บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 285

บทที่ 285 การเสนอราคาที่ดุเดือด

บทที่ 285 การเสนอราคาที่ดุเดือด

ในห้องรับรองพิเศษที่อยู่ไม่ไกลจากเฉินซี

ผู้เข้าร่วมจำนวนมากที่มีท่าทางแข็งขันยืนอยู่ด้านข้างด้วยความเคารพ ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเหล่านี้ล้วนมีฐานการบ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำ แต่ในขณะนี้ พวกเขาต่างก็แสดงสีหน้าเคารพและอ่อนน้อมถ่อมตน และไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

ในขณะนี้ มีชายหนุ่มในชุดดำนั่งตัวตรงอยู่ที่เบื้องหน้าพวกเขา ผิวของเขาขาวเหมือนหิมะ ดวงตาของเขาเปล่งแสงเจิดจ้าและปกคลุมไปด้วยประกายเย็นยะเยือกที่แปลกประหลาดจนแทบหยุดลมหายใจ แรงกดดันที่ไร้รูปร่างต่างก็เต็มไปทั่วทั้งห้องในขณะที่เขานั่งอยู่ที่นั่น ทำให้อากาศโดยรอบกลายเป็นน้ำแข็ง

“ท่านพี่ ไอ้สารเลวนั่นพยายามจะแย่งชิงกระบองวิเศษนี้กับท่าน ท่านต้องการให้ข้าไปตรวจสอบพื้นเพของมันหรือสั่งสอนมันไหม?” ชายหนุ่มที่มีท่าทางสง่างามซึ่งนั่งอยู่ข้างชายหนุ่มที่สวมชุดดำกล่าวอย่างดุเดือด และคนผู้นี้คือซือคงฮวา นายน้อยคนที่สองของตระกูลซือคง

“ไม่จำเป็น หอขุมทรัพย์สวรรค์มีกฎของมันอยู่ เจ้าอย่าได้สร้างปัญหา” มุมปากของชายหนุ่มในชุดดำยกยิ้มเย้ยหยัน “แต่ข้าต้องได้กระบองหนามนี้มา แสดงให้ข้าดูหน่อยสิ ว่ามันจะกล้าแข่งราคากับข้าไปอีกนานสักแค่ไหน!”

“ท่านพี่ ท่านฝึกฝนวิชาปัญจพิษแปลงโลหิต อีกทั้งเต๋ารู้แจ้งของท่านคือเต๋ารู้แจ้งแห่งการกัดกร่อนที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง ดูเหมือนสมบัติวิเศษเฉกเช่นกระบองหนามชิ้นนี้ จะไม่มีประโยชน์แก่ท่านเลยสักนิด?”

“ฮึ่ม! เจ้าจะรู้อะไร!” ชายหนุ่มในชุดดำลูบคางของเขาและกล่าวอย่างไม่เร่งรีบว่า “ถึงแม้สมบัติชิ้นนี้จะมีมูลค่าเพียงโอสถกลั่นแรกเริ่มหนึ่งหมื่นเม็ด แต่มันกลับมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น และมันล้ำค่าจนไม่อาจบรรยายได้”

ดวงตาของซือคงฮวาเป็นประกายในขณะที่เขากล่าวอย่างตื่นเต้น “หรือว่ามีความลับซ่อนอยู่ในกระบองหนามนี้”

“แน่นอน มิฉะนั้น เหตุใดข้าจะจ่ายเงินก้อนโตเพื่อสมบัติที่ไร้ประโยชน์สำหรับข้า?” เมื่อชายหนุ่มในชุดดำกล่าวจนถึงตรงนี้ เขาก็รำลึกถึงตำนานที่เล่าขานกันมาและความรู้สึกตื่นเต้นก็พรั่งพรูออกมาจากใจของเขาอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นจึงเม้มริมฝีปากและกล่าวว่า “การบอกความลับแก่เจ้าคงมิเป็นอะไร กระบองหนามนี้มีแผนที่ขุมทรัพย์ซุกซ่อนอยู่ และมันมีเงื่อนงำบางอย่างเกี่ยวกับนิกายป้ายเหล็ก หากข้าได้มันมา ข้าย่อมมีโอกาสที่จะค้นพบขุมสมบัติตกทอดของนิกายป้ายเหล็กเป็นอย่างมาก!”

