บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1531

สรุปบท บทที่ 1531 ละเลงโลหิตสังหารราชันเซียน: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

ตอน บทที่ 1531 ละเลงโลหิตสังหารราชันเซียน จาก บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1531 ละเลงโลหิตสังหารราชันเซียน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ที่เขียนโดย novelones เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 1531 ละเลงโลหิตสังหารราชันเซียน

……….

บทที่ 1531 ละเลงโลหิตสังหารราชันเซียน

ตู้ม!

สารพัดการโจมตีประดังเข้ามาขยี้มิติแหลกสลาย ทำให้ฟ้าดินป่วนปั่น ประหนึ่งหายนะมาเยือน

ราชันเซียนทั้งหลายถือเป็นตัวตนสูงสุดในสามภพ เพียงแค่คิดก็ทลายหนึ่งโลกกว้างลงได้!

ทว่าขณะนี้ ราชันเซียนกลุ่มหนึ่งต่างร่วมจู่โจม ทุ่มสุดกำลังและสมบัติอมตะอันแข็งแกร่งสูงสุด เห็นได้ชัดว่าฤทธาที่เผยออกนั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด

หากเป็นในอดีต เฉินซีมีแต่ต้องหนีเมื่อพบการโจมตีเช่นนี้

ทว่าขณะนี้ พลังต่อสู้ไม่อาจเทียบกับอดีตได้อีกต่อไป เขาอยู่ในขอบเขตครึ่งเทวา เพียงพอแล้วที่จะหยิ่งผยอง ไม่เห็นผู้ใดในสายตาทั่วสามภพ เหนือชั้นเกินกว่าราชันเซียนทั้งหลายรายล้อม

ประกอบกับพื้นฐานเต๋าเซียนอันลึกล้ำอย่างยิ่งและกระบี่เต๋าวิบัติซึ่งประชันกับมรดกของนิกายอำนาจเทวะได้โดยกำเนิด เขาจึงไม่มีความกลัวต่อสิ่งใด

วูบ!

เฉินซีลงมือ หลังจากสยบเหรียญทองแดงโปรยสมบัติลงสำเร็จ เขาก็สิ้นกังวล ยามเผชิญการโจมตีจากเหล่ายอดฝีมือทั่วทิศ เขาย่อมไม่มีความระมัดระวังหรือลังเลใด ๆ หลงเหลือ

ฉัวะ!

ปราณกระบี่สารพัดสายซึ่งใสกระจ่างเช่นอำพัน เบ่งบานดุจบงกช พร่างพราวทั่วฟ้าดิน เรืองรองรัศมีศักดิ์สิทธิ์ โปรยปรายดุจเส้นแสง ประสานฉวัดเฉวียนไปทั่วทิศ

เพียงพริบตา ศึกก็ปะทุขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ

ฆ่า!

เรือนผมดำยาวดกหนาของเฉินซีโบกสะบัด ร่างสูงใหญ่เรืองรองรัศมีเจิดจ้า ยันต์เทวะและอักขระยันต์มากมายลอยวนรอบกาย ดูประหนึ่งมหาจักรพรรดิเหนือสรรพสิ่ง ครองอำนาจยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต

เปรี้ยง!

ชายหนุ่มฉีกกระชากหนึ่งศาสตราสีแดงสดลงในหนึ่งกระบี่ จากนั้นปราณกระบี่ก็พุ่งเข้าสังหารศิษย์ชั้นยอดจากนิกายอำนาจเทวะเจ้าของศาสตรานั้น แยกร่างของเขาเป็นสองเสี่ยง สิ้นใจทันที

“สารเลว!” ใครบางคนพุ่งเข้าใส่เฉินซีอย่างบ้าคลั่ง

เฉินซีไม่ได้เหลือบแลคนผู้นั้นด้วยซ้ำ หนึ่งเสียงเคร้งดังขึ้น พร้อมกับการฟาดฟันยันต์ศัสตรา ระเบิดกระดูกทั่วกายคนผู้นั้นเป็นเสี่ยง ๆ ทำให้โลหิตทะลักไหลจากเจ็ดทวาร ร่างกระตุกดุจต้องอัสนี แหลกระเบิดเป็นชิ้น ๆ โลหิตโปรยปรายดุจสายฝน

“เร็วเข้า! รีบรุมโจมตีหยุดเขาไว้!!” ความตายของสองศิษย์ชั้นยอดติดต่อกันในกระบี่เดียวของเฉินซีทำให้คนอื่น ๆ ทั้งตกใจและเดือดดาล พวกเขาไม่กล้าประชันเฉินซีตัวต่อตัว จึงเลือกรุมโจมตี

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมิอาจหยุดเฉินซีไว้ได้ อย่าว่าแต่บดขยี้เลย

เหตุผลเป็นเพราะขณะนี้ เฉินซีอหังการเกินไป!

