บทที่ 1755 สงครามประมูล
………………..
บทที่ 1755 สงครามประมูล
บรรยากาศในห้องโถงเงียบสงัดลง
ทุกคนล้วนพินิจสมบัติอย่างถี่ถ้วน เพราะช่วงเวลาเช่นนี้ คือการทดสอบความสามารถในการแยกแยะของตนเอง
“ด้วยกลิ่นอายที่คลุมเครือและรกร้างเช่นนี้ มันอาจเป็นสมบัติบรรพกาลได้หรือไม่?” มีคนคาดเดา
สมบัติบรรพกาลเป็นสมบัติที่เหลือรอดมาจากยุคบรรพกาล สรรพคุณของมันก็ยากที่จะระบุ บางส่วนเทียบได้กับสมบัติวิญญาณธรรมชาติ แต่บางส่วนก็ไร้ค่าและไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
นอกจากนี้ หากกล่าวอย่างเคร่งครัดแล้ว สมบัติบรรพกาลยังถือเป็นสมบัติลับประเภทหนึ่ง พวกมันส่วนใหญ่มีความลับที่น่าตกใจซ่อนอยู่ บางชิ้นก็เป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของโลกแห่งการบ่มเพาะ ซึ่งเป็นเจตจำนงที่ถูกทิ้งไว้ของยอดคนบางคน บางชิ้นถึงกับประกอบด้วยที่พำนัก มรดก เคล็ดวิชา และอื่น ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใน
ทว่าสมบัติดังกล่าวนั่นหายากมาก และส่วนใหญ่ก็สูญหายไปตามกาลเวลา มีเพียงไม่กี่ชิ้นที่สามารถอยู่รอดได้จนถึงทุกวันนี้
“มันดูไม่เหมือนสมบัติบรรพกาล กระดูกนี้มีสีดำสนิทและเปรอะเปื้อนด้วยคราบเลือดสีแดงเข้ม สมบัติชิ้นนี้น่าจะเป็นศาสตราอัปมงคล”
บางคนก็มีความเห็นเช่นนี้และรู้สึกว่านี้เป็นสมบัติประเภทต่อสู้ที่มีกลิ่นอายฆ่าฟันอันนองเลือด
มีคนทักท้วงต่อความเห็นนี้
อย่างไรก็ตาม ยิ่งเป็นเช่นนี้ ทุกคนในห้องโถงก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นสมบัติอย่างแน่นอน มิฉะนั้นห้องประมูลสมุทรทักษิณาจะไม่นำมันมาประมูลอย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุของความอยากรู้อยากเห็น ก็เนื่องมาจากพวกเขาสงสัยว่าต้นกำเนิดของสมบัตินี้มาจากที่ใด และมีสรรพคุณอันลึกล้ำเช่นไรบ้าง
“อืม?” เหล่าไป๋จ้องมองที่สมบัติอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เขาจะอุทานเบา ๆ อย่างฉับพลัน และดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่ง แต่กลับไม่กล้าเชื่อในสายตาของตนเอง
ใจของเฉินซีสั่นสะท้านขึ้นอย่างฉับพลัน พลางกล่าวว่า “เหล่าไป๋ สิ่งนี้มีอันใดพิเศษหรือ?”
“ต้องชนะการประมูลให้ได้!” เหล่าไป๋ไม่ตอบคำถาม แต่กลับบอกให้เฉินซีชนะการประมูลสมบัติชิ้นนี้ให้ได้
แววตาของเหล่าไป๋เร่าร้อนด้วยแรงปรารถนา และเต็มไปด้วยแสงเรืองรอง “ไม่ว่าต้องจ่ายสักเพียงใด เจ้าต้องคว้ามันมาให้ได้ มิฉะนั้นเจ้าจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!”
ยามนี้เหล่าไป๋ดูเคร่งขรึมและจริงจัง ทั้งยังแตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ท่าทีดังกล่าวทำให้เฉินซีตระหนักได้ทันที ว่าเหล่าไป๋จะต้องรู้อะไรบางอย่างเป็นแน่ และมันจะต้องเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงยิ่ง
ท้ายที่สุด เมื่อพวกเขาได้รับรากฐานวิญญาณธรรมชาติจากกลุ่มของเลี่ยอวิ๋นฉง ในวันนั้นเหล่าไป๋รู้สึกยินดีอย่างยิ่งและดูเหมือนว่ามันจะได้รับผลประโยชน์มากมาย แต่กระนั้น มันกลับไม่เคยแสดงท่าทีจริงจังและเคร่งขรึมขนาดนี้มาก่อน
และเขาเชื่อในการตัดสินใจของเหล่าไป๋
…
“ทุกท่าน ราคาขั้นต่ำสำหรับสมบัติชิ้นนี้คือ แปดล้านผลึกศักดิ์สิทธิ์ การประมูลเริ่มต้นได้” หญิงงามกล่าวอย่างแช่มช้า
ทันทีที่สิ้นเสียง มันทำให้เกิดความแตกตื่นในบัดดล เนื่องเพราะสมบัติที่ไม่ทราบที่มาและประโยชน์ในการใช้สอย ถึงกลับมีราคาขั้นต่ำถึงแปดล้านผลึกศักดิ์สิทธิ์!
