เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2027

บทที่ 2027 ไม่ขอมากไปกว่านี้

………………..

บทที่ 2027 ไม่ขอมากไปกว่านี้

บนท้องฟ้า อัสนีคดเคี้ยวเช่นขนดอสรพิษถล่มสุญตา บังเกิดภาพโลกาวินาศชวนขวัญแขวน

รัศมีศักดิ์สิทธิ์อันชวนครั่นคร้ามแปลบปลาบสาดซัดไม่หยุดหย่อนจากการต่อสู้ เป็นภาพอันชวนผวา ศึกสามต่อหนึ่งนี้น่าตกใจยิ่งจริงแท้

อย่าว่าแต่ในแดนเทพโบราณ มหาศึกเช่นนี้ยังไม่เคยปรากฏในตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำไป

เพราะความต่างชั้นระหว่างสองฝ่ายมหาศาลเกินไป!

ฝ่ายหนึ่งประกอบด้วยสองจ้าวเอกภพแปดดารา หนึ่งจ้าวเอกภพเก้าดารา ขณะที่อีกฝ่ายมีเพียงยอดฝีมือซึ่งเพิ่งบรรลุเป็นจ้าวเอกภพห้าดาราลำพัง ความต่างชั้นระหว่างสองฝั่งจึงชัดเจนแต่แรกเห็น ถือได้ว่าห่างไกลราวฟ้าดิน

ข้อมูลศึกเช่นนี้ดูสุดแสนเป็นเอกลักษณ์มาแต่แรก ไม่มีทางหาศึกลักษณะนี้ได้ที่ใดตราบกาลนาน

เรื่องน่าตกใจที่สุดก็คือ ขณะที่ความแข็งแกร่งของสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่เฉินซีลำพังกลับยังดึงดันอยู่รอดได้จนบัดนี้ ยังไม่พ่ายไปในทันที เพียงเรื่องนี้ก็เกินเข้าใจได้อย่างยิ่งแล้ว

ทว่าเมื่อศึกดำเนิน เหล่าผู้ชมก็สังเกตเห็นได้ว่าเฉินซีคลับคล้ายเจียนเพลี่ยงพล้ำอีกครั้ง

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเฉินเต้าหยวนเข้าร่วมสงคราม!

เฉินเต้าหยวนมีการบ่มเพาะเป็นจ้าวเอกภพเก้าดารา ขาดเพียงก้าวเดียวก็จะบรรลุสู่ขอบเขตมหาเทพเต๋า กล่าวได้ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในหมู่จ้าวเอกภพของตระกูลเฉิน โดดเด่นเกินผู้ใด

แม้จะสรรหาทั่วตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง ความแข็งแกร่งของเฉินเต้าหยวนก็ยังถือได้ว่าอยู่ในระดับสูงสุด

ดังนั้นยามจ้าวเอกภพเก้าดาราผู้มีการบ่มเพาะโดดเด่น อำนาจต่อสู้ร้ายกาจเช่นนี้ลงมือกับเฉินซีซึ่งเป็นเพียงจ้าวเอกภพห้าดารา แรงกดดันที่เฉินซีต้องเผชิญก็ยิ่งใหญ่อย่างไร้กังขา

มิต้องพูดถึงว่าเฉินเต้าหยวนไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีจ้าวเอกภพแปดดาราอีกสองคน เฉินชิวสุ่ยและเฉินเซียวอวิ๋นร่วมโจมตีเฉินซีด้วย

สัญญาณทั้งหมดนี้แสดงว่าเฉินซีมีโอกาสชนะน้อยนิดเสียเหลือเกิน

ยิ่งกว่านั้น การพัฒนาต่อจากนั้นก็เป็นไปตามคาด เฉินซีถูกกดดันอย่างหนัก สถานการณ์ร้ายแรงไม่สู้ดีท่ามกลางการประสานโจมตีของกลุ่มเฉินเต้าหยวนทั้งสาม

อันที่จริง เมื่อคิดดูดี ๆ เหตุเช่นนี้ก็เคยเกิดมาแล้วมากกว่าครั้งไหน ๆ นับแต่การประลองรอบที่สองเปิดฉาก

ครั้งแรกคือยามเฉินเซียวอวิ๋นลงมือกับเฉินซี เฉินซีก็ถูกไล่ต้อนเจียนพ่ายเช่นกัน ทว่าภายหลัง เขาอาศัยการบรรลุสู่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ขั้นห้าโต้ตอบสวนกลับ พลิกสถานการณ์กลับมาได้

ครั้งที่สองคือยามเฉินชิวสุ่ยเข้าร่วมศึก ทำให้ความได้เปรียบที่เฉินซีได้มาถูกทำลายลงสิ้น กลับไปสู่สถานการณ์ที่เขาต้องรับการโจมตีฝ่ายเดียว นอกจากนั้น เขากระทั่งบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย

แต่ภายหลัง เขาก็ยังบรรลุเป็นจ้าวเอกภพห้าดาราอย่างเกินเข้าใจ แล้วจึงรุกไล่ตอบโต้ แปรกระแสสถานการณ์ไปอีกครั้ง

ณ การต่อสู้จุดนี้ ความได้เปรียบที่เขาเพิ่งได้มาก็ถูกทำลายไปอีกครั้งเมื่อเฉินเต้าหยวนเข้าร่วมผสมโรง เฉินซีไม่อาจรุกไล่ตอบโต้ ต้องถูกรุมล้อม ตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง

เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้ครั้งสองครั้ง แต่คงไม่มีครั้งที่สามแล้ว!

