บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1575

สรุปบท บทที่ 1575 สั่งสมพละกำลัง: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

บทที่ 1575 สั่งสมพละกำลัง – ตอนที่ต้องอ่านของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

ตอนนี้ของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1575 สั่งสมพละกำลัง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 1575 สั่งสมพละกำลัง

…………….

บทที่ 1575 สั่งสมพละกำลัง

แท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ ทำให้ฝุ่นผงฟุ้งกระจายไปทั่วสารทิศ

เฉินซียืนตะลึงลาน ในช่วงเวลาวิกฤต เดิมทีเขาตั้งใช้เคล็ดระเบิดสังหารเทวะเพื่อเผชิญหน้ากับลุงเก้า แต่ไหนเลยจะคาดคิดว่าเหตุไม่คาดฝันดังกล่าวจะพลันเกิดขึ้น!

ทันใดนั้น แท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดฝีมือขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณอย่างลุงเก้าได้สร้างขึ้นนั้น กลับถูกฟันออกเป็นสองส่วนและระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ

นั่นหมายความว่าชีวิตของลุงเก้าก็ดับสิ้นลงเช่นกัน และไม่มีทางที่ฟื้นคืนกลับมาได้!

แสงศักดิ์สิทธิ์สีเขียวนั้นมาจากใดกัน?

แล้วผู้ใดช่วยชีวิตข้าในช่วงเวลาวิกฤตนั่น?

เฉินซีเงื้อกระบี่ตั้งท่า พลางมองกวาดไปรอบ ๆ แต่กลับไม่เห็นสิ่งผิดปกติใด ๆ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจและสับสนยิ่งขึ้น เพราะผู้ที่สามารถกระทำสิ่งนี้ให้สัมฤทธิผล ย่อมเป็นผู้ที่มีการบ่มเพาะขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลหรือสูงกว่านั้น!

อีกฝ่ายคือผู้ใดกัน?

เฉินซีนึกถึงเสียงคร่ำครวญของลุงเก้าก่อนที่จะเสียชีวิต “ชิงหลิว? สองคำนี้หมายถึงอันใด?”

มันเป็นชื่อของใครบางคน? หรือมันคือชื่อของแสงศักดิ์สิทธิ์สีเขียวนั้น? หรือบางทีอาจเป็นชื่อของสถานที่บางแห่งในแดนเทพโบราณ?

“คุณชาย ท่านปลอดภัยหรือไม่?” ในขณะเดียวกัน อาเหลียงพุ่งปราดเข้ามา และใบหน้าเปี่ยมล้นด้วยความสุขเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มปลอดภัย

เฉินซีส่ายศีรษะพลางหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็ระงับความคิดและไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปมากกว่านี้

“นึกไม่ถึงว่าคุณชายจะสังหารผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณได้จริง ๆ ถ้าท่านยายรู้เรื่องนี้ นางคงอ้าปากค้างเพราะความตกใจเป็นแน่แท้” ดวงตาของอาเหลียงเปล่งประกาย พลางจ้องมองเฉินซีด้วยแววตาที่เคารพ

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะยิ้ม และลอบทอดถอนใจ “ท้ายที่สุดก็ไม่ใช่ข้าที่สังหารชายชราผู้นี้ ดังนั้นจึงไม่สิ่งใดให้น่าภูมิใจเลย”

“ไอ้สารเลว! ฝากไว้ก่อนเถิด! ตระกูลอี้ของข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน!” ทันใดนั้น เสียงที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองอย่างยิ่งพลันดังมาจากระยะไกล

เฉินซีเงยหน้าขึ้นมองดู จากนั้นคิ้วก็เลิกขึ้นทันที บุคคลนั้นสวมชุดคลุมสีขาวและมีรูปโฉมหล่อเหลา มันคืออี้เทียน ผู้ซึ่งเป็นนายน้อยสามของตระกูลอี้

แต่เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ไม่ได้สังเกตเห็นแสงศักดิ์สิทธิ์สีเขียวที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน และด้วยเหตุนี้ เขาจึงถือว่าเฉินซีคือคนร้ายที่สังหารลุงเก้า

อย่างไรก็ตาม เฉินซีไม่คิดจะอธิบายใด ๆ ก่อนหน้านี้ จิตใจของเขาตกตะลึงอยู่เล็กน้อย และเกือบมองข้ามการมีอยู่ของอี้เทียนไปด้วยซ้ำ

ทว่าในขณะนี้ เมื่อเห็นว่าอี้เทียนกล้าข่มขู่เขาจริง ๆ จิตสังหารในใจเฉินซีก็พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้ง

ฟิ่ว!

โดยไม่ลังเล ร่างสูงใหญ่ขยับวูบหนึ่ง เหินทะยานผ่านผืนฟ้าพุ่งเข้าปาดใส่อี้เทียน

โอม!

