เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1729

บทที่ 1729 จักรพรรดิห้าดารา

………………..

บทที่ 1729 จักรพรรดิห้าดารา

เฉินซียืนอยู่ที่หน้าห้วยเงียบ ๆ ไม่ขยับตัวมาหนึ่งวันเต็ม ประหนึ่งเป็นรูปปั้นดินเหนียว

จักรพรรดินีอวี้เชอไม่ได้รบกวนเขา นางทำเพียงยืนเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ

นางตระหนักนานแล้วว่าเฉินซีเป็นศิษย์สายตรงผู้หนึ่งของเขาเทพพยากรณ์ และเป็นเรื่องรู้กันทั่วไปว่า หากว่าถึงความสำเร็จในเต๋าแห่งยันต์อักขระ คงไม่มีทางที่กองกำลังอื่นทั่วแดนเทพโบราณจะเทียบเขาเทพพยากรณ์ได้

ด้วยเหตุนี้ จักรพรรดินีอวี้เชอจึงไม่ห่วงเลยสักนิดว่าเฉินซีจะทำลายข้อจำกัดศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่ได้ เว้นแต่อำนาจของข้อจำกัดศักดิ์สิทธิ์นี้จะเหนือล้ำเกินขอบเขตเต๋าแห่งยันต์อักขระของเฉินซี

กาลเวลาเคลื่อนผ่านไปอีกสามวัน แต่เฉินซีก็ยังนิ่งงัน มีเพียงคิ้วเฉียงที่ค่อย ๆ ย่นเข้าขมวดกัน ดูเหมือนเขาจะประสบปัญหาแก้ไขยากเข้าแล้ว

ยากยิ่งเสียด้วย!

ข้อจำกัดศักดิ์สิทธิ์นี้ลึกล้ำอย่างยิ่ง ค่ายยันต์อักขระภายในมันไพศาลเช่นมหาสมุทร ดูประหนึ่งธรรมชาติสรรสร้าง คลุมเครือและลึกล้ำเหนือจินตนาการ

มิเพียงแค่นั้น จากการประเมินของเฉินซี ข้อจำกัดศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่ได้มีเพียงพลังบัญชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ มันกระทั่งรวมพลังชะตากรรมในฟ้าดิน เจือด้วยพลังจากความหวังความปรารถนาของสรรพชีวิต กล่าวได้ว่าเหนือล้ำเกินหยั่งประจักษ์!

เช่นนี้อย่าว่าแต่บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลเลย กระทั่งจักรพรรดิยังต้องเผชิญหายนะเมื่อเข้าไป จะต้องติดอยู่ที่นั่น สูญเสียตัวตนไปอย่างสมบูรณ์

ด้วยความสำเร็จในเต๋าแห่งยันต์อักขระปัจจุบันของเฉินซี เขาทำได้เพียงประจักษ์ความลึกล้ำของมัน และพบอันตรายถึงตายซึ่งซุกซ่อนอยู่เท่านั้น

หากว่าด้วยเรื่องพิชิตค่ายกล เขายังห่างไกลเกินทำได้

ไม่ใช่เพราะความสำเร็จในเต๋าแห่งยันต์อักขระไม่เพียงพอ แต่เพราะข้อจำกัดด้านการบ่มเพาะ!

กล่าวคือ อำนาจภายในข้อจำกัดศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่ใช่สิ่งที่เทวารู้แจ้งวิญญาณผู้ใดจะก้าวข้ามได้เลย

ถึงขนาดที่เฉินซีสงสัยด้วยซ้ำ ว่าต่อให้จักรพรรดินีอวี้เชอทำตามข้อกำกับของเขา นี่ยังเป็นเรื่องยากสำหรับนาง

เหตุผลเป็นเพราะพลังภายในข้อจำกัดศักดิ์สิทธิ์นี้ลึกล้ำดุจหุบเหวเกินไปนัก และดูเหมือนมันจะรวบรวมพลังทั่วฟ้าดินไว้ภายใน!