หลายคนถึงกับรู้สึกว่าห้องประมูลกำลังจงใจทำให้เข้าใจผิด และเห็นได้ชัดว่าเป็นการโกงอย่างซึ่ง ๆ หน้า
อันที่จริง นี่ไม่ต่างจาก ‘การพนันหยก’ ในโลกมนุษย์ เมื่อหินแร่ถูกขุดออกมา ไม่มีใครทราบถึงคุณภาพของหยกที่ซ่อนอยู่ในนั้น ซึ่งต้องทำการซื้อก้อนหินและผ่ามันออก จึงจะสามารถรู้มูลค่าของมัน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มันจึงเป็นการทดสอบสายตาอันเฉียบแหลมของผู้เข้าร่วมประมูล บางคนอาจได้รับความมั่งคั่งจากสิ่งนี้ ในขณะที่บางคนอาจสูญเสียจนสิ้นเนื้อประดาตัว
“เก้าล้านผลึกศักดิ์สิทธิ์” หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก็มีคนเสนอราคาเป็นคนแรก
“สิบล้าน”
…
เวลาต่อมา เสียงเสนอราคาก็ดังขึ้นไม่บ่อยนัก หากเทียบกับก่อนหน้านี้
เป็นเรื่องปกติที่ไม่มีใครเต็มใจเป็นคนโง่ เมื่อพวกเขาไม่รู้แน่ชัดถึงต้นกำเนิดหรือสรรพคุณของมัน
สิ่งนี้ทำให้เฉินซีที่คอยเฝ้าดูการเสนอราคาอยู่ตลอดเวลา ต้องลอบถอนใจด้วยความโล่งอก และรอยยิ้มก็ระบายที่มุมปากอย่างอดไม่ได้ เป็นเช่นนี้ก็วิเศษแท้ บางทีข้าอาจได้มันมาในราคาที่ไม่สูงนัก
เมื่อการเสนอราคาค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเป็นสิบเจ็ดล้านผลึกศักดิ์สิทธิ์ เฉินซีก็สั่งให้เฉียนอันเริ่มการประมูลทันที
“สิบแปดล้าน” เฉียนอันกล่าว
ชั่วขณะหนึ่ง บรรยากาศตกในความเงียบสงัด เพราะนี่เป็นราคาที่มหาศาลสำหรับสมบัติที่ไม่ทราบที่มาและสรรพคุณ
แม้แต่หญิงงามบนเวทีก็รู้สึกยินดีในใจอย่างอดไม่ได้ เพราะราคานี้เกินความคาดหมายของนางเช่นกัน
ก่อนที่สมบัติชิ้นนี้จะถูกนำออกประมูล นางกังวลด้วยซ้ำว่าจะไม่มีใครประมูลมัน โชคดีที่มีผู้มีความมั่งคั่งมากมายในหมู่ผู้บ่มเพาะเหล่านี้ และพวกเขายินดีที่จะจ่ายเงินจำนวนมหาศาล เพื่อซื้อสมบัติลึกลับและไม่รู้จักมาศึกษาโดยไม่ตระหนี่
“จะมีสหายเต๋าท่านใดเสนอราคาอีกหรือไม่? หากไม่มีแล้ว สมบัติชิ้นนี้จะตกเป็นของสหายเต๋าห้องรับรองพิเศษลำดับหนึ่งหมายเลขสามสิบสามหก” แม้ว่านางจะกระตือรือร้นที่จะยืดการประมูลสมบัตินี้ออกไป แต่หญิงงามก็ยังต้องถามคำถามนี้ตามหน้าที่
สภาพแวดล้อมโดยรอบเงียบกริบ และทำให้เฉินซีต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอกอีกครั้ง แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ยินดีปรีดา เสียงที่มืดมนและไม่แยแสก็ดังขึ้น “สิบเก้าล้าน”
เฉินซีตกตะลึงทันที
ไม่ใช่แค่เฉินซีเท่านั้น คนอื่น ๆ ในห้องโถงก็ประหลาดใจเช่นกัน มีคนไม่ลังเลที่จะจ่ายราคามหาศาลเพื่อประมูลสมบัติชิ้นนี้เหรอ? หรือว่าว่าสมบัติชิ้นนี้จะไม่ธรรมดาจริง ๆ?
