บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1638

สรุปบท บทที่ 1638 สยบโดยสมบูรณ์: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

สรุปเนื้อหา บทที่ 1638 สยบโดยสมบูรณ์ – บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

บท บทที่ 1638 สยบโดยสมบูรณ์ ของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย novelones อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 1638 สยบโดยสมบูรณ์

…………….

บทที่ 1638 สยบโดยสมบูรณ์

ทุกคนกระทั่งคิดไปว่าหูของพวกตนมีปัญญา สวินหยางผิงอวดศักดาว่าจะฆ่าผู้ใดที่ทำให้ตนไม่พอใจทั้งหมดหรือ?

จะโอหังสามหาวเกินไปหน่อยแล้วกระมัง!

ถึงขนาดนี้พวกเขานึกสงสัยไปว่าจักรพรรดิโกวเฉินมีบุตรเช่นนี้ได้อย่างไร เพราะสวินหยางผิงกระทำตามชอบใจ ไม่เห็นกฎเกณฑ์ในสายตา ยิ่งกว่านั้น ความโอหังยังเรียกได้ว่าชวนตะลึง

แต่นี่ยังแสดงให้เห็นทางอ้อมด้วยว่าสวินหยางผิงทะนงตนเพียงใด ไม่เห็นผู้ใดในโถงนี้ในสายตาเลย

นี่คือการยั่วยุลักษณะหนึ่ง และยังเป็นการหยามเหยียดอย่างเกินธรรมดาด้วย!

“หากเจ้ายังเสียเวลากันเช่นนี้ ข้าจะไปแล้วนะ” มุมปากเฉินซียกยิ้มยามเผชิญเหตุการณ์นี้ ดวงตาทอประกายลึกล้ำ ยังคงนิ่งสงบสงวนพลังชีวิต เฉยชาไม่ธรรมดาไม่เปลี่ยนแปลง

สวินหยางผิงแสร้งทำทีตกใจ ชำเลืองเฉินซีพลางกล่าว “เจ้าบอกว่าข้า คุณชายผู้นี้เสียเวลา? ฮ่า ๆ! วอนตายโดยแท้”

คำพูดของเขาหยามเหยียดโอหังและถือตน เหมือนอินทรีก้มมองมดบนพื้น

“ไอ้โง่งี่เง่า! ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่รักษามันไว้ เช่นนั้นก็ตายเสีย!” สวินหยางผิงหัวเราะลั่น เส้นผมยาวโบกไสว สาวเท้าออกมาเหวี่ยงแขนขวาฟาดใส่เฉินซี

เขาปราบศิษย์ในโถงนี้ติด ๆ กันมาหลายคน และยังเอาชนะสามตัวตนสูงสุดอย่างเสวียนท่าจื่อ อี้สวิน และกวนหงอวี่มาแล้ว จึงไม่คิดถือผู้ใดในโถงนี้จริงจังมาช้านาน

ขณะนี้ ยามออกแรงฟาด จึงเผยท่าทีดุจเป็นใหญ่เหนือโลกา ตั้งใจบดขยี้เฉินซีจบศึกโดยเร็วที่สุด

วูบ!

ร่างของเฉินซีวูบไหว เผยอักขระยันต์ลึกลับ ดูพร่ามัวเกินจับต้องยามหลบการโจมตีนี้ไปได้ง่าย ๆ

ตู้ม!

สวินหยางผิงแค่นยิ้มเย็น สาวเท้าออกมาอีกก้าว ทำมือเหมือนผลักตะวันจันทรา แบกอัสนีพร่างพรมกระแทกลงใส่เฉินซีอีกครั้ง

มิติเวลาพังทลายยามอัสนีเลื่อนลั่น แปรเปลี่ยนเป็นสายฟ้าป่วนคลั่งทั่วบริเวณ ทำให้เฉินซีไม่อาจหลบเลี่ยง

วิธีการเช่นนี้เรียบง่ายตรงไปตรงมา คิดเอาชนะเฉินซีด้วยอำนาจที่เหนือกว่าอย่างล้นพ้น

วูบ!

“ฮึ! เจ้าทำเป็นแต่หลบหรือไร? หากกลัวก็ไสหัวไปได้แล้ว ข้าไม่มีความอดทนมาเสียเวลากับพวกขลาดเขลาอย่างเจ้าหรอก!” สวินหยางผิงแค่นเสียงเย็น

คนอื่น ๆ ในโถงเข่นเขี้ยวอย่างแค้นเคือง เจ้านี่ไม่เพียงโอหัง ยังปากหมาสันดานโจรอีก

“เฮอะ” เฉินซีพลันหยุดเคลื่อนไหว รอยยิ้มเย็นเยียบผุดขึ้นที่มุมปาก นับแต่เริ่มบ่มเพาะมาจนบัดนี้ เขาก็มักจะถูกด่าว่าโอหังสามหาวเกินไป แต่ไม่เคยมีผู้ใดกล้าเรียกเขาว่าขลาดเขลามาก่อน