ไม่ใช่สิ่งที่จักรพรรดิผู้หนึ่งจะทำสำเร็จได้เลย

“ดูเหมือนว่าการฝึกฝนของผู้สร้างข้อจำกัดศักดิ์สิทธิ์นี้ อย่างน้อยที่สุดต้องเหนือกว่าขอบเขตมหาราชเทวา” เฉินซีครุ่นคิดเร็วจี๋

ที่นี่เป็นพื้นที่อันไม่อาจหยั่งทราบบนภูเขาลั่วเจีย น้อยคนนักจะได้มาเยือน แล้วเหตุใดข้อจำกัดศักดิ์สิทธิ์ชวนตะลึงเช่นนี้จึงมาปรากฏที่นี่?

ในความคิดเฉินซี เบื้องหลังข้อจำกัดศักดิ์สิทธิ์นี้ต้องมีอารามไท่ชูอยู่อย่างแน่นอน

เขาถึงขนาดคิดเล็กน้อยว่า ยอดฝีมือที่ศิษย์พี่ใหญ่อู๋เซวี่ยฉานขอให้เขามาเยือนก็คือผู้สร้างค่ายกลนี้

“เหล่าไป๋ รู้จักค่ายกลเช่นนี้หรือไม่?” ทันใดนั้น เฉินซีก็บังเกิดแรงบันดาลใจ เชิญเหล่าไป๋ออกมา

ทันทีที่วิหคเฒ่าปากเสียผู้เย่อหยิ่งจองหองและหลงตัวเองนี้ปรากฏ มันก็แผดเสียงสนั่นอย่างเดือดดาล “ไอ้หนู เจ้าทำให้บรรพชนผู้นี้โมโหนัก! เจ้ารู้หรือไม่!? เจ้าขังข้าไว้ที่จักรวาลจ้อยร่อยในร่างของเจ้าแล้วไม่สนใจไยดีข้าเลย โหดร้ายเลือดเย็น ไร้หัวใจยิ่งนัก!”

จักรพรรดินีอวี้เชอประหลาดใจ นางพินิจเหล่าไป๋อย่างระมัดระวัง และสังเกตเห็นเส้นขนขาวดุจหิมะอันงดงาม กรงเล็บคมซึ่งดูเหมือนหลอมจากทองคำ หงอนอันเรืองรัศมีศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสี ทว่านางก็ไม่อาจตัดสินได้ว่ามันเป็นสัตว์ปีกศักดิ์สิทธิ์ใด

นางอดประหลาดใจไม่ได้ เฉินซีพบมันจากที่ใด? มันแตกต่างจากอสูรนภาอื่น ๆ ในแดนเทพโบราณอย่างสมบูรณ์….

เฉินซีขมวดคิ้วมองเหล่าไป๋ซึ่งโหวกเหวกไม่หยุดปาก “จบหรือยัง?”

สามคำเท่านั้น แต่นั่นกลับทำให้สีหน้าของเหล่าไป๋ชะงัก พึมพำออกมาว่า “ข้า บรรพชนผู้นี้ใจกว้างเมตตา ดังนั้นหนนี้ ข้าอภัยให้เจ้า”

เฉินซีรำพึงในใจ โชคยังดีที่ข้าไม่ได้ปล่อยวิหคเฒ่านี่ออกมายามอยู่ในเมืองเฟิงฉี มิเช่นนั้น ใครจะรู้ว่ามันจะก่อปัญหาเช่นไรขึ้น

มหาเทพเต๋า? เฉินซีหรี่ตาลงกล่าว “อย่าเพ้อเจ้อน่า ข้าถามว่าเจ้ารู้จักค่ายกลนี้หรือไม่!”

เหล่าไป๋อ้าปากพะงาบ แต่ไม่อาจพูดวาจาใดได้เนิ่นนาน

เห็นได้ชัดว่ามันก็ไม่รู้จักที่มาของข้อจำกัดศักดิ์สิทธิ์นี้เช่นกัน

เฉินซีถลึงตามองมันอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าหลบไป”

หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็สูดหายใจลึก พึมพำในใจว่า กระทั่งเหล่าไป๋ยังไม่รู้จักค่ายกลนี้ ดูเหมือนข้าจะพึ่งได้เพียงมรดกจากยันต์เทวะอนันต์ในการหาเส้นทางปลอดภัยเสียแล้ว

วิ้ง!

