บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 188

บทที่ 188 เซี่ยวจวิน

ท่ามกลางการต่อสู้ก่อนหน้านี้ หานไป๋และผู้อาวุโสของตระกูลหานที่มีการบ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นต้นทั้งสามคน มีสองคนถูกเฉินซีลอบสังหาร ในขณะที่อีกสองคนที่เหลือล้วนเสียชีวิตจากการถูกหลิงไป๋โจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และหลังจากที่พวกเขาเสียชีวิต เฉินซีก็ได้เก็บรวบรวมแกนทองคำของพวกเขาเอาไว้

ในขณะนี้ แกนทองคำทั้งสี่ลูกได้ถูกใช้งานโดยหลิงไป๋ผ่านเคล็ดวิชาลับ และแกนทองคำทั้งสี่นั้นประสานการทำงานจากระยะไกลเพื่อสร้างมหาค่ายกลนิพพาน มันเหมือนกับค่ายกลขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงสีทองพร่างพรายซึ่งสะกดทั้งสี่ขั้วของสวรรค์และโลก และถูกสร้างขึ้นภายในเขตแดนเต๋าแห่งการสังหาร ไม่เพียงกักขังตัวอักษร ‘ฆ่า’ ที่น่าสะพรึงกลัวเท่านั้น แต่มันยังปิดล้อมหานกู่เยว่ไว้ภายในค่ายกลอีกด้วย

‘บัดซบ! ข้าลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรว่า เจ้าตัวเล็กที่สูงเพียงครึ่งฉื่อก็ทรงพลังเช่นกัน แต่ข้ากลับมองข้ามการมีอยู่ของมัน… หากค่ายกลที่ก่อตัวขึ้นจากแกนทองคำทั้งสี่ถูกจุดชนวนขึ้นแล้วละก็…’ ทันใดนั้น ความคิดของหานกู่เยว่ก็สับสนอลหม่าน เนื่องจากความหวาดกลัวสูงสุดเกิดขึ้นในใจของเขา

นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตา

เมื่อความคิดของหานกู่เยว่โลดแล่น และเขารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แกนทองคำทั้งสี่ก็เปล่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้นในทันทีทันใดราวกับว่าพวกมันถูกบดด้วยหินโม่ ในเวลาเดียวกัน ก็มีเสียงหนึ่งดังก้องอยู่ข้างหูของเขา น้ำเสียงนี้มีแฝงด้วยคำที่เรียบง่าย และคำนั่นก็คือ “ระเบิด!”

คำนี้เป็นเหมือนเสียงฟ้าร้องที่ทำให้หานกู่เยว่ได้สติขึ้นมา

ในเวลาเช่นนี้ เขาจะกล้าลังเลต่อไปได้อย่างไร? จากนั้นเขาก็รีบโคจรปราณแท้ของตัวเองอย่างดุเดือด เพื่อระดมการบ่มเพาะทั้งหมดของเขา ในขณะที่เขาถือเคียวแห่งการสังหารด้วยความมุ่งมั่นที่จะฝ่าแสงสีทองส่องประกายที่ปกคลุมบริเวณโดยรอบ ในเวลาเดียวกัน สมบัติวิเศษประเภทป้องกันจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายเขา และทุก ๆ ชิ้นก็อยู่ในระดับปฐพีและอาบไปด้วยแสงสมบัติอันเจิดจ้าขณะที่พวกมันปล่อยกลิ่นอายต่าง ๆ ออกมา

ทว่ามันกลับสายเกินไปแล้ว!

มหาค่ายกลนิพพานนั้นเป็นค่ายกลประเภทกักขัง ซึ่งเป็นค่ายกลขนาดมหึมาที่นิกายกระบี่นิพพานโบราณเคยใช้เพื่อสยบเสาทั้งสี่ ในขณะนี้ เมื่อหลิงไป๋ใช้แกนทองคำทั้งสี่เป็นรากฐานของค่ายกล แม้ว่าเขาจะสามารถใช้ประสิทธิภาพของมันได้เพียงหนึ่งในร้อยส่วน แต่ก็เพียงพอที่จะกักขังหานกู่เยว่ได้ในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจ และในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ แกนทองคำทั้งสี่ได้ถูกจุดชนวนโดยหลิงไป๋ผู้วางแผนเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว

ตู้ม!

