อ่านสรุป บทที่ 1640 ถูกย้อนถาม จาก บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones
บทที่ บทที่ 1640 ถูกย้อนถาม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย novelones อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 1640 ถูกย้อนถาม
…………….
บทที่ 1640 ถูกย้อนถาม
เหรียญทองแดงโปรยสมบัติ!
ตาข่ายครอบคลุมสวรรค์!
เมื่อได้ยินชื่อเหล่านี้ บรรยากาศในห้องโถงก็หยุดนิ่งทันที และตกอยู่ในความเงียบงัน แม้แต่อากาศก็ดูเหมือนจะกลายเป็นน้ำแข็ง
ทุกคนรวมทั้งผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นล้วนเบิกตากว้าง และดูเหมือนไม่อยากเชื่อ
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องไม่ธรรมดาเท่านั้น แต่มันยังน่าทึ่งมาก!
สมบัติวิญญาณธรรมชาติทั้งสองชิ้นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ไม่คุ้นเคยกับผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้เลย หนึ่งในนั้นมาจากปรมาจารย์ของนิกายอำนาจเทวะ และอีกชิ้นมาจากฝูซีปรมาจารย์แห่งเขาเทพพยากรณ์ ทั้งสองชิ้นค่อนข้างมีชื่อเสียงในแดนเทพโบราณพอสมควร
แต่ที่สำคัญที่สุด คือนิกายอำนาจเทวะและเขาเทพพยากรณ์เป็นศัตรูกัน เนื่องจากนิกายทั้งสองก่อตั้งมาเนิ่นนานจนไม่อาจนับ ทั้งสองจึงเป็นศัตรูคู่แค้นที่เหมือนน้ำกับไฟมาโดยตลอด
ตามที่อี้เทียนกล่าว เฉินสวินที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับมีสมบัติของนิกายอำนาจเทวะและเขาเทพพยากรณ์ ดังนั้นนี่จึงอยู่เหนือจินตนาการของพวกเขานัก
ผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์ส่วนหนึ่งไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ แต่เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศและท่าทางประหลาดใจที่ปรากฏบนใบหน้าของผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้น พวกเขาก็เข้าใจทันทีว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ!
ชั่วขณะหนึ่ง สายตาที่จ้องมองเฉินซีก็เปลี่ยนไป แววตาเผยถึงความประหลาดใจและสงสัยใคร่รู้
หรือคนผู้นี้จะมาจากภพเบื้องล่างจริง ๆ ? และเขาไม่ใช่ผู้บ่มเพาะที่ถือกำเนิดในแดนเทพโบราณ?
ถ้ามันเป็นความจริง ก็ออกจะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
ในความคิดของพวกเขา ทุกคนที่มาจากภพเบื้องล่างนั้นอ่อนแอ เป็นเพียงทาสเทพและมีฐานะต่ำต้อย
นี่เป็นการไม่ยอมรับที่มาจากฐานะ และมันไม่เกี่ยวข้องกับการบ่มเพาะแต่อย่างใด!
ในขณะนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของเฉินซีดูเหมือนจะสงบเหมือนเช่นเคย แต่จิตสังหารอันเยือกเย็นเสียดแทงกลับปะทุขึ้นในส่วนลึกของดวงตาสีดำสนิท
ชายหนุ่มตระหนักดีถึงผลที่จะตามมาหากความโลภของคนเหล่านี้ถูกกระตุ้น ดังนั้นตั้งแต่เข้าร่วมการชุมนุมล่าดารามาจนถึงตอนนี้ เขาจึงไม่เคยใช้เหรียญทองแดงโปรยสมบัติและตาข่ายครอบคลุมสวรรค์เลยยสักครั้ง
แต่นึกไม่ถึงว่าอี้เทียนจะเปิดเผยเรื่องทั้งหมดนี้ในพริบตาสุดท้าย และยังเปิดโปงความลับของเขา! แล้วเฉินซีจะไม่ขุ่นเคืองได้อย่างไร?
“อี้เทียน! เจ้ากล้ารับผิดชอบต่อสิ่งที่เจ้ากล่าวหรือไม่” ทันใดนั้น ซูหว่านเอ๋อร์ก็กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว และทำลายความเงียบในห้องโถง
นางรู้สึกว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องไร้สาระจริง ๆ เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา เฉินซีได้พลิกสถานการณ์และช่วยศิษย์รุ่นเยาว์ของเอกภพมสิหิมจัดการกับอันตรายที่พวกเขาเผชิญอยู่ ทว่าตอนนี้ ไม่เพียงแต่อี้เทียนจะไม่รู้สึกขอบคุณ แต่ยังแว้งกัดเหมือนหมาบ้า! สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
หลายคนคิดคล้ายกับซูหว่านเอ๋อร์ ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งนี้ จึงมองไปที่อี้เทียนด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
ผู้อาวุโสจากตระกูลอี้ อี้เหวินขมวดคิ้วและกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “เทียนเอ๋อร์ นี่มันเรื่องอันใดกัน?”
