เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1866

บทที่ 1866 ขายหน้าสิ้นดี

………………..

บทที่ 1866 ขายหน้าสิ้นดี

พิภพกุมภเต๋า

นอกค่ายกล เหลิ่งซิงหุน ตงหวงอิ่นเซวียน และคณะพลันตะลึงยามสังเกตพบว่าเพียงพริบตา ฤทธิ์ค่ายกลก็อ่อนแอลงอย่างมหาศาล!

โอกาส!

โอกาสอันงาม!

ดวงตาทุกคู่เรืองโรจน์ ขณะที่ความตื่นเต้นเกินบรรยายไหลบ่าในใจ

นับแต่ศึกนี้เปิดฉาก พวกเขาก็สั่งสมโทสะเต็มอก มีหรือจะไม่ตื่นเต้นยามเห็นโอกาสมาอยู่ตรงหน้า?

กระทั่งตัวตนอย่างเหลิ่งซิงหุนและตงหวงอิ่นเซวียนยังทอดถอนใจ เพราะรู้สึกว่าศึกนี้ยากเย็นเสียจริง

โชคยังดีที่คู่ต่อสู้ดูจะทนไม่ไหวแล้ว ถึงเวลาพวกเขาเก็บเกี่ยวคว้าชัย!

เมื่อคิดไปว่าเจ้าเฉินซีสมควรตายและคณะจะเผยโฉมตรงหน้ากระบี่ของพวกเขาในยามค่ายกลนี้พังทลาย ความตื่นเต้นก็พลุ่งพล่านในใจอย่างหยุดไม่อยู่

“โจม-….” เหลิ่งซิงหุนแผดเสียงสนั่น ทว่าเสียงของเขาหยุดชะงักกลางคันในหนึ่งพยางค์

เพราะแสงสีดำอันดุดันเกินใดเปรียบสายหนึ่งทะลวงเวหาจากในค่ายกลออกมาในฉับพลันนั้น

กระบี่วิญญาณทมิฬ!

ม่านตาของเหลิ่งซิงหุนบีบตัว แน่นอนว่าเขารู้จักสมบัติวิญญาณธรรมชาติจากตระกูลลั่วนี้

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น!

เพราะตอนนี้ หนึ่งภาพปรากฏขึ้นเฉียบพลันในความคิดของเหลิ่งซิงหุน

ไม่กี่ชั่วยามก่อน จู่ ๆ ร่มกรอบทองแสงครามก็ระเบิดตัว ทำให้พวกเขาเสียสหายสามคนไปในพริบตาอยางไม่ทันตั้งตัว….

ขณะนั้น กระทั่งพวกที่เหลือยังถูกลูกหลงจากแรงระเบิด หลบเลี่ยงกันอย่างสุดสะบักสะบอม

การปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันของกระบี่วิญญาณทมิฬครั้งนี้จะตามด้วยระเบิดเช่นเดียวกันหรือไม่?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจของเหลิ่งซิงหุนก็รัดตัวแน่น สีหน้าแปรเปลี่ยน แผดเสียงเข้มดังลั่น “หลบเร็ว!”

ใช้เวลาสาธยายเสียนมนาน ทว่าแท้จริงเหตุนั้นเกิดเพียงพริบตา

ไม่เพียงเหลิ่งซิงหุน กระทั่งคนอื่น ๆ ก็อดหวนนึกถึงระเบิดก่อนหน้านี้ขึ้นมาไม่ได้

ไม่ต้องให้เหลิ่งซิงหุนมาเตือน ทุกคนก็เปลี่ยนไปหลบเลี่ยงกันแล้ว

วูบ! วูบ! วูบ!

เพียงพริบตา พวกเขาทั้งหลายต่างเผ่นหนีไปไกลเช่นนกตื่นธนู

แต่สุดท้ายก็ต้องตกตะลึงเมื่อกระบี่วิญญาณทมิฬไม่ได้ระเบิด หลังจากพุ่งออกจากค่ายกล มันก็เหมือนจักรพรรดิประพาสแดน เคลื่อนวนรอบ ๆ ก่อนจะเหินกลับเข้าไปในค่ายกล!

