บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1538

สรุปบท บทที่ 1538 ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

ตอน บทที่ 1538 ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว จาก บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1538 ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ที่เขียนโดย novelones เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 1538 ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว

……….

บทที่ 1538 ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว

ครึ่งปีผ่านไปนับตั้งแต่แดนอำนาจเทวะถูกทำลาย

มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีนี้ และสถานการณ์ภายในสามภพทั้งหมดก็พบเจอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างเงียบ ๆ

ภายใต้คำแนะนำของเฉินซี ชิวเสวียนซูได้นำตัวตนผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดของสำนักและกองกำลังต่าง ๆ ของภพเซียน ออกฟื้นฟูกฎระเบียบในโลก และสถาปนาศาลเซียนขึ้นใหม่

ทันทีที่ภัยคุกคามของนิกายอำนาจเทวะหายไปจากภพเซียน กองกำลังต่าง ๆ ที่เคยเป็นพันธมิตรกับสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าล้วนได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น และพวกเขาเข้ารับตำแหน่งควบคุมเหนือสี่พันเก้าร้อยทวีปในภพเซียน

ในทางกลับกัน การควบคุมกฎระเบียบภายในภพเซียนทั้งหมดดูเหมือนจะตกเป็นของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า!

นอกจากนี้ บุคคลสำคัญภายในสำนักยังแตกแขนงออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งลงสู่ภพมนุษย์เพื่อกำจัดการรุกรานของพวกต่างพิภพด้วยพลังทั้งหมด จากนั้นก็ฟื้นฟูกฎระเบียบในภพมนุษย์และสร้างโลกขึ้นมาใหม่

อีกกลุ่มหนึ่งได้มาถึงยมโลกภายใต้คำสั่งของเฉินซี พวกเขาช่วยมหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกและราชินีแห่งการพิพากษาชุยชิงหนิง เพื่อบดขยี้ความขัดแย้งภายในยมโลก และสถาปนาการควบคุมเหนือหกวิถีสังสารวัฏ ราชันนรกทั้งสิบ โถงยายเฒ่าเมิ่ง ประตูนรกและแม่น้ำโลหิต ทำให้กฎระเบียบกลับมาทำงานเป็นปกติ

อาจกล่าวได้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ หลังจากที่ศิษย์ของนิกายอำนาจเทวะทั้งหมดที่ถูกทิ้งไว้ในสามภพถูกทำลายล้างแล้ว ความสับสนวุ่นวายภายในสามภพก็ถูกยับยั้งภายใต้การควบคุมที่สมบูรณ์แบบของเฉินซี ทุกสิ่งแสดงสัญญาณของการกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และฟื้นฟูสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีต

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ เหล่าเผ่าพันธุ์ต่างพิภพถึงกับถอนหายใจ ตราบใดที่สามภพมีเฉินซีเป็นอุปสรรคขวางกั้น ก็ไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้

ในท้ายที่สุด พวกมันก็ล่าถอยไปจากสามภพ และซ่อนตัวอยู่ที่นอกพิภพแทน ซ้ำยังไม่กล้าบุกรุกอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุด ประตูบานนั้นยังคงตั้งตระหง่านอยู่ในท้องฟ้าเหนือจักรวาล และ โซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชายังคงมองดูโลกอย่างดุร้าย นั่นหมายความว่าภัยพิบัติที่แผ่ขยายไปทั่วสามภพยังไม่สิ้นสุด

มันเหมือนกับกระบี่คมกริบที่ห้อยอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในสามภพ และไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไรมันจะลงมาอีกครั้ง ทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับว่ากำลังนั่งอยู่บนเบาะหนาม

“สามภพได้เปลี่ยนไปแล้ว” บนท้องฟ้าเหนือสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ชิวเสวียนซูถอนหายใจยาวแรง “ความวุ่นวายภายในสามภพทั้งหมดได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว อย่างน้อยเราก็จะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกรุกรานของนิกายอำนาจเทวะหรือเผ่าพันธุ์ต่างพิภพไปอีกนาน”

“อืม” เฉินซีพยักหน้า

ในช่วงครึ่งปีมานี้ เฉินซีได้อาศัยอยู่ในโลกภายในหม้อกลั่นเก้าทวีปศักดิ์สิทธิ์และอยู่เคียงข้างคนรัก แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ในสามภพ

ถึงขั้นที่เขาต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญทั้งหมดด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่น การส่งกองกำลังของภพเซียนไปยังภพมนุษย์และยมโลก หรือการสร้างสภาเซียนกลางขึ้นใหม่ล้วนเป็นคำสั่งของเฉินซี

“อาจารย์อา ท่านต้องไปจริง ๆ เหรอ?” ชิวเสวียนซูจ้องมองไปที่เฉินซี

“ข้าต้องไป” เฉินซีพยักหน้า “นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เสมือนกับลูกศรที่ผูกไว้กับสายธนูที่ต้องปล่อยออกไป ตามการประมาณการของข้า ประตูที่นำไปสู่แดนเทพโบราณจะปิดในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ในช่วงเวลานี้ ข้าจะต้องไปถึงแดนโลกาวินาศอย่างปลอดภัย ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่ข้าจะสามารถเสาะหาเส้นทางที่จะมุ่งไปสู่แดนเทพได้”

ชิวเสวียนซูเข้าใจว่าเฉินซีหมายถึงอะไร และเข้าใจปัญหาของอีกฝ่าย จึงอดไม่ได้ที่จะถาม “หลังจากที่ท่านจากไป แล้วสามภพล่ะ? แล้วคนที่ท่านรักล่ะ?”