ชายหนุ่มดูประหนึ่งเทพสังหารผู้เย็นชา ทะลวงฟ้าดินด้วยเจตจำนงกระบี่ไร้เมตตา ทุกกระบวนท่ากดดันเหล่าราชันเซียนอย่างมหาศาล

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากพลังต่อสู้อันหาได้ยากยิ่ง ในสามภพที่ไร้เทวานี้ เขานับว่าอยู่บนจุดสูงสุดเหนือผู้ใด เลิกสนใจราชันเซียนอย่างจริงจังมานานแล้ว

เพราะถึงอย่างไร เขาก็สามารถข้ามขอบเขตไปประชันศึกกับคนเหล่านี้ได้ตั้งแต่ยามยังอยู่ในขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น และกระทั่งสามารถสู้สังหารราชันเซียนในศึกสามต่อหนึ่งได้

ยิ่งกว่านั้น ยามเพิ่งก้าวขึ้นสู่ขอบเขตราชันเซียน เขาก็สามารถสังหารราชันเซียนจากกองกำลังยิ่งใหญ่ต่าง ๆ ณ นอกสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า เป็นหนึ่งเหนือพวกเขาทั้งมวล

และตอนนี้ เขาอยู่ในขอบเขตครึ่งเทวาแล้ว!

จากที่ศิษย์พี่ห้าหลี่ฝูเหยาเคยพูดไว้ การบ่มเพาะมาถึงขอบเขตนี้เพียงพอให้เขาข้ามหนึ่งขอบเขต ประชันกับเทวาแท้จริงได้แล้ว และขณะนี้ เขาซึ่งกำลังรับมือเพียงศิษย์ชั้นยอดขอบเขตราชันเซียนจึงรู้สึกสุดแสนง่ายดาย

สิ่งสำคัญสูงสุดคือ เฉินซีบรรลุขั้นสูงสุดของขอบเขตครึ่งเทวาแล้ว ซ้ำยังพัฒนาถึงจุดสูงสุดเกินผู้ใดเทียบ เขาเพียงขาดความปรารถนาเคลื่อนขอบเขตเท่านั้น ก็จะสามารถเหยียบย่างสู่ขอบเขตเทวาได้ทุกเมื่อ

ด้วยเหตุนี้ ราชันเซียนผู้ใดในสามภพจะแข่งอำนาจกับเขาได้?

ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา ศิษย์ชั้นยอดแห่งนิกายอำนาจเทวะก็ถูกกำจัดไปอีกเจ็ดคน!

ขณะนี้โลหิตย้อมท้องนภาแดงฉาน ฟ้าดินปั่นป่วนรวนเร

แม้จะถูกล้อมไว้อย่างแน่นหนา เฉินซียังเผยอำนาจยิ่งใหญ่เหนือใครในโลกหล้า

ไม่ว่าจะใช้สมบัติใด ก็ไม่อาจเข้าใกล้ได้

ใช้ข้อจำกัดใด ก็ไม่อาจหยุดฝีเท้าของเขาลง

ไม่ว่าวิชาใด ก็ล้วนแล้วถูกสยบโดยกระบี่เต๋าวิบัติ!

หากผู้คนในสามภพเห็นเหตุการณ์นี้ พวกเขาคงไม่อาจเชื่อได้แน่แท้ว่าเฉินซีบุกนิกายอำนาจเทวะโดยลำพัง สู้กับราชันเซียนทั้งหลายที่นี่ ซ้ำยังอหังการเรืองอำนาจ นับแต่บรรพกาลจวบบัดนี้ ใครบ้างเทียบเขาได้?

ฆ่า!

ศึกยังคงดำเนินต่อ

สีหน้าของศิษย์ชั้นยอดทั้งหลายจากนิกายอำนาจเทวะบิดเบี้ยวบ้าคลั่งนับตั้งแต่การต่อสู้บังเกิด ใช้ทุกไพ่ตายออกมาโดยไม่ตระหนี่

พวกเขาล้วนไม่สังเกตเลยว่าศิษย์พี่ใหญ่ของพวกตน อินไฮว่คงย่องออกจากสมรภูมิไปอย่างเงียบเชียบ หายลับไปนานแล้ว

แต่ถึงคนอื่น ๆ จะไม่สังเกต แต่ไม่ได้หมายความว่าเฉินซีจะไม่สังเกต

แต่เขาไม่ได้หยุดอินไฮว่คง เพราะทราบดีว่าต่อให้ขวางอินไฮว่คงไว้ การสังหารอินไฮว่คงก็ยังเป็นไปไม่ได้อยู่ดี ซ้ำแล้ว นี่ยังจะเป็นการบีบบังคับอินไฮว่คงให้ปลดผนึกการบ่มเพาะ คืนอำนาจเทวาแท้จริงก่อนเวลาอันควร

หาไม่ ยามเวลาเคลื่อนผ่าน พวกเขาก็จะถูกลากตัวสู่แดนโลกาวินาศก่อนได้ฆ่าเฉินซีเป็นแน่

เหตุนี้เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายท่านห้าแห่งเขาเทพพยากรณ์หลี่ฝูเหยา วันนั้นเขาบรรลุขอบเขตเทวาอย่างราบรื่น ทว่าก็ทำได้เพียงมองอินไฮว่คงหนีไป เพราะโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาโปรยลงมา บีบบังคับให้ต้องหยุดมือลง

