เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1793

บทที่ 1793 บุกฝ่าเผชิญ

………………..

บทที่ 1793 บุกฝ่าเผชิญ

เฉินซีอดแปลกใจขึ้นมาไม่ได้เมื่อเห็นว่าไข่มุกต้นกำเนิดมังกรนั้นทรงพลังอย่างยิ่ง กระนั้น นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว

ไข่มุกต้นกำเนิดมังกรมีความสามารถในการต้านทานแรงกดดันของทางสวรรค์โครงมังกร และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงสามารถสำแดงพลังที่น่าเกรงขามเช่นนี้ได้

อย่างไรก็ดี เฉินซีสังเกตเห็นว่าเกือบสองในสิบของพลังศักดิ์สิทธิ์ภายในร่างลดลงอย่างรวดเร็วภายในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่อึดใจ มันเกินไปกว่าอัตราการใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เคยมีมาในอดีตมาก

“เฉินซี แม้ว่าการหลอมรวมไข่มุกต้นกำเนิดมังกรและวิชาบัญชามังกรจะให้ผลลัพธ์ที่น่ามหัศจรรย์ แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องสูญเสียไปนั้นเรียกได้ว่าไม่น้อย เจ้าต้องรักษาสมดุลการใช้พลังให้ดี หากเจ้าไม่สามารถรับมือได้ ก็จงให้ลิงตัวนี้จัดการแทนเจ้าเถอะ” เหล่าไป๋เตือนเฉินซีด้วยความรวดเร็วผ่านกระแสปราณ

ตามที่เหล่าไป๋ได้ว่าไว้ ไม่ว่าจะเป็นวิชาบัญชามังกร หรือไข่มุกต้นกำเนิดมังกร ทั้งสองสิ่งนี้ก็ล้วนถูกสร้างขึ้นมาให้เหมาะกับเผ่ามังกรเท่านั้น

เผ่ามังกร

พวกมันแต่ละตัวมีขนาดมหึมาไม่ต่างบรรพตคดเคี้ยว ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของมัน พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายใต้การครอบครองจึงแผ่ไพศาล มากกว่าปริมาณพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มนุษย์ถือครองอยู่หลายเท่า

“นั่นไม่จำเป็นหรอก” เฉินซีคลี่ยิ้ม ขณะที่พูด เขาก็ควบคุมไข่มุกต้นกำเนิดมังกรและก้าวขึ้นไปข้างหน้าอีกครั้ง

ตึง!

ครู่ถัดมา ความกดดันก็ยิ่งทวีความน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น พลังที่ทัดเทียมกับมหาราชเทวาของมันบดขยี้ห้วงมิติและส่งเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ

ไข่มุกต้นกำเนิดมังกรเปล่งประกายราวดวงอาทิตย์เจิดจ้า รัศมีของมันคลุมเครือ เก่าแก่ แผ่ไพศาลไปด้วยกลิ่นอายแห่งมังกรซึ่งสามารถต้านทานและทำลายล้างแรงกดดันทั้งหลายได้อย่างง่ายดาย

ทุกอย่างล้วนแต่ดูง่ายดายหมดจด

อย่างไรดี เหล่าไป๋อดนึกสับสนระคนประหลาดใจขึ้นมาไม่ได้ เฉินซีไม่ได้แสดงอาการเหนื่อยหอบออกมาเลยแม้แต่น้อย กลับกัน พลังศักดิ์สิทธิ์คล้ายจะมีอยู่อย่างไม่สิ้นสุดและทานทนอย่างยิ่ง สำหรับเหล่าไป๋แล้ว เรื่องนี้มันชักจะผิดปกติไปเสียหน่อย

ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนี่จะมีสมบัติล้ำค่าที่สามารถเติมพลังศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้สากลโลกนี้ มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่ครอบครองความสามารถอันน่าอัศจรรย์เช่นนี้… ท้ายที่สุด เหล่าไป๋ก็คาดเดาคำตอบได้ ดวงตาพลันสว่างวาบขึ้นในทันที แน่นอนว่าต้องเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬ!