เมื่ออี้เทียนได้ยิน ดูเหมือนเขากำลังเผชิญกับความอยุติธรรมที่ไม่ธรรมดา พลันร้องโพล่งขึ้น “ข้าขอสาบานต่อสวรรค์ ข้าไม่ได้โกหกอย่างแน่นอน!”
เขาหยุดครู่หนึ่ง พลันขบฟันแน่นและจดจ้องเฉินซีด้วยสีหน้าไม่พอใจ “มิหนำซ้ำ ทุกคนที่อยู่ที่แห่งนี้ล้วนทราบดีว่าคนผู้นี้ได้สังหารคนสกุลอี้ของข้าไปมากมายในแดนโลกาวินาศ แม้แต่ท่านลุงเก้าที่คอยดูแลข้ามาตั้งแต่ยังเด็ก ก็ยังต้องตายด้วยน้ำมือของเจ้าเด็กนี้! ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แล้วข้าจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวตนของเขาได้อย่างไร?”
เสียงของเขาดุร้ายและเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ขณะที่มันสะท้อนก้องในห้องโถง
ทั้งหมดนี้เป็นเหมือนการระเบิดครั้งใหญ่ ที่ทำให้หัวใจของผู้คนในห้องโถงสั่นคลอน ทำให้พวกเขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
ดังนั้นจึงมีความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างเฉินสวินและตระกูลอี้มาตั้งแต่แรก ไม่น่าแปลกใจที่เขากำจัดศิษย์ทั้งหมดของตระกูลอี้ในระหว่างการชุมนุมล่าดารา
เมื่อทุกคนคิดได้เช่นนี้ สายตาที่จ้องมองเฉินซีก็เต็มไปด้วยความสงสัย หรือว่าทั้งหมดนี้เป็นความจริง?
“เฉินสวิน ทั้งหมดนี้เป็นความจริงหรือไม่?” อี้เหวินมีสีหน้าดำคล้ำ พลางจ้องเขม็งไปที่เฉินซีอย่างก้าวร้าว
“เจ้าหนู เจ้าควรอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้”
“ฮึ่ม! ข้ารู้ว่าต้นกำเนิดของเด็กคนนี้น่าสงสัย ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง!”
ในขณะนี้ เมี่ยวหยาจากอารามเต๋าสัจวิญญาณที่เป็นศัตรูกับเฉินซี และผู้ยิ่งใหญ่อีกสองสามคนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเป็นมิตร
ในทางกลับกัน สถานการณ์ที่เฉินซีเผชิญอยู่ในขณะนี้ ดูเหมือนเขาจะถูกประณามจากทุกคนและรายล้อมไปด้วยศัตรู
“ทุกคน นี่พวกเจ้ากำลังตัดสินโทษคนผิดอยู่หรือ?” เถี่ยอวิ๋นผิงกล่าวขึ้นทันที และใบหน้าที่สวยงามของนางก็เต็มไปด้วยความโกรธ
“ข้าอยากจะถามพวกเจ้าทุกคนเช่นกัน เหตุใดผู้อาวุโสเฉินสวินและข้าจึงต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชา ทั้งที่เราได้อันดับหนึ่งในการชุมนุมล่าดารา?”
คำกล่าวของนางมีพลัง และเป็นคำถามที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“ตอนนี้ผู้อาวุโสเฉินสวินเอาชนะสวินหยางผิงได้ และเขาช่วยเหลือพวกเจ้าทุกคนจากภัยคุกคาม ทำให้เหล่าศิษย์รุ่นเยาว์ของเอกภพมสิหิมสามารถรักษาหน้าของตนได้ แต่หลังจากที่เขาทำทั้งหมดนี้แล้ว ไยพวกเจ้าจึงปฏิบัติเช่นนี้ด้วย?
ในเวลานี้ เถี่ยอวิ๋นผิงพร้อมที่จะเสี่ยงทุกอย่าง นางรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้ นางสมควรรับผิดชอบด้วย และนางก็โกรธแค้นอย่างยิ่ง
ท้ายที่สุด นางกวาดสายตามองทุกคนในห้องโถงไปและกล่าวย้ำ “ทำไม?”
ชั่วขณะหนึ่ง เสียงที่โกรธเกรี้ยว เสียใจ และเศร้าโศกของเถี่ยอวิ๋นผิงดังก้องไปทั่วทั้งห้องโถง
ครืน!
