั้งสามภพลงมา”

ทันใดนั้น หลียางกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา และสีหน้าของนางก็เคร่งขรึมอย่างยิ่ง “แผนการช่างโหดเหี้ยมอะไรเช่นนี้! ไม่แปลกใจเลยที่ท่านอาจารย์เคยกล่าวไว้ว่า ถ้าเป็นในแง่ของแผนการ นิกายอำนาจเทวะนั่นน่าเกรงขามที่สุดในสามภพ บัดนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างที่ท่านกล่าวจริง ๆ!”

คำพูดของนางเต็มไปด้วยน้ำเสียงที่เกลียดชัง

หลังสิ้นคำ มันก็ทำให้คนอื่น ๆ สั่นสะท้านด้วยความกลัว ร่างกายพวกเขารู้สึกหนาวเย็น “พวกมันตั้งใจจะฆ่าพวกเรา แล้วจึงสังเวยโลหิตเทพเพื่อชักนำกลียุคของสามภพลงมาหรือ!?”

“ความสามารถในการวางแผนของนิกายอำนาจเทวะ ช่างน่าประหลาดใจและเหลือเชื่อจริง ๆ!”

โดยเฉพาะเฉินซี เขาอดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงการตายของบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง ซึ่งก็คือดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหล ผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยบรรพกาลเช่นนั้นก็ต้องกลแผนการของปรมาจารย์แห่งนิกายอำนาจเทวะ และเสียชีวิตขณะขึ้นสู่จุดสูงสุดของมหาเต๋า โดยที่อีกก้าวเดียวก็จะบรรลุความสำเร็จ ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดจากสิ่งนี้ ว่าความสามารถของประมุขของนิกายอำนาจเทวะนั้นน่ากลัวเพียงใด!

“ศิษย์น้องหลียาง เรามิอาจรอต่อไปได้แล้ว” เหมิงซิงเหอกล่าว ดวงตาพลันทอประกายเจิดจ้า “พลังของค่ายกลขจัดเทพกำลังเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หากเป็นเช่นนี้ต่อไป สถานการณ์ที่เราเผชิญอยู่ก็จะมีแต่อันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นสิ่งสำคัญในตอนนี้ คือทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อฝ่าค่ายกลออกไป!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]