“เช่นนั้น เราก็ลงมือด้วยกันเถิด มีเพียงการทำเช่นนี้ เราจึงประกันความสำเร็จแน่นอนได้! ข้าไม่เชื่อหรอกว่าสามเทวาร่วมมือ จะยังไม่อาจสะท้านไอ้หนูชั่วขอบเขตครึ่งเทวาคนเดียวได้!” อินไฮว่คงกัดฟันกล่าว พูดได้ว่าเขาแค้นเคืองเฉินซีเข้ากระดูกดำ เพราะมิเพียงถูกสยบลงทุกทาง กระทั่งเหรียญทองแดงโปรยสมบัติยังถูกชิงไป และนั่นทำให้หัวใจของเขาแค้นแทบหลั่งโลหิต

สิ่งสำคัญเหนือใดคือ สมบัติวิญญาณธรรมชาติทั้งหมดในมือเฉินซียังคงสลักลึกอยู่ในใจ เขาไม่ได้ต้องการเพียงชิงเหรียญทองแดงโปรยสมบัติคืนมา แต่ยังไม่คิดให้ตาข่ายครอบคลุมสวรรค์ เชือกพันธนาการเทพ ธรณีชะตาเก้าชั้นสรวงและตะเกียงสุญญจักรวาลหลุดมือไปด้วย

แน่นอน มันรวมถึงชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากด้วยเช่นกัน!

ด้วยเหตุนี้ อินไฮว่คงย่อมไม่อยู่เฉย

โลหิตหลั่งย้อมพื้น ท้องนภาแหลกสลายพังทลายทั่วสามสิบสามด่านของแดนอำนาจเทวะ ซากศพราชันเซียนพิกลพิการมากมายกระจัดกระจายทั่วพื้น อาบโลหิตทองเจิดจรัส

นั่นคือโลหิตและซากศพราชันเซียน สำหรับผู้เยี่ยมยุทธ์บางคน ซากศพเหล่านี้คือวัตถุดิบหายากที่ต้องใช้โชคจึงพบพาน สามารถใช้สร้างเป็นสมบัติหรือกระทั่งยาเม็ด แม้แต่พลังและมหาเต๋าสารพัดในซากเหล่านั้นยังสามารถสกัดออกมาได้ ว่ากันว่ามีสรรพคุณมหาศาล

แต่ในความเห็นของเฉินซี ซากศพเหล่านี้โสมมยิ่ง และไม่คิดใช้พวกมัน

ฟิ่ว!

กระบี่เต๋าวิบัติทะยานสู่ฟ้าอีกครั้ง วาดวงลึกล้ำเกินหยั่งกลางอากาศ และยามฟาดฟันลงมา มันก็ทำให้โลหิตอีกสายพุ่งกระฉูด หนึ่งศีรษะกระเด็นจากบ่า

เจี้ยงหลิงเซียว!

สตรีผู้นี้อยู่ในลำดับห้าในหมู่ศิษย์ชั้นยอดนิกายอำนาจเทวะ ยามนี้นางถูกเฉินซีสังหารตายคาที่

ขณะนี้ ศิษย์ชั้นยอดทั้งสามสิบหกของนิกายอำนาจเทวะถูกกวาดล้างไม่เหลือรอด!

นับตั้งแต่ต้นจนศึกปิดฉาก กินเวลาเพียงเสี้ยวชั่วยาม กล่าวคือ เฉินซีล้างบางสิ้นในเวลาไม่ถึงครึ่งเสี้ยวชั่วยาม!

ขณะเดียวกัน นอกจากเสียปราณเซียนไปส่วนหนึ่ง ก็กล่าวได้ว่าเฉินซีไร้รอยขีดข่วนใด ๆ

หากข่าวผลงานศึกเจิดจรัสเช่นนี้แพร่งพรายในสามภพ คงก่อให้เกิดเสียงฮือฮาจ้าละหวั่นอีกเป็นแน่

แต่ในความเห็นของเฉินซี ชายหนุ่มคุ้นเคยกับเรื่องทั้งหมดนี้มาแสนนาน และไม่ได้ตื่นเต้นเช่นในอดีต หลังสังหารราชันเซียนมามากมาย เขาย่อมเคยชินเป็นธรรมดา และนี่แหละความรู้สึกในขณะนี้

หลังจากนี้ อินไฮว่คงและสองนักบวชของนิกายคงปรากฏตัวกัน… ขณะที่เขายืนท่ามกลางสมรภูมิอันปกคลุมด้วยซากศพตามลำพัง เฉินซีก็สูดหายใจลึก ๆ ขณะที่จิตสังหารในดวงตาไม่ได้ถดถอย ซ้ำยังทวีคูณ เติบโตแผดผลาญดุจหินหลอมเหลว

ฮึ่ม!

จริงเช่นนั้น ขณะที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจ คลื่นอำนาจสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ จากนั้นปราณเทวาอันน่าสะพรึงกลัวยิ่งสายหนึ่งก็โถมทะลักดุจสายนที กวาดกระหน่ำเข้าจมฟ้าดิน

……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]