เฉินซีตอบโต้สถานการณ์สิ้นหวังระหว่างศึกนี้ได้สองหน ครั้งแรกมาจากการพัฒนาการบ่มเพาะเต๋าแห่งกระบี่ ครั้งที่สองเป็นเพราะบรรลุเป็นจ้าวเอกภพห้าดารา แล้ว… เขาจะสร้างปาฏิหาริย์เกินคาดคิดครั้งที่สามได้อีกหรือไม่?

ไร้ผู้ใดกล้าด่วนตัดสิน

แต่ทุกคนต่างตระหนักดีว่าการตอบโต้ของเฉินซียามนี้ยากเย็นเหลือแสน แทบเป็นไปไม่ได้เลย!

แต่ถึงเช่นนั้น ก็ยังไร้ผู้ใดกล้าประมาทยามเห็นเฉินซีประชันคู่ต่อสู้อย่างสุดกำลัง

ยิ่งกว่านั้น ยังไร้ผู้ใดล้อเลียน เสียดสี หรือเย้ยเยาะอีก

เพราะหากยังมีผู้ใดล้อเลียนยอดฝีมือผู้หนึ่งที่ยังทนอยู่ในศึกที่ตนเสียเปรียบเต็มประตูได้เช่นนี้ มันก็เหมือนตบหน้าตัวเองฉาดใหญ่ พูดไปก็ขายหน้าเอง!

ลองคิดดู จ้าวเอกภพห้าดาราที่รับมือสองจ้าวเอกภพแปดดารา หนึ่งจ้าวเอกภพเก้าดาราได้ด้วยตัวคนเดียว ในโลกหล้าจะมีสักกี่คน?

การล้อเลียนเฉินซียามนี้ โง่เขลาเกินใดเทียบอย่างแท้จริง

สมาชิกตระกูลเฉินบางคนกระทั่งเริ่มรู้สึกชื่นชมเฉินซีในใจ แม้จะไม่ยอมรับเขา แต่ก็ยังปฏิเสธมิได้ว่าเฉินซีเป็นยอดฝีมือควรค่าให้นับถือจริง ๆ!

“หลายหมื่นปีมานี้ ชะตากรรมของตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวลแปรเปลี่ยน ตกต่ำถดถอยลงตามกาล น้อยนักจะปรากฏตัวตนเฉิดฉาย เป็นผู้นำยุคสมัยได้ เดิมทีข้าคิดไว้ว่านี่คือครรลองภาพรวม ใครเล่าจะคาดคิดว่าตัวตนเจิดจรัสเช่นนี้จะมาปรากฏนอกตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ น่าตกใจจริงแท้”

“ความแข็งแกร่งของเจ้าเด็กนี่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเฉินหลิงจวินเมื่อกาลก่อนเลย!”

“ว่าแล้วเชียว บิดาเลิศล้ำ บุตรไม่มีทางไร้ค่า”

“ไม่สิ เฉินหลิงจวินไม่ได้ท้าทายสวรรค์เท่าเด็กนี่เลย ถึงขนาดที่คงไม่มียอดฝีมือไร้เทียมทานคนใดในตระกูลชั้นสูงทั้งห้าเทียบชั้นเด็กนี่ได้ด้วยซ้ำ”

เหล่าแขกจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ตั้งใจชมศึกพลางพูดคุยกันเสียงเบา เสียงสนทนาของพวกเขาเต็มไปด้วยคำทอดถอนใจ ชื่นชมเฉินซี

“เอาละ ศิษย์น้องเล็กทำได้เช่นนี้ ข้าก็วางใจได้เต็มที่แล้ว” อู๋เซวี่ยฉานหัวเราะเบา ๆ ผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์ ณ จุดนี้ แม้เขาจะรู้ว่าการคว้าชัยของเฉินซีเป็นเรื่องยาก อู๋เซวี่ยฉานก็ยังพอใจ ไม่ขอมากไปกว่านี้

“ฮ่า ๆ! ศิษย์พี่ใหญ่พูดถูก” ถังเสียนหัวเราะร่า ก่อนจะหันไปมองเฉินหลิงคง “อันที่จริง สหายเต๋าเฉินหลิงคงช่างมองการณ์ไกลเสียจนน่าทึ่งนัก เขาทำนายได้ว่าสถานการณ์เช่นนี้จะบังเกิดตั้งแต่ก่อนเริ่มศึก จึงจัดให้เจ้าหนูทั้งสามมาสู้กับศิษย์น้องเล็ก น่าเสียดายที่เราทุกคนไม่เข้าใจ แล้วมองสหายเต๋าเฉินหลิงคงผิดไป”

เสียงนั้นไม่ได้ดัง แต่ก็เพียงพอยืนยันได้ว่าเฉินหลิงคงจะได้ยินชัดเจน

เขาไม่เคยประเมินเฉินซีต่ำ จึงไม่เคยออมมือนับแต่เข้าร่วมศึก ปฏิเสธที่จะให้โอกาสเฉินซีพักหายใจ!