ทันใดนั้น พลังทำลายล้างที่ไม่มีใครเทียบได้ทั้งสี่พลันระเบิดขึ้นเหนือหัวของหานกู่เยว่ อานุภาพของมันราวกับภูเขาไฟสี่ลูกที่ปะทุอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงระเบิดโครมครามซึ่งน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง!

แกนทองคำในร่างกายของผู้บ่มเพาะเป็นรากฐานของสวรรค์และโลก ซึ่งผู้บ่มเพาะต่างก็ต้องใช้เพื่อบรรลุสู่มหาเต๋า และการบ่มเพาะทั้งหมดจะถูกหลอมรวมอยู่ภายในนั้น ดังนั้น มันจึงเหมือนกับถังดินปืนที่ต้องการประกายไฟเพียงเล็กน้อย เพื่อที่จะก่อให้เกิดพลังทำลายล้างที่สามารถทำให้ท้องฟ้าพังทลาย แผ่นดินแตกสลาย ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มืดดับลง

โดยปกติแล้ว มันเป็นเรื่องยากมากที่แกนทองคำของผู้บ่มเพาะจะถูกแย่งชิงไป เพราะพลังทำลายล้างนั้นน่าสะพรึงเป็นอย่างมาก จนแม้แต่ผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติก็ยังต้องหลีกเลี่ยงมันราวกับมันเป็นโรคระบาด

แน่นอนว่า แกนทองคำของผู้บ่มเพาะบางคนอาจจะแย่งชิงมาจากผู้อื่น แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่จะสามารถระเบิดมันได้ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้มันขัดเกลาสมบัติวิเศษที่น่าทรงอานุภาพหรือกลั่นเป็นเม็ดยาเพื่อใช้กับตัวเอง และสิ่งเหล่านี้ที่สกัดจากแกนทองคำยังให้ผลลัพธ์อันน่ามหัศจรรย์ที่ไม่อาจหยั่งรู้อย่างไร้ขอบเขต

แต่ในขณะนี้ เพื่อปกป้องชีวิตของเฉินซีและตัวเขาเอง หลิงไป๋จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้แกนทองคำเหล่านี้เพื่อฝ่าฟันจากสถานการณ์การต่อสู้อันสิ้นหวัง อีกทั้งมันก็ไม่ใช่แกนทองคำของเขาเอง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรู้สึกเจ็บปวด

ตู้ม!

บรรยากาศโดยรอบในขณะนั้น เหมือนกับภูเขาพังทลายและคลื่นยักษ์ที่ถาโถม สวรรค์และโลกก็แตกสลาย ปราณวิญญาณของสวรรค์และโลกกระจัดกระจายออกไปทุกทิศทางด้วยแรงระเบิด ไม่ว่าพลังทำลายจะผ่านไปที่ใด เขตแดนเต๋าแห่งการสังหารจะแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ในทันที ก่อนที่มันจะพุ่งออกไปโดยรอบ ทำให้ต้นไม้ยักษ์ที่สูงตระหง่านมากมายกลายเป็นผุยผงและถูกแผดเผาจนหวนคืนสู่ความว่างเปล่า แม้แต่แนวภูเขาที่ทอดยาวออกไปก็ยังถูกระเบิดจนเกิดเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ที่น่าตกตะลึงอยู่มากมาย

แรงระเบิดก่อให้เกิดมวลเมฆรูปเห็ดที่ม้วนตัวอย่างรุนแรงพวยพุ่งสู่ท้องฟ้าโดยมีหานกู่เยว่เป็นศูนย์กลางของแรงระเบิด

