บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1599

บทที่ 1599 กระต่ายโลหิตเนตรหยก

…………….

บทที่ 1599 กระต่ายโลหิตเนตรหยก

ฝูงชนและเกวียนหลั่งไหลไปตามท้องถนนที่พลุกพล่าน ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยเสียงดังเซ็งแซ่ ทั้งเสียงโห่ร้องเอะอะ และเสียงหัวเราะคิกคักไม่ขาดหู

เถี่ยอวิ๋นผิงยืนอยู่ลำพังบนถนน นางรู้สึกหงุดหงิดและจนปัญญา

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางหมั่นเพียรบ่มเพาะทั้งเช้าค่ำโดยไม่กินไม่นอน และทั้งหมดนี้ก็เพื่อความอยู่รอดของตน และเพื่อท่านปู่ซึ่งอยู่ห่างไกลจะไม่ต้องกังวล

แต่ท้ายที่สุด นางก็เป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็ก ๆ มีหลายครั้งที่นางรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งและจวนเจียนจะพังทลายเช่นเดียวกับยามนี้

เพราะทันทีที่รู้ว่าตนหมดโอกาสในการเข้าร่วมการชุมนุมล่าดารา ชีวิตของนางดูเหมือนจะมืดมนไร้หนทาง

ข้าควรทำอย่างไรดี?

ถ้าท่านปู่รู้ว่าข้าอ่อนแอปานนี้ เขาคงผิดหวังเป็นแน่แท้

แต่… ข้าเหนื่อยมากจริงๆ….

ฝูงชนหลั่งไหลไปตามท้องถนนที่พลุกพล่าน เมื่อพวกเขาเห็นเถี่ยอวิ๋นผิงนั่งกอดเข่าอยู่บนพื้น หลายคนเริ่มชี้และกล่าวถึงนาง บ้างก็เย้ยยิ้ม บ้างก็สงสาร บ้างสับสน และอื่น ๆ อีกมากมาย

“เจ้าเห็นหรือไม่ หากเจ้าไม่บ่มเพาะให้ดี เจ้าจะเป็นเหมือนนางไปตลอดชีวิต น่าสงสารและน่าสมเพช ทั้งยังไม่อาจเชิดหน้าสู้ฟ้าได้ตลอดกาล” ชายชราที่สวมเสื้อคลุมหรูหราชี้ไปที่เถี่ยอวิ๋นผิง พลางกล่าวเตือนหลานชายของตนที่กำลังจะเข้าสู่นิกายทุคตินีลโลหิตเพื่อบ่มเพาะ

เมื่อได้ยินดังนี้ ใบหน้าที่สวยงามของเถี่ยอวิ๋นผิงกลับซีดเผือดอย่างน่าเวทนา ความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้พลุ่งพล่านอยู่ในอก มันเหมือนกับกระบี่นับหมื่นนับพันกำลังทิ่มแทงหัวใจ และนางไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป จึงเริ่มสะอื้นอย่างเงียบ ๆ

ในขณะนี้ มือที่ใหญ่และอบอุ่นก็ตบลงที่ไหล่เล็กแคบเบา ๆ ความอบอุ่นแผ่พุ่งราวกับสายน้ำที่ไหลผ่านทั่วร่างกาย ทำให้เถี่ยอวิ๋นผิงรู้สึกถึงร่องรอยของความมั่นคงและการปลอบใจอย่างไม่มีเหตุผล

หญิงสาวตะลึงลาน พลันแหงนหน้าขึ้นมอง เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่เคียงข้างนาง โดยที่เขาจ้องมองนางอย่างใจเย็น

คนผู้นี้ย่อมคือเฉินซี และเมื่อเห็นเถี่ยอวิ๋นผิงหยุดสะอื้นไห้ เขาจึงกล่าวอย่างสงบ “ลุกขึ้น”

มันเป็นวาจาเพียงสองคำ แต่เสมือนกับมีพลังแปลกประหลาดมากมาย และทำให้หัวใจของเถี่ยอวิ๋นผิงสั่นไหว ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างว่าง่าย

“ทุกคนล้วนประสบกับความเจ็บปวด และทุกคนต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ไม่อาจแบกรับได้ แต่เจ้าก็ไม่อาจเผยความอ่อนแอให้ผู้อื่นเห็น เพราะความสงสารไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย” เฉินซีกล่าวอย่างใจเย็น

เถี่ยอวิ๋นผิงหายใจเข้าลึก ๆ “เจ้าเป็นใคร”

“ปู่ของเจ้าฝากสิ่งนี้มาให้” เฉินซีส่งกระเป๋าเก็บของของเถี่ยคุนให้หญิงสาว

ท่านปู่เหรอ? เถี่ยอวิ๋นผิงผงะ และความตื่นเต้นเล็ก ๆ ก็พลุ่งพล่านในดวงตา นางเปิดกระเป๋าเก็บของ และมองมันอย่างระมัดระวัง

หลังจากนั้นไม่นาน นางก็กัดฟันและเก็บถุงเก็บของออกไป ดวงตาทอประกายเด็ดเดี่ยวขณะเงยหน้าจ้องมองเฉินซี จากนั้นประสานมือ “ขอบพระคุณผู้อาวุโส”

เฉินซียิ้ม “เจ้าคิดทำสิ่งใดหลังจากนี้?”