“ขุมสมบัติตกทอดของนิกายป้ายเหล็กหรือ?” ซือคงฮวาตกอยู่ในความประหลาดใจตะลึง และเหม่อมองอย่างว่างเปล่า จากนั้นจึงเขากล่าวว่า “นิกายป้ายเหล็กนั่นดูเหมือนจะเป็นเพียงนิกายเล็ก ๆ มิใช่หรือ? ยิ่งไปกว่านั้น มันได้ถูกทำลายลงเมื่อสามพันปีก่อน ดังนั้นจะมีสิ่งมีค่าเช่นใดอยู่ในขุมสมบัติสืบทอดของมัน?”

“หึ นิกายเล็ก ๆ หรือ?” ชายหนุ่มชุดดำยิ้มเยาะ “หากนิกายป้ายเหล็กเป็นเพียงนิกายเล็ก ๆ นิกายเก่าแก่บางแห่งในที่ราบตอนกลางก็อาจต่ำชั้นยิ่งกว่าแมลง”

เมื่อเห็นสีหน้างุนงงของน้องชาย ชายหนุ่มในชุดดำก็อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะและถอนหายใจ จากนั้นจึงกล่าวว่า “แท้จริงแล้ว นิกายป้ายเหล็กคือมหาอำนาจที่อยู่ในแดนภวังค์ทมิฬ สำหรับนิกายป้ายเหล็กที่ถูกทำลายไปเมื่อสามพันปีที่แล้ว เป็นเพียงนิกายที่ก่อตั้งโดยศิษย์นอกนิกายที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนิกายป้ายเหล็ก ดังนั้นแล้วมันจะมีความสามารถได้แค่ไหนเชียว?”

‘มหาอำนาจของแดนภวังค์ทมิฬหรือ?’

ซือคงฮวารู้สึกทึ่งอยู่ในใจของเขาและกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “นิกายป้ายเหล็กช่างน่าเกรงขามเสียจริง ๆ ถ้าเราสามารถค้นพบมรดกที่เหลือทิ้งไว้ในโลกได้ละก็…” เมื่อเขากล่าวถึงจุดนี้ ทั้งร่างกายของซือคงฮวาก็สั่นสะท้านไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อเขารู้สึกว่าเรื่องนี้ได้เกินจินตนาการของเขาไปมาก และไม่อาจกล่าวสิ่งใดออกมาได้อีก

‘เฮ้อ แต่มันน่าหนักใจจริง ๆ แม้ว่าข้าจะได้กระบองหนามนี้มา หากข้าไม่สามารถเข้าสู่แดนภวังค์ทมิฬได้ ข้าเกรงว่าคงไม่มีชะตาร่วมกับมรดกของนิกายป้ายเหล็ก…’ ชายหนุ่มในชุดดำถอนหายใจเบา ๆ หลังจากนั้น ท่าทางที่เด็ดเดี่ยวก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ‘แม้จะมีความหวังเล็กน้อยก็ดีกว่าไม่มีเลยสักนิด ไม่ต้องกล่าวถึงว่า ข้ายังมีโอกาสที่จะติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของการชุมนุมดาวรุ่งเป็นอย่างมาก!’

“โอสถกลั่นแรกเริ่มหนึ่งแสนสองหมื่นเม็ด! มีคนต้องการเสนอราคาอีกหรือไม่?” เสียงของตู้เฟยอวี่ดังขึ้นจากเวทีอีกครั้ง

ชายหนุ่มในชุดดำตื่นขึ้นจากห้วงความคิด และเขาเสนอราคาอีกครั้ง “หนึ่งแสนสามหมื่นเม็ด!”