ทันทีที่วาจาเหล่านี้ถูกกล่าว คนอื่น ๆ ในห้องโถงก็หัวเราะอย่างเบิกบานใจเช่นกัน ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าคนผู้นี้ตั้งใจใช้เล่ห์กลกับบุคคลในห้องรับรองพิเศษลำดับหนึ่งหมายเลขสามสิบหกอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็เกินไปหน่อยจริง ๆ สมบัติที่แต่เดิมมีราคาขั้นต่ำแปดล้านผลึกศักดิ์สิทธิ์ กลับเพิ่มขึ้นเป็นสี่สิบเก้าล้านผลึกศักดิ์สิทธิ์ นี่มันโหดร้ายเกินจะทานทน
บางทีอาจมีแต่ความเป็นปฏิปักษ์เท่านั้นที่จะกระทำเช่นนี้ได้?
ตรงกันข้าม สีหน้าของเฉินซีก็มืดมนเช่นกัน คนผู้นี้เป็นใครกันแน่? ไยถึงมุ่งเป้ามาที่ข้าเช่นนั้น?
เฉินซีไม่สามารถเข้าใจได้ เนื่องเพราะเขาแทบจะไม่เผยตัวตนเลยตั้งแต่มาถึงเมืองนาวาวิญญาณ และไม่เคยเป็นศัตรูกับใครนอกจากเหวินซินอวี่ ลูกชายของจักรพรรดิฉางเล่อ
ทว่าจักรพรรดิฉางเล่ออยู่ก็ที่นี่ตอนนี้ด้วย ดังนั้นเหวินซินอวี่จึงไม่กล้ากระทำเช่นนั้น ไม่ว่าเขาจะขวัญกล้าแค่ไหนก็ตาม
“ฮ่า ฮ่า! ไม่ต้องกังวล ข้ากล้ารับประกันว่าเจ้าจะไม่ประสบความสูญเสีย แม้จะจ่ายไปแล้วสี่สิบเก้าล้านผลึกศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม” เหล่าไป๋กลับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกและยังคงไม่แยแส ดูเหมือนมันจะยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับสมบัตินี้ในท้ายที่สุด
“ข้าไม่กังวลเกี่ยวกับผลึกศักดิ์สิทธิ์ และข้ากำลังคิดว่าเหตุใดคนผู้นั้นจึงจงใจต่อต้านข้า” เฉินซีไม่สามารถเข้าใจได้ในที่สุด และเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
เหล่าไป๋กล่าวอย่างสบาย ๆ “ไม่ต้องกังวล หากเป็นศัตรู เขาจะปรากฏตัวในไม่ช้า ถึงเวลานั้น เจ้าสามารถฆ่าไอ้สารเลวนั่นและระบายความโกรธของเจ้าได้”
เฉินซีพยักหน้ารับ พลันเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจและหยุดคิดเรื่องนี้
หลังจากนั้น เขาก็หยิบกล่องหยกออกมา แล้วส่งให้ผู้ดูแลรูปงามคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ “มูลค่าของสมบัติภายในกล่องนี้ เพียงพอที่จะเท่ากับผลึกศักดิ์สิทธิ์สี่สิบเก้าล้านก้อน โปรดรับมันไป และช่วยส่งสมบัติที่ข้าประมูลได้มาโดยเร็ว”
“เจ้าค่ะ คุณชาย” ผู้ดูแลรีบรับมันด้วยท่าทางนอบน้อม แล้วนางก็รีบร้อนจากไป
ขณะเดียวกันภายในห้องรับรองพิเศษลำดับสองหมายเลขสิบเก้า
โครม!
ป้านสุราสัมฤทธิ์ถูกบดขยี้เป็นชิ้น ๆ ทำให้เศษบางส่วนกระเด็นไปทั่วบริเวณโดยรอบ
“บัดซบ!” เสียงคำรามดังก้องไปทั่วห้อง ชายชราที่มีรูปลักษณ์สูงวัยและมีกลิ่นอายแห่งความตายเหมือนน้ำ มีสีหน้าซีดเซียว ในขณะที่ดวงตาทอประกายด้วยจิตสังหารอันเหี้ยมเกรียม
น่าแปลกที่เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ของกองโจรดาราปักษารัตติกาล อีแร้งเนตรมาร!
อย่างไรก็ตาม ผ้าปิดตาสีดำที่อยู่เหนือตาซ้ายได้ถูกปลดออกแล้ว ปรากฏเบ้าตาที่ถูกปกคลุมด้วยลูกหมอกสีดำ จนปกปิดลูกตาอย่างสมบูรณ์ ซึ่งดูแปลกพิกลและน่าสะพรึงอย่างยิ่ง
“เจ้ากล้าแข่งกับข้าเพื่อมันหรือ? ประเสริฐ! ประเสริฐมาก! อย่าให้ข้ารู้ตัวตนของเจ้า มิฉะนั้น…เจ้าได้ตายแน่!” เสียงที่ถูกเค้นลอดไรฟัน เปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังอย่างสุดซึ้ง
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...