แต่ทว่าก่อนที่เฉินซีจะเข้าใกล้อี้เทียนได้ อี้เทียนก็แค่นหัวเราะเสียงเย็น มือหยิบแหวนทองสัมฤทธิ์ที่มีรอยด่างสนิมออกมา มันหมุนวนรอบกาย จากนั้นก็ปล่อยคลื่นผันผวนที่คลุมเครืออย่างยิ่ง

ครืน!

แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ลุกโชติช่วงปะทุออกมาจากมัน และมันปกคลุมไปทั่วร่างกายอี้เทียน ก่อนที่เขาจะหายไปในทันที

ชิ้ง!

เฉินซีตวัดมือขึ้นแล้วฟันยันต์ศัสตราลงไป แต่แท้จริงแล้วมันกลับไม่มีผลใด ๆ ดูเหมือนอี้เทียน จะหายไปจากฟ้าดินอันกว้างใหญ่นี้ในพริบตา และไม่ทำให้เกิดความผันผวนในมิติแม้แต่น้อย

สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของเฉินซีเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันใด เขาตระหนักดีว่าทั้งหมดนี้เกิดจากแหวนทองสัมฤทธิ์ที่มีรอยด่างสนิมนั่น และแน่นอนว่ามันเป็นสมบัติที่ไม่ธรรมดาจากตระกูลอี้

ถ้าข้าไม่ขจัดต้นตอของปัญหานี้ คนผู้นี้อาจจะนำปัญหามากมายมาสู่ข้า หลังจากเข้าสู่เอกภพมสิหิมเป็นแน่… เฉินซีพึมพำ แต่ในเวลานี้เขาทำได้เพียงยอมแพ้

หลังจากนั้น เขาเริ่มเก็บกวาดสิ่งของที่ริบได้จากสนามรบร่วมกับกับอาเหลียง

“ผลึกศักดิ์สิทธิ์มากกว่าหนึ่งพันสี่ร้อยห้าสิบก้อน กฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ห้าสิบสี่ลูก เคล็ดวิชายี่สิบสามลูก สมบัติวิญญาณประดิษฐ์สามสิบหกชิ้น….”

หลังจากที่จัดเรียงและนับรวมทุกอย่างแล้ว กำไรครั้งนี้มากมายจนเกิดความคาดหมายของเฉินซีมาก แต่สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกเสียใจ เป็นเพราะสมบัติที่ได้รับส่วนใหญ่ล้วนมีคุณภาพธรรมดา ทั้งยังเสียหายในระดับหนึ่ง ดังนั้นแม้ว่าจะแลกพวกมันเป็นผลึกศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม มูลค่าก็จะลดลงมากอย่างแน่นอน

“อาเหลียง เราไปหาที่พักผ่อน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเส้นทางที่นำไปสู่เอกภพมสิหิมกันเถอะ” หลังจากที่รวบรวมสิ่งของที่ริบมาจากการต่อสู้ทั้งหมดแล้ว เฉินซีก็ไตร่ตรองชั่วครู่ ก่อนที่จะตัดสินใจ

การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้พลังศักดิ์สิทธิ์ของเฉินซีแทบเหือดแห้ง การพิชิตค่ายกลล่าตะวันไม่ได้ผลาญพลังศักดิ์สิทธิ์ไปมากนัก แต่เป็นการต่อสู้กับลุงเก้าต่างหาก มันทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้กำลังเต็มที่ ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือพลังศักดิ์สิทธิ์น้อยกว่าสองส่วน และมันใกล้จะแห้งเหือดแล้ว

“โอ้” อาเหลียงพยักหน้า นางเชื่อฟังทุกสิ่งที่เฉินซีกล่าวอย่างสมบูรณ์

ฟิ่ว! ฟิ่ว!

ไม่นานหลังจากที่เฉินซีและอาเหลียงจากไป คลื่นมิติผันผวนก็อุบัติขึ้นบนสนามรบ และจากนั้นก็มีร่างสองร่างปรากฏขึ้น

มันคือเทพธิดาลึกลับและฮุ่ยฉงนั่นเอง

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างเคร่งขรึม ดวงตาทอประกายความหวาดกลัวอย่างลึกซึ้ง เพราะนั่นคือสตรีที่โหดเหี้ยม ซึ่งเจ้าอารมณ์ และเข่นฆ่าตามอำเภอใจ!

แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ของนิกายอำนาจเทวะก็ไม่สามารถทำอะไรกับนางได้ ดังนั้นพวกเขาจึงส่งนางมายังเอกภพมสิหิม เพื่อให้นางจึงอยู่นอกสายตาและไม่ต้องนึกถึงนาง

ณ ริมฝั่งทะเลสาบอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต

เฉินซีนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น และกำลังฟื้นฟูพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เหนื่อยล้าภายในร่างกายเงียบ ๆ

อาเหลียงนั่งขัดสมาธิบนใบหญ้าสีแดงเลือดข้าง ๆ และกำลังบ่มเพาะเช่นกัน

วันต่อมา เฉินซีเป็นคนแรกที่ตื่นจากการบ่มเพาะ จากนั้นพลันชำเลืองมองอาเหลียง ก่อนที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก “พื้นที่ล่านั้นอันตรายเกินไป และการเอาชีวิตรอดได้อย่างสงบสุขจนถึงทุกวันนี้ ถือได้ว่าเป็นโชคอย่างหนึ่ง”

หลังจากการฟื้นฟูพลังมาหนึ่งวัน การบ่มเพาะของเฉินซีก็ฟื้นตัวขึ้นจนสมบูรณ์ ถึงขั้นแสดงให้เห็นร่องรอยของการพัฒนาขึ้นเล็กน้อยอีกครั้ง เขาจวนจะบรรลุขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกาอย่างถ่องแท้แล้ว

ความเร็วของการบ่มเพาะเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกค่อนข้างพึงพอใจ เพราะการต่อสู้เป็นครูที่ดีที่สุดในเส้นทางแห่งการบ่มเพาะ มันสามารถขัดเกลาความแข็งแกร่งของคนคนหนึ่งได้ ทั้งยังสามารถกระตุ้นและค้นพบศักยภาพที่ส่งผลต่อการบ่มเพาะในภายหลังอีกด้วย

เมื่ออาเหลียงตื่นจากการบ่มเพาะ เฉินซีก็สั่งว่า “อาเหลียง เจ้าช่วยยืนเฝ้าระวังให้ข้าด้วย ข้าตั้งใจที่จะสกัดและดูดซับกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เพื่อย่างเข้าสู่กฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ขั้นเริ่มต้นของข้า”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ อาเหลียงดูเหมือนทหารที่ได้รับคำสั่งจากแม่ทัพ นางจึงพยักหน้าอย่างแข็งขันและกล่าวว่า “อย่ากังวลเลยคุณชาย ข้าจะไม่ยอมให้ท่านถูกรบกวนอย่างแน่นอน ”

ขณะที่กล่าว ร่างของนางก็ลอยขึ้นไปในอากาศ ในมือถือกลองตะบันเทพในมือข้างหนึ่งและไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์แห่งการเผาผลาญในมืออีกข้าง ก่อนที่จะเริ่มลาดตระเวนไปรอบ ๆ คล้ายกำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะยิ้ม หญิงสาวคนนี้ช่างน่ารักเสียเหลือจริง

ฮึบ~

เฉินซีหายใจเข้าลึก ๆ และไม่เสียเวลาอีกต่อไป ชายหนุ่มหยิบดวงแสงที่มีกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ออกมามากมาย แล้วจมเข้าสู่การสกัดอย่างลึกซึ้ง

การสกัดและควบแน่นกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์นั่นถูกแบ่งออกเป็นขั้นพื้นฐาน ขั้นเริ่มต้น ขั้นสูง ขั้นสูงสุด และขั้นสมบูรณ์แบบ ซึ่งทุกขั้นตอนของการพัฒนาอาจกล่าวได้ยาวเท่ากับการขึ้นสู่สวรรค์

แม้ด้วยพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเฉินซีในปัจจุบัน แต่ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะได้รับการพัฒนาในเต๋าศักดิ์สิทธิ์ยันต์อักขระภายในระยะเวลาอันสั้น โชคดีที่เขามีดวงแสงที่บรรจุกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์อยู่มากมายมหาศาล ดังนั้นจึงไม่ต้องปวดหัวกับปัญหานี้

ถึงขั้นที่เขาต้องขอบคุณกฎแห่งเต๋าสวรรค์ในแดนโลกาวินาศด้วยซ้ำ เพราะหากมันไม่ได้ปลดกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์และเคล็ดวิชาที่เทพเหล่านั้นครอบครองออกไป เฉินซีก็คงไม่สามารถใช้ทางลัดดังกล่าวเพื่อความเข้าใจต่อกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแน่นอน

ตอนนี้เฉินซีตั้งใจที่จะพึ่งพาดวงแสงของกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดมาจากสนามรบเพื่อบรรลุเต๋าศักดิ์สิทธิ์ยันต์อักขระขั้นเริ่มต้นในคราวเดียว

ความก้าวหน้าประเภทนี้อาจดูเหมือนธรรมดา แต่เมื่อใดที่มันสำเร็จ ก็เพียงพอที่จะทำให้ความแข็งแกร่งของเทพได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!

…………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]