เฉินซีได้พิจารณาคำถามนี้มานานแล้ว จึงกล่าวทันทีว่า “คราวนี้ ข้าตั้งใจจะไปคนเดียว”

เมื่อกล่าวมาถึงจุดนี่ เฉินซีก็หันกลับมาและยิ้มพลางมองไปที่ชิวเสวียนซู “เจ้าไม่ต้องกังวล หากเจ้าพบปัญหาใด ๆ หลังจากที่ข้าจากไปแล้ว เจ้าสามารถไปขอความช่วยเหลือจากชิงซิ่วอี้และฟ่านอวิ๋นหลานได้”

“นอกจากสองคนนี้แล้ว เหล่าสหายนักพรตทั้งหมดในสำนักเช่นหวังต้าวหลู โจวจื่อหลีและเซวียนหยวนพัวจวินจะช่วยเหลือเจ้าในการปกป้องสำนักและรักษาระเบียบของทั้งสามภพอย่างแน่นอน ”

“อืม” ชิวเสวียนซูพยักหน้า “อาจารย์อาไม่ต้องกังวล”

ชิวเสวียนซูตระหนักดีว่าแม้ว่าเขาต้องการให้เฉินซีอยู่ในสามภพสักเพียงใด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ความแข็งแกร่งของเฉินซีได้เข้าใกล้ขอบเขตเทวามานานแล้ว และภายใต้ภัยพิบัติที่พัดผ่านไปทั้งสามภพ เฉินซีจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจากไป

แต่แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เป็นการดีกว่าที่จะดำเนินการล่วงหน้า และเขาจะมีโอกาสมากขึ้นในการเสาะหาเส้นทางที่นำไปสู่แดนเทพโบราณ

“อาจารย์อา ดูสิ” จู่ ๆ ชิวเสวียนซูก็มองไประยะไกล “แม่นางซิ่วมาแล้ว”

เฉินซีตกตะลึง แน่นอนว่าเขาเห็นอาซิ่วเดินมาอย่างรวดเร็วจากระยะไกลในชุดสีเขียว และอารมณ์ที่ซับซ้อนก็พุ่งออกมาจากหัวใจของเขาอย่างหักห้ามไม่ได้

นับตั้งแต่ที่เขาพาฟ่านอวิ๋นหลานกลับมาในวันนั้น ท่าทีของอาซิ่วก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และนางก็คอยหลีกเลี่ยงเขาอยู่ตลอดเวลา นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกันในช่วงเวลานี้

เมื่อเห็นเช่นนี้ ชิวเสวียนซูจึงจากไป เหลือเพียงอาซิ่วกับเฉินซีเท่านั้นที่ยังคงอยู่ที่นี่

เช่นเดียวกับในอดีต อาซิ่วสวมชุดสีเขียว ดูสง่าและงดงามอย่างเช่นเคย นางเอามือไพล่หลังพลางแสร้งเป็นผ่อนคลายขณะจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า “ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากำลังจากไป?”

เฉินซีพยักหน้า “ใช่ อาซิ่ว ข้า…”

เขาถูกอาซิ่วขัดจังหวะก่อนที่เขาจะพูดจบ “เฉินซี เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่งเจ้าสัญญาว่าจะทำอะไรบางอย่างให้ข้า เมื่อตอนที่อยู่ในภพมนุษย์หลายปีก่อน?”

เฉินซีตกตะลึง ด้วยความงุนงงพลันหวนนึกถึงอดีตในภพมนุษย์ ซึ่งเป็นตอนที่เขาและอาซิ่วเดินทอดน่องไปตามท้องถนนของเมืองหลวงแห่งความโอชะ เมืองเทาเที่ย เขานึกถึงเหตุการณ์ที่อาซิ่วไม่ลังเลที่จะใช้พลังบ่มเพาะของตนจนแทบหมดสิ้น และต้านทานการโจมตีจากจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์กุ้ยซู ซึ่งเหตุทั้งหมดก็เพื่อช่วยชีวิตเขาไว้ เขานึกถึง…

เหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ปรากฏตรงหน้าอย่างชัดเจน และแผ่กระจายไปทั่วหัวใจของเฉินซีราวกับระลอกคลื่น

“แน่นอน ข้าจำได้” เฉินซีกล่าวอย่างหนักแน่น และมองไปที่อาซิ่วด้วยสายตาที่ชัดเจน

อาจกล่าวได้ว่าเมื่อเฉินซีตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังแดนโลกาวินาศ เฉินซีได้มอบสมบัติทั้งหมดที่ไม่ได้ใช้ให้กับคนที่เขารักแล้ว เหลือเพียงสมบัติศักดิ์สิทธิ์เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น

“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะไม่บังคับเจ้า” หม้อใบจิ๋วกล่าว “อย่างไรก็ตาม เจ้าตั้งใจที่จะทิ้งร่างอวตารของเจ้าไว้ในสามภพจริง ๆ หรือ?”