เฉินเซียวอวิ๋นและเฉินชิวสุ่ยย่อมเข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน พวกเขาร่วมมือกับเฉินเต้าหยวนอย่างรู้ใจ ดุจนักล่าผู้ช่ำชองไล่ต้อนเหยื่อ และเริ่มลงมือจับตัวมัน

ผลลัพธ์กำลังจะชี้ชัด! เหล่าผู้ชมรายล้อมอดกำหมัดเบิกตากว้าง หัวใจเหินขึ้นจุกคอกันมิได้

มีเพียงอู๋เซวี่ยฉานและถังเสียนที่ผ่อนคลายนัก พวกเขาพอใจกับสถานการณ์ ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรก็ไม่มีความหมายสำหรับพวกเขาแล้ว เพราะศึกนี้ไม่ยุติธรรมมาแต่แรก การที่เฉินซีทำได้เช่นนี้ก็ถือเป็นความน่าประหลาดใจชวนยินดีอย่างมหาศาล พวกเขาจึงไม่มีสิ่งใดต้องขอมากไปกว่านี้

ชนะแล้ว ในที่สุดก็ชนะ…. ขณะนี้ เฉินหลิงคงไม่อาจสะกดความตื่นเต้นในใจได้เช่นกัน ศึกนี้บังเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมากมายแต่เริ่ม เต็มไปด้วยอันตรายแกว่งหัวใจไปมา ชวนให้ไม่อาจอยู่เป็นสุข

โชคยังดีที่เรื่องทั้งหมดนี้กำลังจะจบลงเสียที ในความคิดของเฉินหลิงคง ขอเพียงชนะ ขับเฉินซีออกจากการประลองได้ก็พอแล้ว!

ทว่าเพียงพริบตา สีหน้าของเฉินหลิงคงก็นิ่งค้าง หัวใจที่ยังไม่ทันมีโอกาสได้ตื่นเต้นยินดีก็สั่นสะท้านระส่ำระสาย

เพราะเหตุเกินคาดฝันชวนตะลึงเกิดขึ้นในลานประลองอีกครั้งหนึ่ง….

ขณะที่ปราณอันน่าสะพรึงกลัวสายหนึ่งแผ่ออกมา ความแข็งแกร่งของเฉินซีผู้ถูกต้อนจนมุม เจียนพ่ายเต็มทีก็โผนทะยานทวีคูณ!

ก้าวกระโดดเป็นสองเท่า!

เรือนผมดกดำแปรเปลี่ยนเป็นขาวโพลนเช่นหิมะอย่างเฉียบพลัน ขณะที่วิญญาณ พลัง และแก่นแท้ลุกไหม้ราวเพลิงโหม เลื่อนลั่นไปทั่วร่าง เอกภพในกาย โลหิตอันไหลเวียน ผิวเนื้อและกระดูก…. สรรพสิ่งต่างเต็มเปี่ยมด้วยอำนาจ ทำให้ฤทธาโถมทะยานเกินหนใด กล่าวได้ว่าทะลวงฟ้าสะท้านดารา!

ครืน!

ยันต์ศัสตราแหวกอากาศเพียงหน ก็สลายการโจมตีประสานของพวกเฉินเต้าหยวนทั้งสามลงได้ กระทั่งฟาดพวกเขาทั้งสามกระเด็นถอย!

ฤทธายิ่งใหญ่เช่นนี้ บรรยายได้ว่าร้ายกาจไร้ขอบเขต สะท้านเทวาผวาหวาด!

เสียงอื้ออึงดังขึ้นทั่วทิศ

ตอบโต้ได้อีกหนแล้ว!

ทุกคนต่างผงะหงาย แม่เจ้า! หรือเจ้านี่จะล้มไม่ลงจริง ๆ?

กระทั่งเหล่าผู้ชมศึกในที่แจ้ง และ ‘ตัวตนบรรพกาล’ ผู้ชมศึกอย่างลับ ๆ ยังอดรู้สึกตกใจกันมิได้

“ระเบิดสังหารเทวะ…. ข้าลืมไปเลยว่าศิษย์น้องเล็กยังมีไพ่ตายเช่นนี้อยู่” อู๋เซวี่ยฉานและถังเสียนสบตาหัน ทั้งสองต่างอดตะลึงกันมิได้

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]