ขณะนี้ อักขระยันต์สารพัดเจิดจรัสพลันพุ่งออกจากร่างอย่างบ้าคลั่ง พลุ่งพล่านอยู่รอบกาย ขณะที่ทักษะวิชาทั้งหมดระเบิดออกมา

ร่างถูกปกคลุมด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์อันเรืองรองสายหนึ่งทันที ดูเหมือนตะวันผลาญทะยานเวหา เจิดจรัสสาดส่องถึงขีดสุด

ขณะนี้ ทุกคนในโถงต่างรู้สึกอึดอัดและมึนงงเป็นอย่างยิ่ง ปราณอันดุร้ายนี้ทรงพลังเกินไป ประหนึ่งจอมจักรพรรดิผู้ไร้เทียมทาน เมื่อเทียบกับท่าทีเยือกเย็นเฉยชาของเฉินซีก่อนหน้านี้ ก็เหมือนต่างออกไปราวคนละคน!

เพราะขณะนี้ อักขระยันต์พลิ้วไหวรอบร่างเฉินซี ปกคลุมด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ผิวกายทุกอณูเรืองรองเจิดจรัส กฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ดูจะก่อเป็นมหาสมุทรอันเชี่ยวกรากสาดซัด!

“หือ?” ม่านตาของเหล่าตัวตนทรงอำนาจหดตัวเฉียบพลัน สีหน้าแปรเปลี่ยนไป ขณะนี้ พวกเขาสัมผัสแรงกดดันได้แม้การฝึกฝนของพวกตนจะอยู่ในขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล!

สิ่งนี้ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง!

“ศักยภาพของมหาเทวาวิญญาณ…” เปลือกตาของชายชราร่างผอมข้างกายสวินหยางผิงพลันกระตุก ขณะที่ดวงตาฝ้าฟางเรืองประกายชวนตะลึง

อาภรณ์แดงของจักรพรรดินีอวี้เชอพลิ้วพัด มุมปากใต้ผ้าคลุมแดงปรากฏความประหลาดใจเล็กน้อย นางดูเหมือนจะไม่เคยคาดคิดว่าเฉินซีจะระเบิดอำนาจเช่นนี้ออกมาได้

ตู้ม!

การอธิบายนั้นใช้เวลาเนิ่นนาน ทว่าเหตุการณ์จริงเกิดขึ้นในพริบตา เฉินซีเหยียบหนึ่งเท้าออกไป ขณะที่สารพัดอักขระยันต์อันหนาแน่นรอบกายปะทุขึ้น พวกมันเหมือนเป็นค่ายกลศักดิ์สิทธิ์โบราณกวาดออกปกคลุมรอบบริเวณ กระทั่งสวินหยางผิงยังถูกปกคลุมไว้เบื้องใต้

“เอ๋…” ขณะนี้ สวินหยางผิงผงะจังงัง รู้สึกถูกคุกคามกว่าหนใด

เขาแผดเสียงสนั่นตามสัญชาตญาณ ร่างสูงใหญ่วูบไหวผ่านกระบวนท่าเท้าเลียนตำแหน่งดารา เคลื่อนไหวใช้สารพัดทักษะวิชาสูงสุด ทำให้พลังศักดิ์สิทธิ์พลุ่งพล่านแปรสภาพเป็นธารอัสนีอันดุร้าย ตั้งใจจะทะลวงการจองจำนี้และบดขยี้เฉินซีไปด้วยกัน

แต่แล้ว เขาก็ต้องขวัญผวาเมื่อทักษะวิชาพังทลายสลายไปทันทีที่ปะทะกับสารพัดอักขระยันต์ พวกมันถูกจมหายไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง

ในการปะทะซึ่งหน้า เขาไม่อาจสั่นคลอนใด ๆ เฉินซีได้เลย!

ดวงตาของสวินหยางผิงเบิกกว้าง ดูไม่อาจเชื่อตาตนเองได้นิดหน่อย หลังจากนั้น เขาพลันแผดเสียงกึกก้อง ขณะที่อักขระแสงอสนีบาตทั่วร่างจะเรืองรองเจิดจรัส ดูประหนึ่งจ้าวแห่งอัสนี แขนเหวี่ยงแส้อสนีบาตฟาดลงใส่เฉินซีนับไม่ถ้วน

นี่คือทักษะสูงสุดที่เขาได้รับสืบทอดมาจากจักรพรรดิโกวเฉิน มีนามว่าแส้พยุหอสนีบาต ฟาดฟันใส่สรรพชีวิต ทรงพลังป่าเถื่อนเป็นอย่างยิ่ง

ขณะนี้ เรือนผมดกดำของเฉินซีส่ายสะบัด ร่างสูงยืนตระหง่านเช่นภูเขาศักดิ์สิทธิ์เกินเขยื้อน เพียงหนึ่งออกหมัด มิติก็ระเบิดเป็นเสี่ยง กฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์สารพัดสั่นสะท้าน แข็งแกร่งอหังการถึงขีดสุด