ภายใต้การระเบิดที่รุนแรงเช่นนี้ ทำให้สวรรค์และโลกมืดสลัวแทบจะทันที ส่วนหานกู่เยว่นั้นทำได้เพียงร้องโหยหวนอย่างน่าสังเวชและไม่ยินยอม ก่อนที่สมบัติวิเศษระดับปฐพีบนร่างกายของเขาจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ จนร่างของเขาไม่เหลือซาก แม้แต่พื้นดินที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาก็ยังถูกแรงระเบิดจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนไร้ก้นบึ้ง ฝุ่นผงฟุ้งกระจายไปในอากาศและเปลวควันลอยล่องสู่ท้องฟ้า ทำให้สภาวะเช่นนี้ ราวกับเป็นจุดจบของโลกได้มาถึงแล้ว!

แกนทองคำทั้งสี่ถูกประสานเข้าด้วยกัน และพลังทำลายล้างที่พวกมันได้ระเบิดออกมานั้นมหาศาลเป็นอย่างยิ่ง!

“มันตายแล้วหรือ?” ทันทีก่อนที่จะระเบิดแกนทองคำ หลิงไป๋ได้พาเฉินซีพุ่งทะยานไปยังระยะไกลอย่างบ้าคลั่ง ในขณะนี้ พวกเขายืนอยู่ห่างออกไปราวสองลี้ แต่กระแสลมที่รุนแรงดั่งใบมีดยังคงเฉือนใบหน้าพวกเขาจนรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย และพลังการระเบิดของแกนกลางทองคำนั้นจะน่าสะพรึงกลัวเพียงใดก็สามารถพิสูจน์ได้จากสิ่งที่เกิดเช่นนี้

“หึ! พลังทำลายล้างของแกนทองคำทั้งสี่ที่ระเบิดออกมาสามารถทำให้ผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติยังต้องบาดเจ็บสาหัส แล้วจะไปนับประสาอะไรกับแค่ผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง ดังนั้นมันจะต้องตายอย่างแน่นอน” หลิงไป๋กล่าวอย่างมั่นใจ

“แต่เจ้าเฒ่าบัดซบนั่นก็ยังแข็งแกร่งมากอยู่ดี ข้าชักสงสัยแล้วว่าเหล่าศิษย์อัจฉริยะที่จะเข้าร่วมการชุมนุมดาวรุ่งของราชวงศ์ซ่งในอีกห้าปีต่อจากนี้จะแข็งแกร่งถึงเพียงใด” หลังจากประสบกับการต่อสู้ครั้งนี้ ในที่สุด เฉินซีก็ได้สัมผัสกับพลังของผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

“เฉินซี ตัวเจ้าทรงพลังยิ่งกว่าเขาเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าสุนัขแก่ตัวนั้นอาศัยเคียวสมบัติวิเศษ การเข่นฆ่ามันโดยใช้กำลังของเจ้าก็ง่ายเหมือนการเชือดไก่” หลิงไป๋กล่าวด้วยรอมยิ้มที่แทบฉีกถึงใบหู

เฉินซีไม่เห็นด้วยกับคำพูดเหล่านี้ทั้งหมด เนื่องจากเขาฝึกฝนทั้งการแปรสภาพร่างกายและการบ่มเพาะลมปราณ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ฝึกฝนคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบจนสามารถก้าวข้ามขอบเขตเพื่อฆ่าศัตรูที่มีการบ่มเพาะเหนือกว่าเขา ทว่าผู้บ่มเพาะคนอื่น ๆ ก็ครอบครองสมบัติวิเศษที่ทรงพลังและมีความสามารถที่น่าสะพรึงกลัวเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านี้ ในโลกแห่งการบ่มเพาะที่โหดร้ายและป่าเถื่อน จะมีผู้ใดต่อสู้อย่างโง่เขลาโดยอาศัยการบ่มเพาะของตัวเองเพียงอย่างเดียวกัน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]