น่าประหลาดใจนัก! ไม่แปลกใจว่าเหตุใดข้าจึงได้รู้สึกแปลก ๆ ชอบกลตอนที่ปิดด่านบ่มเพาะภายในจักรวาลร่างกายของเด็กคนนั้น ที่แท้ก็เป็นเพราะเขาครอบครองสมบัติล้ำค่าที่เกิดขึ้นภายใต้ความโกลาหล เหล่าไป๋อุทานขึ้นด้วยนึกตกตะลึง เดิมทีคิดว่าตนรู้จักเฉินซีอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ตอนนั้นเอง เฉินซีหยุดการเคลื่อนไหวลง ดวงตาที่เต็มไปด้วยแสงเย็นเฉียบทอดมองไปยังต้นเสียง

ที่ตรงนั้นคือกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง น่าแปลกที่คนเหล่านั้นคือกลุ่มคนของจักรพรรดิไท่จิ้ง

พวกเขาในตอนนี้ได้นำสมบัติศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดออกมาเพื่อรับมือกับแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวนี้ด้วยกำลังที่มี ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องที่หนักหนามากสำหรับพวกเขา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาติดอยู่ยังที่แห่งนี้เป็นเวลานานและไม่อาจจะก้าวขึ้นไปยังเบื้องหน้าได้

เมื่อกลุ่มของจักรพรรดิไท่จิ้งเห็นการมาถึงของเฉินซี ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงความประหลาดใจออกมาเล็กน้อย จากนั้นร่องรอยแห่งความแคลงใจนั่นก็ถูกแทนที่ไปด้วยความเศร้าโศก

“เป็นเด็กคนนั้นจริง ๆ ด้วย!”

“หลังจากที่เราตามหาเขามานาน ในที่สุดเขาก็มาหาเราแล้วจริง ๆ!”

ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลคนอื่นๆ สังเกตเห็นกลุ่มของเฉินซีเช่นกัน พวกเขาทุกคนรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มเย็นยะเยือกและดวงตาที่แฝงไปด้วยแรงอาฆาต

เฉินซีไม่ได้ตื่นตระหนกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูของตนที่นี่แต่อย่างใด ดวงตาของเขายังคงมีเพียงความเย็นชาที่กำลังครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง

ท้ายที่สุด เขาก็ทำเพียงส่ายหน้าและผละจากไปเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะด้วยท่าทางที่คล้ายจะไม่แยแส

“อย่าโง่ไปหน่อยเลย!” ไม่คาด มีเพียงเสียงสาปแช่งท่ามกลางใบหน้าถมึงทึงของจักรพรรดิไท่จิ้งเท่านั้นที่ตอบกลับมา “หากอยากตายนักก็เชิญตามสบาย!”

คนผู้นั้นตกตะลึง สีหน้าผันแปรไปคราวแล้วคราวเล่า

“ท่านผู้อาวุโสสิบห้าพูดถูก เราอย่าเพิ่งวู่วามไปเลย ขณะนี้เรากำลังติดอยู่ที่นี่ไม่อาจกลับตัวหรือเดินต่อไปได้โดยง่าย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เราจะจัดการกับเด็กคนนั้นได้อย่างไร” หนึ่งในนั้นทอดถอนใจ

พวกเขาติดแหงกอยู่ที่นี่มานานแล้ว และถึงแม้จะมีพลังของจักรพรรดิไท่จิ้ง มันก็ทำได้เพียงปกป้องพวกเขาไม่ให้ถูกแรงกดดันกดทับเท่านั้น

“ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ทุกท่านลองสังเกตดูสิ เห็นได้ชัดว่าทั้งที่เด็กคนนั้นอยู่ในขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นกลาง แต่กลับตามทันเรามาได้เสียอย่างนั้น นี่มันไม่น่าแปลกไปหน่อยหรือ?” หนึ่งในคนเหล่านั้นมีสีหน้าเคร่งขรึม พลางมองกลุ่มของเฉินซีด้วยความคลางแคลง

ทันทีที่พูดจบ คนอื่น ๆ ก็รู้สึกตกใจไม่ต่างกัน ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ว่ากลุ่มของเฉินซีนั้นไม่ธรรมดา

“พวกเขาจะทำสำเร็จได้อย่างไรกัน?” หนึ่งในนั้นอดไม่ได้ที่จะถาม

“ไข่มุกต้นกำเนิดมังกรแห่งตระกูลจิน!” จักรพรรดิไท่จิ้งที่เงียบอยู่นานในที่สุดก็พูดขึ้น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคืองขัด “พูดตามตรง ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กคนนี้จะฝึกฝนวิชาลับของเผ่ามังกรจริง ๆ อีกทั้งเขายังสามารถดึงพลังของสมบัตินี้มาใช้ได้อย่างสมบูรณ์”

ตอนนี้เมื่อผ่านทางสวรรค์โครงมังกรมาได้สำเร็จ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

หลังจากที่ผ่านทางสวรรค์โครงมังกรมาแล้ว พวกเขาก็ได้พบกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่มีหมอกมัวกระจายตัวอยู่โดยรอบ ภายใต้ม่านหมองมัวนั่น เค้าโครงของภูเขาศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากปรากฏขึ้นสู่สายตา!

ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นสูงตระหง่านเสมอฟ้า ขนาดใหญ่โตกว่าดวงดาวนับดารดาษ ยิ่งไปกว่านั้น ยังถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีเทาหนาทึบ ให้สัมผัสที่สูงส่งและลึกลับ

“หุบเขารังมังกร!” ดวงตาของเหล่าไป๋ทอประกายด้วยไม่อาจระงับความสุขที่มีในใจ “เจ้ามังกรมายานั่นบอกว่าศพของมหาเทพเต่าบรรพมังกรถูกฝังอยู่ในภูเขาที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว!”

“โอ้” เฉินซีรู้สึกสดชื่นขึ้นมาในทันที

เปรี้ยง!

เพียงแค่เฉินซีก้าวไปข้างหน้า สายฟ้าก็พลันฟ้าลงมาด้วยความรวดเร็ว

“บ้าจริง!” ยังไม่ทันที่เฉินซีจะได้เคลื่อนไหว เป่าน้อยก็กวาดกระบองเหล็กของตนออกไปทำลายสายฟ้านั้นทันที

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเป่าน้อยจะทำลายการโจมตีนี้ได้ แต่ร่างของเขาก็เซถลาไปด้านหลังอย่างไม่อาจควบคุม ยิ่งไปกว่านั้น เขายังกระอักเลือดออกมาเต็มคำด้วยได้รับบาดเจ็บจากการปะทะนี้

“ทัณฑ์อัสนีเพลิงมังกร!” เหล่าไป๋มีสีหน้าเคร่งขรึม “อย่าเพิ่งก้าวไปข้างหน้าตอนนี้! หากเจ้าถูกมันโจมตีขึ้นมา การจะลบเจ้าออกไปจากโลกนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายดาย มันเป็นพลังพิเศษที่มีเพียงเผ่าบรรพมังกรที่เกิดจากภายในความโกลาหลเท่านั้นที่ครอบครองอยู่”

ดวงตาของเฉินซีหรี่แคบลง และเขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าหุบเขารังมังกรอันตรายกว่าทางสวรรค์โครงมังกรน่ะสิ?”

“ใช่ มันอันตรายกว่ามาก แต่ตราบใดที่เรามีวิธีการจัดการกับมัน มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่เราจำต้องเผชิญความเสี่ยงบ้างก็เท่านั้น” เหล่าไป๋ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งครู่หนึ่งก่อนจะอนุมานอะไรบางอย่างได้

เมื่อเห็นเช่นนั้นเฉินซีก็เลิกรบกวนการใช้ความคิดของเหล่าไป๋ เขาค่อย ๆ พินิจมองสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ไกลออกไป

มันเป็นเพียงสุสาน แม้ว่ามหาเทพเต๋าบรรพมังกรจะได้รับความเคารพในฐานะจ้าวเต๋าผู้ไร้เทียมทาน หากแท้จริงแล้วสุสานของเขากลับเต็มไปด้วยข้อจำกัด อันตราย และอุปสรรคมากมาย มันไม่ผิดปกติไปหน่อยหรือ?

เหตุใดมหาเทพเต๋าบรรพมังกรจึงทำเช่นนี้? หรือว่าเขาจะทำขึ้นเพื่อไม่ให้ใครมายุ่มย่ามกับศพของเขากัน?

เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้! เฉินซีสัมผัสได้ว่าอาจมีความลับอื่น ๆ ซ่อนอยู่ภายในสุสานของมหาเทพเต๋าบรรพมังกร

“นี่ผ่านไปกี่ปีแล้วกันนะ? จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถก้าวเข้าสู่หุบเขารังมังกรได้ เดิมทีข้าคิดว่าคนที่มาถึงที่นี่ได้คงจะเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ ไหนเลยจะคาดคิดว่าแท้จริงแล้วจะเป็นเพียงเด็กน้อยธรรมดา ช่างน่าผิดหวังเสียจริง ข้าขอแนะนำให้พวกเจ้าทั้งหลายออกไปโดยเร็วที่สุด อย่าสละชีวิตเพื่อสิ่งที่อาจไม่มีอยู่จริงเลย!” ทันใดนั้นเสียงที่แหบแห้งเล็กแหลมก็ดังออกมาจากม่านหมอกสีเทาที่อยู่ไกลออกไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]