เหตุนี้กลับกลายเป็นน่าขันน่าอายขึ้นมาเล็กน้อย

ทำให้สีหน้าของเหลิ่งซิงหุน ตงหวงอิ่นเซวียน และคนอื่น ๆ แปรเปลี่ยนไปอย่างเกินคาดเดา โทสะพลุ่งพล่านในอก หัวใจเกิดความอับอายแรงกล้า

ผู้บ่มเพาะในโลกภายนอกนั้นเดิมทีมองสถานการณ์ทั้งหมดอย่างกระวนกระวาย ทว่ายามเห็นเหตุน่าขันเช่นนี้ พวกเขาก็ผงะไปแล้วเริ่มระเบิดเสียงหัวเราะอย่างอดไม่ได้

ไม่คิดเลยว่าเฉินซีจะกล้าใช้วิธีเช่นนี้เล่นตลกกับศัตรูในยามคับขัน

ขณะเดียวกัน ปฏิกิริยาของเหลิ่งซิงหุน ตงหวงอิ่นเซวียนและคนอื่น ๆ ดูหวาดระแวงเกินไปหน่อย ดูเหมือนหวาดหวั่นสุดตื่นตูม น่าขันชวนหัวแท้ ๆ

“ไอ้บ้าสมควรตายนั่น! ข- ข- เขา… กล้ามาล้อเล่นกับเรา!” ศิษย์นิกายอำนาจเทวะผู้หนึ่งเดือดจัดจนตัวสั่น

“ไม่ว่าอย่างไร หนนี้เราต้องกำจัดเจ้าคนน่ารังเกียจนี่ให้ได้ ใช้วิธีโสโครกเช่นนี้ ไม่สมควรเป็นศิษย์เขาเทพพยากรณ์!”

คนอื่น ๆ ต่างอับอาย ดิ้นเร่าด้วยโทสะไม่ต่างกัน

“เหอะ ๆ! ดี! ดีมาก!” เหลิ่งซิงหุนกัดฟันยิ้มเย็น เสียงของเขาฟังดูราวเค้นลอดไรฟัน แค้นเฉินซีถึงกระดูก

ตัวเขา เหลิ่งซิงหุน เคยเสียหน้าเช่นนี้ด้วยหรือ?

ไม่เคย!

“อย่ามัวพูดมาก! ทำลายค่ายกลก่อน!” ตงหวงอิ่นเซวียนก็เปี่ยมจิตสังหารเช่นกัน

พวกเขาล้วนเดือดดาล รวมตัวกันอีกครั้งอย่างไร้ลังเล

วูบ!

ทว่าขณะที่กำลังจะโจมตีอีกครั้ง คลื่นมิติก็ไหววูบอีกหน แล้วกระบี่วิญญาณทมิฬก็สาดปราณกระบี่น่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง

อีกแล้วหรือ!?

สายตาของเหลิ่งซิงหุนและคณะเคร่งขรึม

วูบ!

อึดใจต่อมา พวกเขาก็หลบไปไกลอย่างไม่รู้ตัว จะทำเช่นไรได้ แม้จะยืนยันไม่ได้ว่ากระบี่วิญญาณทมิฬจะระเบิดหรือไม่ พวกเขาก็ไม่อยากถูกกำจัดไปยามนี้ มันไม่คุ้มค่าเลย

ท้ายที่สุด….

กระบี่วิญญาณทมิฬก็เคลื่อนวน ก่อนจะกลับเข้าค่ายกลไปอย่างรวดเร็ว

จู่ ๆ หัวใจของเหลิ่งซิงหุนก็กระตุกวูบ เขาคิดหยุดศิษย์ผนึกฤทธิ์ผู้นี้ไว้ แต่ก็สายเกินไป

ตู้ม!

เสียงระเบิดกึกก้องสะท้านโลกา พลุ่งพล่านทั่วฟ้าดินอย่างรวดเร็ว

ทุกคนล้วนเห็นชัดว่ากระบี่วิญญาณทมิฬไม่ทันถูกแตะต้อง แต่รัศมีอสนีบาตอันน่าสะพรึงกลัวสุดขีดสายหนึ่งพลันแผ่ออกมา แล้วมันก็ระเบิดในทันใด คลื่นจากการระเบิดนั้นรุนแรงถล่มโลกา สะพัดแพร่ทุกทิศทาง!

หนนี้มันระเบิดจริง!

