บทที่ 1479 จิตสังหารอันเดือดพล่าน
……………………………………………………………………..
บทที่ 1479 จิตสังหารอันเดือดพล่าน
เหนืออาคารใหญ่โตที่กว้างใหญ่ ชายวัยกลางคนสวมชุดสีดำยืนตัวตรงด้วยสีหน้าเย็นชาและเคร่งขรึม
“บังอาจนักเยว่เหวินไห่! ดูเสียก่อนว่าเราเป็นใคร? รีบถอยไปซะ อย่าได้แส่หาเรื่อง! หวังต้าวหลูและอาจารย์คนอื่น ๆ ตะโกนเสียงดัง
“หรือพวกเจ้าทุกคนตั้งใจจะสอดมือกับเรื่องนี้? ข้าขอเตือนว่าอย่าได้หาเรื่องใส่ตัว และเพียงรอให้เจ้าสำนักคนใหม่ได้รับเลือก เพียงรออยู่เฉย ๆ จะเป็นการดีที่สุด!”
เยว่เหวินไห่กล่าวด้วยสีหน้าหมองคล้ำ และกล่าวตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง
ขณะที่กล่าว เขาได้เปิดใช้งานข้อจำกัดบนอาคารขนาดใหญ่ ทำให้เกิดความผันผวนอันน่าสะพรึงกลัวที่ห่อหุ้มอาคารขนาดใหญ่ไว้
“คนผู้นี้คือใคร?” คิ้วของเฉินซีขมวดเข้าหากัน จิตสังหารอันเดือดพล่านพุ่งออกมาจากดวงตา
“อาจารย์จากฝ่ายสงวนคัมภีร์ของเขตชั้นใน เขามีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลเจี้ยงมาโดยตลอด และดูเหมือนว่าจะเข้าร่วมกับกองกำลังของตระกูลเจี้ยงด้วย” หวังต้าวหลูอธิบายด้วยความโกรธเกรี้ยว
อาจารย์คนอื่น ๆ ก็โมโหเช่นกัน เพราะปกติแล้วเย่วเหวินไห่มักจะเป็นคนถ่อมตัว ไม่เคยคิดเลยว่าคนผู้นี้จะน่ารังเกียจได้ถึงเพียงนี้
ทันใดนั้น เฉินซีก็ฟันปราณกระบี่ที่หนาและใหญ่ขึ้นไปถึงสวรรค์ มันเปล่งประกายแวววาวขณะที่ปลดปล่อยแผ่นยันต์ที่ไร้ขอบเขตออกมา ซึ่งฟันลงมาจากฟากฟ้า
“ฮึ่ม! เจ้ากล้าโจมตีหรือ? ช่างโง่เขลาเสียจริง!” เยว่เหวินไห่แค่นเสียงเย็นและดูถูกเหยียดหยามอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อจำกัดที่นี่แข็งแกร่งมาก เขาจึงไม่คิดจริงจังกับการโจมตีของเฉินซีเลย
โครม!
ทว่า… ในช่วงเวลาต่อมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เมื่อปราณกระบี่นั้นพุ่งลงมา มันก็สั่นสะเทือนข้อจำกัดทั้งหมด และแผ่นยันต์ที่หลั่งไหลออกมาจากปราณกระบี่อย่างหนาแน่น ถึงกับ ‘ฟัน’ ข้อจำกัดจนแยกแตกสลาย!
เพียงชั่วพริบตา อาคารขนาดใหญ่ก็ถูกฟันออกจากกัน มันพังทลายและแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ทำให้ฝุ่นผงและควันฟุ้งกระจายไปทั่ว
โดยที่ไม่ระวังตัว เยว่เหวินไห่ก็ถูกโจมตีด้วยปราณกระบี่ ทำให้กระอักเลือดออกมาเต็มปาก ขณะที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
ตู้ม!