“เอาล่ะ มีคนอื่นเสนอราคาเพิ่มแล้ว! เหล่าสหายเต๋า พวกท่านกำลังลังเลสิ่งใดอยู่? ตัดสินใจเร็วเข้า! อย่าปล่อยให้โอกาสอันดีเช่นนี้หลุดลอยไป!” กระบี่ปลิดวิญญาณตู้เฟยอวี่ปลุกเร้าเสียงดังขณะที่มองไปโดยรอบ

“หนึ่งแสนสี่หมื่นเม็ด!” ในห้องรับรองพิเศษอีกห้องหนึ่ง เฉินซีเอ่ยเสนอราคาอีกครั้งโดยไม่จำเป็นต้องคิด

คิ้วที่งดงามของย่าชิงขมวดเข้าหากัน ในขณะที่นางกล่าวว่า “เฉินซี ท่านคิดจะแข่งขันกับซือคงเหินหรือ? ราคาที่ท่านประมูลนั้นมากเกินไปแล้ว”

“นายท่าน ข้าไม่ต้องการสิ่งนี้อีกแล้ว ไว้เราค่อยมองหาสมบัติชิ้นอื่นอีกที อาจมีสมบัติที่ทรงพลังยิ่งกว่ากระบองหนามในภายหลังก็ได้” มู่ขุยกล่าวจากด้านข้าง

“ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงสิ่งใดอีก ไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนคำสัญญาที่ข้าให้กับเจ้าได้” เฉินซีกล่าวอย่างเฉยเมย และท่าทางที่สงบของเขาเผยให้เห็นถึงความตั้งใจที่แน่วแน่

“นายท่าน…” มู่ขุยรู้สึกตื้นตันอยู่ในใจของเขาเป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาตระหนักได้ว่านายท่านของเขาได้ตั้งใจแนวแน่แล้ว และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เฉินซีจะต้องได้กระบองหนามนั้นมา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านของเขากระทำทั้งหมดนี้เพื่อประโยชน์ของเขาไม่ใช่หรือ?

“สองแสนเม็ด!”

ชายหนุ่มชุดดำมีสีหน้าเย็นชา ในขณะที่กลิ่นอายบนร่างของเขาก็พลุ่งพล่าน ทำให้อากาศภายในห้องถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า การเสนอราคาอย่างต่อเนื่องของเฉินซีทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก

“ท่านพี่ ท่านเสนอราคาสูงขนาดนี้ มันไม่มากไปหน่อยหรือ?” ซือคงฮวากล่าวอย่างระมัดระวัง ในขณะที่เขาตกตะลึงกับราคานี้เช่นกัน เพราะสำหรับตระกูลของพวกเขาแล้ว โอสถกลั่นแรกเริ่มจำนวนสองแสนเม็ดก็ไม่ใช่การจับจ่ายที่เล็กน้อยเลย

“ฮึ่ม! หลังจากที่ข้าได้สมบัติชิ้นนี้แล้ว เราค่อยมาพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ ถ้าเจ้าเด็กนั่นกล้าแข่งเสนอราคากับข้าอีก หลังจากที่ออกจากหอขุมทรัพย์สวรรค์ ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบภูมิหลังของมัน และเมื่อถึงเวลานั้น หายนะครั้งใหญ่จะต้องเกิดขึ้นกับมันอย่างแน่นอน!” ชายหนุ่มในชุดดำคำรามอย่างเย็นชา เจตนาฆ่าอันน่าสยดสยองที่ไร้ขอบเขตได้พุ่งออกมาจากดวงตาของเขา และมันแหลมคมจนอาจทำให้ผู้อื่นรู้สึกหวาดกลัวได้

“สองแสนหนึ่งหมื่นเม็ด!” เมื่อเขากล่าวจบ เสียงที่ไม่แยแสก็ดังขึ้นจากห้องรับรองพิเศษที่อยู่ด้านข้าง และเพิ่มราคาประมูลอีกครั้ง

ฮึ่ม! ไอ้เด็กบัดซบนั่นอีกแล้ว! มันคือใครกันแน่? มันต้องรู้อย่างแน่นอนว่า ข้าซือคงเหินต้องการสมบัติชิ้นนี้ แต่มันกลับกล้ายั่วยุข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ดูเหมือนว่ามันจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วจริง ๆ! ความมุ่งมั่นที่จะฆ่าเฉินซีได้พวยพุ่งอยู่ในใจของชายหนุ่มชุดดำอย่างดุเดือด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]