เมื่อตัดสินใจ ยันต์เทวะอนันต์ ณ จักรวาลในใจก็สั่นสะท้านเริ่มหมุนวน เผยผังอักขระยันต์ศักดิ์สิทธิ์มากมายอันลึกลับยิ่งใหญ่

ขณะเดียวกัน เฉินซีก็หลอมรวมทุกสิ่งที่เขาค้นพบมากับยันต์เทวะอนันต์ เริ่มประเมินมันอย่างสุดกำลัง

ยันต์เทวะอนันต์นั้นกล่าวกันว่าเป็นอนันต์ ครอบคลุมสรรพสิ่งในโลกหล้า สามารถอนุมานแก่นแท้ความลึกล้ำของยันต์เทวะทั้งปวง และเป็นมรดกสูงสุดของเขาเทพพยากรณ์

ผู้พูดก็คือเฉินซี

“คิดออกแล้วหรือ?” จักรพรรดินีอวี้เชอถาม

“ใช่ ข้าหาเส้นทางได้แล้ว เราผ่านไปอย่างปลอดภัยได้แล้วล่ะ” เฉินซีพยักหน้ายิ้ม ๆ

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็ไปกันเลย” จักรพรรดินีอวี้เชอลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจ

เฉินซีว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดอะไร? ข้าต้องเตือนเจ้าหรือไม่?”

เหล่าไป๋ร้อง “ก็ได้ เจ้ารังแกบรรพชนผู้นี้เพื่อแม่หนูนั่นอย่างไม่ลังเลสักนิด หลงใหลในกามารมณ์แท้ ๆ ข้า… สะอิดสะเอียนนัก!”

เฉินซีขมวดคิ้ว “เชื่อข้าสิ ว่าหากเจ้ายังเพ้อเจ้อไม่จบ ข้าจะขังเจ้าไว้อีก!”

เหล่าไป๋เหมือนต้องอัสนีฟาดโดยพลัน มันกระสับกระส่ายเสียอาการ รีบร้อนโยนแผ่นหยกชิ้นหนึ่งออกมาอย่างเดือดดาล กล่าวอย่างแค้นเคือง “ผีเน่ากับโลงผุ น่ารังเกียจนัก!”

ผีเน่ากับโลงผุ….

มุมปากเฉินซีอดกระตุกยามได้ยินเช่นนี้ไม่ได้

สายตาของจักรพรรดินีอวี้เชอก็จ้องมายังเหล่าไป๋อย่างเย็นเยียบเช่นกัน

“ฮึ!” เหล่าไป๋สยายปีกบินวนบนอากาศ ร้องออกมาอย่างถือตัว “ข้าให้วิธีกับเจ้าไปแล้ว จะไปกันหรือไม่?”

เฉินซีส่งแผ่นหยกให้จักรพรรดินีอวี้เชอ ก่อนจะกล่าวอย่างจนใจ “เหล่าไป๋ปากเสียมาก เมินมันไปเลยเถิด”

จักรพรรดินีอวี้เชอยิ้มตอบ “ข้ารู้”

ว่าตามตรง นางประหลาดใจและยินดียิ่งแล้วที่ได้วิธีรับมือคอขวดการบ่มเพาะที่เผชิญมาง่าย ๆ จึงย่อมไม่สืบสาวเอาเรื่องกับเหล่าไป๋

“งั้นไปกันเถอะ” เฉินซีผ่อนหายใจโล่งอกเช่นกัน เขาเป็นห่วงนักว่าปากเน่าหนอนของเหล่าไป๋จะไปทำให้จักรพรรดินีอวี้เชอโมโหเข้า

“ได้” จักรพรรดินีอวี้เชอพยักหน้า

“ออกเดินทาง!” เหล่าไป๋กระชุ่มกระชวยฮึกเหิม

เฉินซีออกนำหน้าทันที ขณะที่เหล่าไป๋เกาะบ่าของเขา และจักรพรรดินีอวี้เชอตามมาติด ๆ เดินเข้าไปยังลำห้วยท่ามกลางหมอกสีม่วง

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]