ผู้บ่มเพาะในโลกภายนอกหัวเราะไม่ออกกันทันที ความตกตะลึงฉายชัดอยู่ในใจ

ขณะเดียวกัน ยามเหลิ่งซิงหุน ตงหวงอิ่นเซวียน และคนอื่น ๆ ประจักษ์เช่นนี้ พวกเขาก็หลบเลี่ยงโดยไม่ผ่านกระบวนความคิดกันอีกครั้ง

ทว่าศิษย์สำนักศักดิ์สิทธิ์ผู้ลงมืออย่างเดือดดาลนั้นไม่ได้โชคดีนัก เขาถูกอำนาจจากแรงระเบิดกลบร่าง ตัดสิทธิ์ออกไปทันที!

ขณะนั้น ไร้ผู้ใดในโลกภายนอกยิ้มออก ทุกใบหน้าแปรเปลี่ยนเกินคาดหยั่ง ไม่คาดเลยว่าเฉินซีจะสังเวยสมบัติวิญญาณธรรมชาติไปอีกชิ้น!

ราคานี้คุ้มค่าแล้วหรือ?

เพราะถึงอย่างไร เมื่อครู่เฉินซีก็สังเวยร่มกรอบทองแสงครามไป และหนนี้ก็มาเป็นกระบี่วิญญาณทมิฬ แม้สมบัติวิญญาณธรรมชาติทั้งสองเดิมทีจะไม่ใช่ของเฉินซี หัวใจของผู้บ่มเพาะมากมายในโลกหล้าก็ยังรวดร้าวยามเห็นสมบัติวิญญาณธรรมชาติถูกทำลายไปเช่นนั้น

หากพวกเขาเป็นเฉินซี คงยอมถูกกำจัดแทนที่จะทำลายสมบัติเช่นนี้

“จะเกินไปแล้ว!” นอกค่ายกล ตงหวงอิ่นเซวียนเค้นเสียงกล่าว ทุกถ้อยต่างเชือดเฉือนเช่นมีดดาบ อัดแน่นด้วยจิตสังหารยามเดือดดาลสุดขีด

เมื่อวานนี้ พวกเขาสำนักศักดิ์สิทธิ์ยังมีศิษย์เก้าคนในพิภพกุมภเต๋า ทว่าวันนี้กลับเสียไปสามคนติด ๆ กัน

สองคนถูกฤทธิ์ระเบิดของร่มกรอบทองแสงคราม ขณะที่อีกหนึ่งถูกกำจัดไปยามระเบิดกระบี่วิญญาณทมิฬ

ยามนี้ สำนักศักดิ์สิทธิ์เหลือสมาชิกเพียงหก รวมถึงตงหวงอิ่นเซวียนด้วย!

ขณะนี้ พวกเขากระทั่งมีจำนวนน้อยกว่านิกายอำนาจเทวะหนึ่งคน!

ตงหวงอิ่นเซวียนรับผลลัพธ์เช่นนี้ไม่ได้

วิ้ง!

พริบตาต่อมา คลื่นพลังประหลาดอันเก่าแก่และคลุมเครือพลันแล่นพล่านจากมือขวาของตงหวงอิ่นเซวียน ก่อตัวเป็นหนังสือสี่เหลี่ยมเล่มหนาเรียบง่าย

ทันทีที่มันปรากฏ ฟ้าดินพลันเรืองรอง สาดส่องแสงทิพย์ทั่วโลกา!

สำเนียงเต๋าดุจลำนำธรรมชาติค่อย ๆ เปล่งออกมาจากในหนังสือ ดุจบรรพเทวาบริกรรมบรรยายความลึกล้ำแห่งมวลวิชาในยามโลกหล้าแรกบังเกิด ยิ่งใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ถึงขีดสุด ทำให้ตงหวงอิ่นเซวียนดูประหนึ่งตัวตนสูงสุดเหนือเต๋าทั้งมวล ถ่ายทอดเทศนาสู่โลกหล้าเหนือแท่นบูชา เผยบรรยากาศยิ่งใหญ่กดดัน

คัมภีร์ไท่เซวียนแห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์! ในที่สุดเจ้านี่ก็หยุดออมกำลังแล้ว แต่มิคาดเลยว่าประมุขสำนักศักดิ์สิทธิ์จะส่งสมบัตินี้ต่อให้เขา…. หัวใจของเหลิ่งซิงหุนสะท้าน ขณะที่ดวงตาเรืองประกายเย็นเยียบ

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]