เป็นไปตามคาด หมัดนี้ทะลวงการป้องกันของสวินหยางผิง ทำให้อีกฝ่ายต้องถอยไปเจ็ดก้าวหนัก ๆ ทุกย่างก้าวเหล่านั้นกระแทกธรณีแยกแหวก ทั้งโถงสั่นสะท้านรุนแรง

ขณะเดียวกัน สีหน้ายามเซถอยก็เปลี่ยนแปลงไม่รู้จบ กว่าจะตั้งหลักได้ ใบหน้าก็ซีดขาวลงอย่างอดไม่ได้ สายโลหิตย้อยหยดลงจากมุมปาก

สิ่งนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าอำนาจหมัดนี้น่าสะพรึงกลัวเพียงใด หากเป็นยอดฝีมือทั่วไป คงถูกหมัดนี้ชกแหลกเป็นเสี่ยงแล้ว

กระทั่งหัวใจของทุกคนในโถงยังสั่นสะท้านยามเห็นเช่นนี้ เพราะเฉินซีทรงพลังเกิน หนังศีรษะของพวกเขาจึงอดเสียววาบกันไม่ได้ แต่พริบตาต่อมา พวกเขาก็ฟื้นจากความตกตะลึง และถอนหายใจโล่งอก รู้สึกโล่งใจระคนตื่นเต้นกันเสียแทน

เพราะเมื่อครู่สวินหยางผิงสามหาวโอหังเกินไป เหยียดหยามดูหมิ่นพวกตนจากเอกภพมสิหิมไม่หยุดหย่อน ทำให้พวกเขาเคืองแค้นอยู่ในใจ ยามนี้เมื่อเฉินซีเผยอำนาจไร้เทียมทาน ทุกคนล้วนรู้สึกสะใจอย่างยิ่ง

“ไอ้เวร!!” สวินหยางผิงตวาดลั่นด้วยโทสะ กระทั่งความขุ่นเคืองคับแค้นใจ ยิ่งกว่านั้น เส้นผมยาวบนศีรษะยังชี้ตั้ง ดวงตาเกือบถลนจากเบ้าด้วยความโกรธ

เขาเดือดดาลอย่างแท้จริง เพราะตัวเขา บุตรลำดับสิบสามผู้ทรงเกียรติของจักรพรรดิโกวเฉินและมหาเทวาวิญญาณผู้อยู่เหนือโลกาถูกสยบข่มถึงเพียงนี้ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยประสบมาชั่วชีวิต!

วูบ!

ทันใดนั้น เขาก็ชักดาบยามสี่ฉื่อออกมาเล่มหนึ่ง ฟาดฟันเข้ามาพร้อมอสนีบาตโปรยปราย

เห็นได้ชัดว่านี่คือสมบัติวิญญาณธรรมชาติชิ้นหนึ่งซึ่งมีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือธรรมดา แฝงด้วยพลังแก่นแท้แห่งอัสนี ยามนี้ จิตสังหารของมันจึงเปี่ยมด้วยอำนาจทำลายล้างทรงพลัง

สิ่งนี้ทำให้เฉินซีเลิกคิ้ว เขารู้ว่าตนไม่สามารถปะทะกับดาบนี้ได้ตรง ๆ เพราะมันไม่ต่างกับนำความได้เปรียบไปให้อีกฝ่ายเลย และนั่นรังแต่จะทำให้สวินหยางผิงเป็นฝ่ายรุกโจมตีในศึกนี้อีกครั้ง

เคร้ง!

พริบตาต่อมา ยันต์ศัสตราที่ดูธรรมดาก็ปรากฏขึ้นในฝ่ามือเรียวขาวของเฉินซีในฉับพลัน และฟาดฟันออกไป!

ปราณกระบี่จากมันหายวับสู่อากาศธาตุต่อหน้าทุกสายตาอย่างแปลกประหลาด และอึดใจต่อมา มันก็ปรากฏขึ้นกะทันหัน ฟาดฟันลงจากข้างกายสวินหยางผิง

กระบี่นี้ลึกลับและกะทันหันอย่างยิ่ง ทำให้ไม่อาจตั้งรับป้องกันได้ สวินหยางผิงซึ่งหลบไปได้ในยามคับขันจึงกล่าวได้ว่าไม่ธรรมดา

ทว่าปอยผมด้านซ้ายถูกปราณกระบี่เฉี่ยวจนขาดร่วง ยิ่งกว่านั้น ใบหน้ายังเกิดแผลน่าสะพรึงกลัว ทำให้โลหิตหลั่งรินออกมา

“แค้นนัก!” สวินหยางผิงผงะเสียจนสันหลังหนาววูบวาบ ใบหน้าบูดบึ้งพลางแผดเสียงเยี่ยงสัตว์ป่าจากความคับแค้นแน่นอก

หากเขาหลบการโจมตีนี้ไม่ทันเวลา มันคงเกี่ยวชีวิตของเขาไปแล้ว และทั้งหมดนี้ทำให้สวินหยางผิงเจียนบ้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]