ขณะที่กล่าว เขาก็สืบเท้าไปข้างหน้า กลิ่นอายของบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลถาโถมออกจากร่างกาย ดุจเทพปีศาจได้ตื่นจากการหลับใหล กลิ่นอายแผ่ไปรอบ ๆ และมันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
รอยยิ้มเยือกเย็นปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากเฉินซี แต่เขาหาได้กลัวแต่อย่างใด
เมื่อการต่อสู้ครั้งนี้กำลังจะปะทุขึ้น เสียงที่เยือกเย็นและน่ารื่นรมย์ก็ดังขึ้นทันที “ไร้สาระ!”
มันเป็นเพียงถ้อยคำสองสามคำ แต่เสมือนกับพายุที่พัดผ่านไปทั้งห้องโถง ทำให้หัวใจของทุกคนสั่นสะท้าน และรู้สึกถึงแรงกดดันที่ทำให้หายไม่ออก กำลังห่อหุ้มร่างกายพวกเขาไว้
ในทางกลับกัน เฉินซีและอี้เหวินซึ่งแต่เดิมเผชิญหน้ากันอยู่นั้นก็รู้สึกหายใจไม่ออก พลังในร่างของพวกเขาก็ถูกสยบโดยสิ้นเชิง ทำให้ไม่สามารถก้าวเท้าไปข้างหน้าได้!
หลังจากนั้น ภายใต้การจ้องมองที่ตกตะลึงของทุกคน จักรพรรดินีอวี้เชอเอามือไพล่หลัง แล้วก้าวเท้าไปยืนขวางระหว่างทั้งสอง ดวงตาสุกใสเหมือนกับสายฟ้า เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์สีเขียวออกมา
ชุดกระโปรงสีแดงเพลิงที่ปักลวดลายวิหคอมตะปลิวไสว ในขณะที่รูปร่างที่เพรียวบางและสง่างามของนางดูแปลกตายิ่งกว่าเดิม นางเป็นเหมือนจักรพรรดินีที่แท้จริงซึ่งครอบครองอำนาจอันทรงพลัง
“อย่าได้กล่าวถึงเรื่องนี้อีก” นางเหลือบมองเฉินซี ก่อนจะมองไปที่อี้เหวิน เห็นได้ชัดว่านางกำลังเตือนอี้เหวินว่าอย่าได้ล้ำเส้น
“พวกเจ้าทุกคนออกไปได้แล้ว ถึงเวลาที่งานเลี้ยงนี้ควรจบลง เฉินสวินและเถี่ยอวิ๋นผิง พวกเจ้าตามข้ามา” จักรพรรดินีอวี้เชอหันหลังกลับแล้วจากไปท่ามกลางเสียงที่เย็นชาอันแผ่วเบาของนาง
ดวงตาของเฉินซีหรี่ลง แต่ก็เดินตามไปแต่โดยดี
เมื่อเห็นว่าเฉินซีและจักรพรรดินีอวี้เชอกำลังหายตัวไปจากห้องโถง อี้เหวินดูเหมือนจะดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “ฝ่าบาท แต่ว่า…”
จักรพรรดินีอวี้เชอหยุดเคลื่อนไหวกะทันหัน นางไม่แม้แต่จะหันกลับไป และเพียงสะบัดแขนเสื้อเบา ๆ
โครม!
จู่ ๆ พลังไร้รูปร่างก็กวาดออกไป ซึ่งแท้จริงแล้วมันได้ซัดบรรพเทวาอย่างอี้เหวินจนกระเด็น เขาร้องโหยหวนก่อนที่จะล้มลงกับพื้น ร่างกายกระตุกอย่างรุนแรง และไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก!
ทุกคนล้วนตกตะลึงจนอ้าปากค้างกันถ้วนหน้า เพราะนี่มันน่ากลัวเกินไป! บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลกลับถูกบดขยี้ในชั่วพริบตา!
เฉินซีก็ตกใจอย่างมากเช่นกัน การบ่มเพาะของจักรพรรดินีอวี้เชอได้บรรลุถึงความสูงระดับใดกันแน่?
“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่ากล่าวถึงเรื่องนี้อีก แต่เจ้ากลับไม่ฟัง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าก็จงอยู่ที่นี่ซะ บางทีข้าอาจจะปล่อยเจ้าไป หากผู้นำตระกูลอี้มาขออภัยต่อเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าตระกูลอี้ของเจ้ารอให้ข้าไปหามันด้วยตัวเอง… ผลที่ตามก็คงยากจะจินตนาการได้”
เสียงที่เยือกเย็นและทุ้มลึกของจักรพรรดินีอวี้เชอดังก้องไปทั่วห้องโถง ซึ่งดูเหมือนนางจะทำสิ่งที่ธรรมดามาก
แต่เมื่อทุกคนที่อยู่โดยรอบมองไปที่อี้เหวินที่ยังคงดิ้นและร้องโหยหวนอยู่บนพื้น ควบคู่ไปกับคำเตือนจากจักรพรรดินีอวี้เชอ หัวใจของพวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกหนาวเย็นและความเย็นยะเยือกก็แล่นไปตามกระดูกสันหลัง
…………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...