บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1503

บทที่ 1503 เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

……………………………………………………………………..

บทที่ 1503 เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

ข้อจำกัดเทวะได้เปิดใช้งานแล้ว ทำให้ยันต์อักขระทะลักออกมามากมาย และปกคลุมมันไว้อย่างแน่นหนา

หลังจากที่เขาสังหารราชันเซียนทั้งแปดติดต่อกัน การเคลื่อนไหวของเฉินซีก็ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเลย

ชายหนุ่มยังคงเงียบและอำมหิต ขยับกระบี่ในมือและเป็นเหมือนลมสลาตันที่พัดผ่านทุกซอกทุกมุมของข้อจำกัดเทวะ

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทุกซอกทุกมุมของค่ายกล ปรากฏอยู่ในหัวใจของเฉินซีจนถึงรายละเอียดที่เล็กที่สุด ทำให้สามารถลงมือได้อย่างแม่นและรวดเร็ว

ในขณะนี้ เขาไม่ได้ต่อสู้กับราชันเซียนทั้งหมดเพียงลำพังเหมือนเมื่อก่อน และสถานการณ์ก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ราชันเซียนสี่คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ถูกพันธนการในมุมต่าง ๆ ของข้อจำกัดเทวะ ทำให้ชายหนุ่มสามารถพึ่งพาพลังของตนเองเพื่อบดขยี้ศัตรูเหล่านี้ทีละคน

ฟิ่ว! ฟิ่ว! ฟิ่ว!

ภายในข้อจำกัดเทวะ ปราณกระบี่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและก่อตัวเป็นมวลที่ลุกโชน พร้อมกับยันต์อักขระที่หนาแน่นและคลุมเครือถาโถมราวกับกระแสน้ำ มันเปลี่ยนข้อจำกัดเทวะให้กลายเป็นมหาสมุทรแห่งแสงสว่างที่วุ่นวายและปั่นป่วน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นภายในนั้น

พวกเขาได้ยินเพียงเสียงร้องโหยหวนของราชันเซียน เสียงการต่อสู้ และเสียงตะโกนอันน่าสังเวชที่ดังก้องอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งทำให้เกิดอาการหนาวสั่นไปจนถึงกระดูกสันหลัง

อาทิตย์อัสดงได้ย้อมท้องฟ้าเป็นสีแดงเลือด เกิดเป็นภาพน่าสยดสยอง แต่ก็งดงาม

ในระยะไกล สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าตั้งตระหง่านอย่างสูงส่ง มันถูกปกคลุมและปกป้องภายใต้ข้อจำกัด ทั้งยังดูเคร่งขรึมและศักดิ์สิทธิ์ ซ้ำยังเปล่งประกายแสงสีทอง

การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป และมันก็น่าสะพรึงยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ทุกคนตระหนักดีว่าเฉินซีเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างแน่นอน เพราะหลังจากที่เขาได้สังหารราชันเซียนแปดคนติดต่อกัน จึงย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ราชันเซียนสี่คนสุดท้ายจะพลิกสถานการณ์ได้

“อ๊าก!!!” หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เสียงร้องโหยหวนของใครบางคนที่ใกล้จะตายก็ดังก้องมาจากภายในข้อจำกัดเทวะ มันเต็มไปด้วยความคับข้องใจ ความโกรธ และความหวาดกลัว ขณะที่มันสะท้านไปถึงสวรรค์ทั้งเก้า ทำให้หนังศีรษะของทุกคนตื้อชา

“เก้าคนแล้ว!”

ภายในสำนัก หัวใจของบรรดาอาจารย์และศิษย์ทุกคนสั่นไหว ยิ่งรู้ว่ามีราชันเซียนอีกคนตกตายด้วยน้ำมือของเฉินซี พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น

ทั้งหมดต่างไม่รู้สึกสงสารศัตรูแม้แต่น้อย

ด้วยเหตุนี้ อาจเป็นพวกเขาที่ถูกศัตรูสังหารจนหมดสิ้น!

ในทางกลับกัน นอกเหนือจากตกใจต่อพลังฝีมือที่ท้าทายสวรรค์ของเฉินซีแล้ว คนอื่น ๆ อาทิ มู่หรงเทียน จ้าวหลิงซี จั่วชิวเฟยหมิง กองกำลังจากภพพุทธองค์ และเผ่าวิหคอมตะก็รู้สึกโชคดีในใจ โชคดีจริง ๆ ที่อยู่ฝ่ายเดียวกับสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ซ้ำยังรู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดอย่างยิ่ง

ณ ปัจจุบัน เหล่าทวยเทพได้หายไปจากสามภพแล้ว และราชันเซียนก็เป็นผู้ปกครองสูงสุด แม้ว่ากองกำลังของนิกายอำนาจเทวะได้กวาดล้างสามภพ และเข้าควบคุมภพเซียนไปมากกว่าครึ่ง แต่อย่าลืมว่าพลังฝีมือของพวกมันถูกจำกัดอยู่ที่ขอบเขตราชันเซียนเท่านั้น