เฉินซีพยักหน้า “เมื่อมีเขาอยู่ที่นี่ ข้าจะจากไปได้อย่างสบายใจ”

ปัจจุบัน ร่างอวตารของเฉินซีได้บรรลุถึงจุดสูงสุดของขอบเขตเซียนปราชญ์แล้ว และอยู่ห่างจากการบรรลุขอบเขตราชันเซียนเพียงไม่กี่ก้าว ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเป็นผู้ขัดเกลากายาที่ขอบเขตราชันเซียน!

ตามที่หม้อใบจิ๋วได้กล่าวไว้ หากร่างหลักของเฉินซีหลอมรวมกับร่างอวตารในขณะนี้ ก็จะสามารถบรรลุขอบเขตเทวาได้ในรวดเดียว โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผลวิญญาณเต๋าในการจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ในจิตวิญญาณ และเปลี่ยนแปลงร่างกายให้เป็นนิรันดร์ ซึ่งพลังของเขาจะแข็งแกร่งเกินกว่าที่จินตนาการได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เฉินซียังคงปฏิเสธ เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการกังวลเกี่ยวกับสามภพได้ และยิ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงการกังวลเกี่ยวกับคนที่เขารักได้อีก แม้ว่าสามภพจะดูสงบสุขแล้ว แต่ภัยพิบัติก็ยังคงลอยอยู่เหนือท้องฟ้าในจักรวาล ซึ่งนี่เป็นเหตุผลสำคัญเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้

เมื่อมันสังเกตเห็นว่าเฉินซีได้ตัดสินใจแล้ว หม้อใบจิ๋วจึงหยุดโน้มน้าว แล้วกล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม เจ้าต้องระวังตัวไว้ แดนโลกาวินาศได้เกินขอบเขตของสามภพไปแล้ว และเทพก็ไม่ต่างจากคนธรรมดาในภพมนุษย์เมื่อพวกเขาอยู่ภายในนั้น”

เฉินซีตกตะลึง และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าวันนี้หม้อใบจิ๋วดูเหมือนจะพูดจายืดยาวกว่าปกติ ซึ่งแม้ว่าน้ำเสียงจะดูสงบเหมือนน้ำ แต่จริง ๆ แล้วมันก็คิดถึงเขาตลอดเวลา

หม้อใบจิ๋วดูเหมือนจะตระหนักได้เช่นกัน มันจึงหยุดกล่าวทันทีและเงียบไป

หลังจากผ่านไปสักพัก หม้อใบจิ๋วดูเหมือนจะรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกไปเล็กน้อย มันจึงเริ่มหมดความอดทน “ถ้าเจ้าตั้งใจจะจากไปก็จงไปซะ เหตุใดจึงลังเลและกล่าววาจาไร้สาระเช่นนี้? รีบไปซะ!”

เฉินซียิ้มอย่างขมขื่น “ตั้งแต่ต้นจนจบดูเหมือนเจ้าเป็นคนกล่าววาจาไร้สาระมิใช่หรือ?

กลางดึก

ที่ห้องโถงใหญ่ของตระกูลเฉิน เฉินซีได้เรียกสหายและคนที่เขารักทั้งหมดมาที่นี่ ก่อนจะจัดงานเลี้ยง แต่ก็ไม่ได้บอกทุกคนเกี่ยวกับข่าวการจากไปของตน

เนื่องจากร่างอวตารของเขาจะยังคงอยู่ในสามภพ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้

มีเพียงชิงซิ่วอี้ ฟ่านอวิ๋นหลาน เฉินฮ่าว เฉินอัน เฉินอวี่ และอีกสองสามคนเท่านั้นที่ทราบดีถึงวัตถุประสงค์ของงานเลี้ยงนี้ และอารมณ์ในใจของพวกเขาก็ค่อนข้างซับซ้อน

หลังจากงานเลี้ยงสิ้นสุดลง เฉินซีก็จากโลกภายในหม้อกลั่นเก้าทวีปศักดิ์สิทธิ์ไปอย่างเงียบ ๆ และกลับไปที่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า เขาตั้งใจที่จะบ่มเพาะอย่างสันโดษแล้วบรรลุขอบเขตเทวาในรวดเดียว จากนั้นจะมุ่งหน้าไปยังแดนโลกาวินาศ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะเข้าสู่การปิดด่านบ่มเพาะ ชิวเสวียนซูก็มาถึงอย่างเร่งรีบ ทั้งยังนำกล่องหยกและข่าวที่ไม่คาดคิดมาให้

……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]