เถี่ยอวิ๋นผิงตกตะลึง จากนั้นนางก็เม้มริมฝีปากแน่น “พากเพียรบ่มเพาะให้มากขึ้น แม้ว่าข้าจะพลาดโอกาสเข้าร่วมการชุมนุมล่าดารา แต่ข้าก็จะไม่หมดหวังเช่นนั้น”

เฉินซีครุ่นคิด “เหตุใดเจ้าถึงยืนกรานที่เข้าร่วมการชุมนุมล่าดาราด้วย?”

เฉินซีเคยได้ยินเกี่ยวกับการชุมนุมล่าดารามาก่อน เมื่อครั้งอยู่ที่แดนโลกาวินาศ อี้เทียนผู้เป็นนายน้อยสามของตระกูลอี้ได้คุยโม้ว่าจะจับตัวเขาเป็นทาสเทพ โดยตั้งใจที่จะให้เขาเข้าร่วมการชุมนุมล่าดาราที่จัดขึ้นโดยจักรพรรดินีอวี้เชอ

อย่างไรก็ตาม เฉินซีทราบเพียงเท่านั้น และไม่ทราบรายละเอียดอื่น ๆ เลย

“เพราะว่า… เพราะว่าพรสวรรค์โดยกำเนิดของข้านั้นธรรมดาเกินไป และมีเพียงการเข้าร่วมการชุมนุมล่าดาราเท่านั้น ข้าจึงจะมีโอกาสบรรลุสู่ขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณ” เถี่ยอวิ๋นผิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “เพื่อโอกาสนี้ ข้าจึงทุ่มเทพยายามอย่างมาก แต่ไม่มีหวังแล้ว…”

เมื่อกล่าวจบ น้ำเสียงของนางนั่นอดเผยถึงความหนักใจไม่ได้

“โอกาสที่เจ้ากล่าวถึงคืออะไร?” คิ้วของเฉินซีเลิกขึ้น

“มันคือโอสถทวิวิญญาณที่กลั่นโดย ปรมาจารย์ชิง จักรพรรดิที่มีชื่อเสียงในเต๋าแห่งโอสถของเอกภพจักรวรรดิ มันมีฤทธิ์ทำให้สามารถควบแน่นประทีปวิญญาณของแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อข้าทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณ ผู้อาวุโส ท่านคงทราบดีว่าหากประทีปวิญญาณไม่พุ่งสู่ท้องฟ้าจากภายในร่างกาย ก็จะไม่สามารถควบแน่นแท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ได้ และเม็ดยานี้ก็เตรียมไว้เพื่อการนี้” เถี่ยอวิ๋นผิง กล่าวช้า ๆ เกี่ยวกับทุกสิ่งโดยไม่ลังเลใจ

ปรมาจารย์ชิง? เอกภพจักรวรรดิ? เฉินซีครุ่นคิดในใจ ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงตัวอักษรทั้งเก้าที่เขารวบรวมจากชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก ซึ่งน่าตกใจ เพราะมันมีตัวอักษร ‘จักรวรรดิ’ และ ‘เอกภพ’ อยู่ด้วย

หรือทั้งหมดนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?

เมื่อคิดมาถึงจุดนี่ เฉินซีก็จดจำชื่อเอกภพจักรวรรดิไว้ในความทรงจำทันที โดยตั้งใจที่จะให้ความสำคัญกับข้อมูลและเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับเอกภพจักรวรรดิมากขึ้น

สำหรับปรมาจารย์ชิงคือใครนั่น เฉินซีไม่คิดที่จะใส่ใจกับมัน เพราะคนผู้นั้นคงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้ที่มีความปราดเปรื่องในเต๋าแห่งโอสถ

“ผู้อาวุโส ท่าน… ท่าน…” ทันใดนั้น เถี่ยอวิ๋นผิงกล่าวด้วยท่าทีลังเลเล็กน้อย

“เจ้าว่ามาเถิด” เฉินซียิ้ม

“ท่านช่วยพาข้าเข้าร่วมการชุมนุมล่าดาราได้หรือไม่” เถี่ยอวิ๋นผิงหายใจเข้าลึก ๆ และจ้องมองเฉินซีด้วยความคาดหวัง แต่เนื่องจากนางรู้สึกประหม่า สองมือจึงกำแน่นโดยไม่รู้ตัว

บทที่ 1599 กระต่ายโลหิตเนตรหยก 1

บทที่ 1599 กระต่ายโลหิตเนตรหยก 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]