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พลังฝีมือที่ไร้เทียมทานของเฉินซี ทำให้พวกเขามองเห็นความหวังเล็ก ๆ ว่าบางทีภายใต้การนำของเฉินซี อาจสามารถโต้กลับและทำลายล้างนิกายอำนาจเทวะได้จริง

เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ เหล่าผู้ยิ่งใหญ่จากกองกำลังเหล่านี้ก็รู้สึกสะเทือนใจ หากพวกเขาสามารถกำจัดนิกายอำนาจเทวะได้อย่างสมบูรณ์ กองกำลังทั้งหมดที่ต่อสู้เคียงข้างสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าจะได้รับทรัพยากรและทุนทรัพย์มากขึ้นโดยปริยาย หลังจากที่ภัยพิบัติสิ้นสุดลง!

ในขณะนี้ เสียงร้องอันน่าสังเวชสองครั้งดังก้องจากภายในข้อจำกัดเทวะเกือบจะในเวลาเดียวกัน

“ราชันเซียนถูกสังหารอีกสองคนแล้ว!”

“เหลือเพียงคนสุดท้ายเท่านั้น!”

ภายในข้อจำกัดเทวะที่ถูกปกคลุมอย่างหนาแน่นด้วยยันต์อักขระ แสงเจิดจ้าสาดส่องออกมา ในขณะที่พลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่คลุมเครือก็แผ่กระจายไปทั่ว

เจี้ยงไท่จงดูเหมือนจะเสียสติไปแล้ว สีหน้าของเขาดูดุร้าย ดวงตาแทบจะถลนออกจากเบ้า และกำลังโจมตีข้อจำกัดเทวะด้วยกระบี่ประกายสีเงินในมืออย่างบ้าคลั่ง

เขายังคงสาปแช่งไม่หยุด “ไอ้สารเลวนิกายอำนาจเทวะ! พวกเจ้ากลับดูพวกเราตายอย่างไม่แยแส ข้าควรจะรู้ดีว่าไอ้สารเลวไร้หัวใจอย่างพวกเจ้า ไม่น่าไว้วางใจ!”

บัดนี้เขาได้สูญเสียบุคลิกอันสง่างามของราชันเซียนไปโดยสิ้นเชิง และดูเหมือนสัตว์ร้ายที่ติดอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง พยายามดิ้นรน ซ้ำยังรู้สึกไม่เต็มใจที่จะตายเช่นนี้ ซึ่งดูน่าสมเพชอย่างยิ่ง

ในฐานะราชันเซียนและผู้นำแห่งตระกูลเจี้ยงอันเก่าแก่ สถานะของเขาได้รับการเคารพเป็นอย่างมาก และมีอำนาจล้นมือ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นผีโชคร้ายที่ต้องตายแทนนิกายอำนาจเทวะ

เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองสิ่งนี้ ความแตกต่างดั่งฟ้ากับเหวก็กระตุ้นให้เจี้ยงไท่จงแทบกลายเป็นบ้า

ในอดีตคงไม่มีใครจินตนาการได้ว่า ราชันเซียนผู้สูงส่งจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้จริง ๆ

ดั่งคำกล่าวไว้ โลกก็เปรียบเสมือนกระดานหมากล้อม ไม่ว่าสถานะจะสูงส่งหรือยิ่งใหญ่เพียงใด ไม่มีใครกล้ารับประกันว่าจะไม่ถูกลดระดับจากผู้เล่นให้กลายเป็นตัวเบี้ย!

แล้วถ้าเขาเป็นราชันเซียนล่ะ?

ภายใต้ภัยพิบัติที่แผ่ขยายไปทั่วสามภพ แม้แต่ทวยเทพก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ซ้ำยังถูกจับกุมและพาตัวเข้าสู่แดนโลกาวินาศ ชะตากรรมของพวกเขาถูกควบคุมโดยภัยพิบัติเช่นกัน และไม่สามารถดิ้นรนเป็นอิสระจากมันได้

สรุปแล้ว สามารถอธิบายได้สั้น ๆ ว่า เส้นทางสู่เต๋านั้นยากลำบาก!

ตั้งแต่สมัยโบราณจวบจนบัดนี้ มีผู้บ่มเพาะนับไม่ถ้วนที่ต้องเสียชีวิตด้วยเหตุผลหลายประการ ในขณะที่อยู่บนเส้นทางสู่เต๋าสวรรค์ ซึ่งบางคนก็ต้องแผนการร้าย และการเป็นเบี้ยที่จบชีวิตบนเส้นทางนี้เช่นกัน!

ซึ่งมากมายเกินคณานับ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]