มีร่างหนึ่งพุ่งทะลุท้องฟ้าและกระทืบเข้าที่หน้าอกของเย่วเหวินไห่ซ้ำ มันกระแทกเขาลงบนพื้นอย่างดุเดือด กระดูกทุกส่วนในร่างกายแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทำให้เลือดทะลักออกจากทวารทั้งเจ็ด และเผยให้เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกลัวอย่างไร้ขอบเขต
ตั้งแต่ชั่วพริบตาที่ทำลายข้อจำกัด จนถึงช่วงเวลาที่สังหารเยว่เหวินไห่ เวลาผ่านไปเพียงครู่เดียวเท่านั้น เมื่อหวังต้าวหลูและคนอื่น ๆ ฟื้นจากอาการตกใจ เยว่เหวินไห่ก็เสียชีวิตคาที่แล้ว
ในขณะนี้ ทุกคนต่างเป็นที่ประจักษ์ต่อความแข็งแกร่งที่เฉินซีครอบครอง หัวใจของพวกเขาสั่นไหว และรู้สึกถึงความหวังเสี้ยวเล็ก ๆ ในใจ บางทีเฉินซีอาจจะยุติความขัดแย้งภายในสำนัก และบดขยี้ศัตรูทั้งหมดได้จริง ๆ
หลังจากที่ขจัดสิ่งกีดขวางออกไปแล้ว เฉินซีก็ไม่หยุดแม้แต่น้อย และก้าวยาวไปข้างหน้า เนื่องจากการมาที่นี่ในวันนี้ ย่อมไม่คิดที่จะยุติเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยการเจรจา ตราบใดที่สามารถทำให้สำนักมั่นคงได้ ต่อให้ต้องสังหารจนเลือดไหลรินเป็นแม่น้ำเขาก็จะทำ
…
ลึกเข้าไปในเขตชั้นในก็ยังมีแดนเร้นลับและพื้นที่หวงห้าม ซึ่งไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ทั้งยังดูเหมือนไร้ขอบเขต
ตลอดทาง เฉินซีได้สังหารศัตรูที่ขัดขวางเส้นทางไปอีกสิบคน โดยไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ทั้งหมดล้วนถูกสังหารด้วยกระบวนท่าเดียว ซึ่งขับเน้นให้ชายหนุ่มดูเย็นชาและเด็ดขาดมากยิ่งขึ้น
หวังต้าวหลูและคนอื่นติดตามไปติด ๆ เดิมทีพวกเขาตั้งใจที่จะต่อสู้และช่วยแบ่งเบาภาระ แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ไม่สามารถไล่ความเร็วที่เฉินซีใช้สังหารได้อย่างเลย ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงคลื่นแห่งความตกตะลึงในใจ
ในไม่ช้า ภายในระยะสายของพวกเขา ตำหนักศักดิ์สิทธิ์อันเปล่งประกายปรากฏขึ้นอยู่ในระยะไกล
ตำหนักนั้นตั้งตระหง่านอยู่ในฟ้าดิน เปล่งประกายแสงสีทองเจิดจ้า เผยกลิ่นอายอันสูงส่ง เคร่งขรึม และเงียบสงบ
กำแพงขนาดใหญ่และอาคารอันงดงามตั้งตระหง่านล้อมรอบตำหนัก และเปี่ยมล้นด้วยแสงอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมองจากระยะไกล ใคร ๆ ก็สามารถเห็นเส้นชะตากรรมจาง ๆ ที่ขดอยู่รอบตัวตำหนัก ซึ่งดูไม่ธรรมดาและลึกลับ
ตำหนักศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิเต๋า!
สายตาเฉินซีดุจสายฟ้าที่พุ่งไปในระยะไกล ตำหนักนั้นมีขนาดมโหฬาร และตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน ในขณะที่เชื่อมโยงกับแม่น้ำแห่งดวงดาวในจักรวาล มีอาคารมากมายรายล้อมราวกับต้นไม้ในป่า พวกมันดูรุ่งโรจน์ งดงาม ทั้งปกคลุมไปด้วยรัศมีอันสง่างามที่เก่าแก่และเคร่งขรึม
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกลิ่นอายที่กระตุ้นความเคารพในหัวใจของผู้อื่นท่ามกลางอาคารเหล่านี้ และกลิ่นอายนี้จะชัดเจนยิ่งขึ้นตามการบ่มเพาะ
มันคือพลังงานแห่งชะตากรรม ขณะที่ตำหนักศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิเต๋าตั้งอยู่ที่นี่ มันก็เหมือนกับจุดสำคัญที่ยึดชะตากรรมทั้งหมดของสำนักจักรพรรดิเต๋าไว้มาตั้งแต่สมัยบรรพกาลจนถึงปัจจุบัน!
อาจกล่าวได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นหัวใจของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ซึ่งเป็นศูนย์กลางของมัน ถูกสืบทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพกาลมาจนถึงปัจจุบัน และมีความสามารถอันน่าอัศจรรย์มากมาย
แต่หลังจากนั้น เฉินซีก็ต้องขมวดคิ้ว
จุดที่เขายืนอยู่นี้ แม้ดูเหมือนจะมุ่งตรงไปยังตำหนักศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิเต๋า แต่แท้จริงแล้วยังมีห้วงมิติหลายชั้นที่แยกพวกเขาออกจากกัน เหมือนกับโลกที่ทับซ้อนกัน และไม่มีทางที่คนธรรมดาจะไปถึงตำหนักศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิเต๋าได้ แม้จะบินไปหามันยาวนานนับชั่วนิรันดร์ก็ตาม
เพราะนี่คือพลังของห้วงมิติและเวลา ซึ่งมีข้อจำกัดที่น่ากลัวมากมายที่ขัดขวางเส้นทางสู่ตำหนัก
ทว่าทั้งหมดนี้ กลับไม่สามารถขัดขวางเฉินซีได้ และเขาเพิ่งสังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่า ชั้นของห้วงมิติและข้อจำกัดเหล่านั้นเต็มไปด้วยอันตรายมากมาย พวกมันคลุมเครือ และเห็นได้ชัดว่า ถูกสร้างตั้งขึ้นโดยมีจุดประสงค์ที่จะขัดขวางผู้อื่นไม่ให้มาถึงตัวตำหนัก เพื่อจะที่ถ่วงเวลาไม่ให้กองกำลังอื่น ๆ มาแย่งชิงหม้อมรดกเต๋าโบราณได้
แต่ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ข้าจะฆ่าทุกคนที่กล้าขวางทางข้า!
โครม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...
ไม่ลงต่อแล้วหรือครับ ผมยังรออยู่นะครับ...