บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 320

บทที่ 320 กลุ่มตะวันเร้น

บทที่ 320 กลุ่มตะวันเร้น

ทะเลเมฆลอยขึ้นบนท้องฟ้าอันไร้ขอบเขต

ในขณะนี้ มีร่างสองร่าง ร่างวัยเยาว์และวัยผู้ใหญ่ กำลังบินช้า ๆ ด้วยเสื้อผ้าพลิ้วไหวท่ามกลางหมู่เมฆราวกับกับเทพเซียน

“เจ้าไม่ให้ข้านั่งรถม้าสมบัติเก้ามังกรดำและเจ้าก็ไม่พาข้าข้ามมิติ และยังบังคับให้ข้าบินไปในท้องฟ้าที่อ้างว้างนี้ เจ้ามีอิสระมากจนไม่มีอะไรทำแล้วสินะ” นายน้อยโจวพึมพำอย่างไม่พอใจ

“เด็กเวร ข้าเพิ่งพาเจ้ามาจากการชุมนุมธารทองไม่ใช่รึ? บ่นอะไรไม่หยุดอยู่ได้! ข้าทำเพื่อประโยชน์ของเจ้านะ!” โจวเซวียนถงคำรามอย่างเย็นชา

นายน้อยโจวขมวดคิ้วขณะที่เขาพูดว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เจ้าเอาแต่ปิดประตูเก็บตัวบ่มเพาะอยู่ตลอดไม่ใช่รึ? แต่เจ้ายังออกมาเดินเล่นได้อีกรึ?”

เดินเล่น?

โจวเซวียนถงตกตะลึง จากนั้นเขาก็ตบหัวหลานของตัวเองก่อนจะด่าว่า “ข้าไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้อีกต่อไปแล้ว! เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีลูกศิษย์ของตาแก่ประหลาดกี่คนที่ตั้งตารอการชุมนุมดาวรุ่ง? แม้แต่นักพรตเต๋าชราผู้เสเพลก็ไม่อาจนั่งเฉยได้ และเขาได้จับอสูรโบราณด้วยความตั้งใจที่จะใช้เศษเสี้ยวของแก่นโลหิตเทพอสูรโบราณชำระล้างสิ่งสกปรกภายในร่างกายของจ้าวชิงเหอที่เป็นศิษย์ของเขาให้สามารถแข่งขันชิงสิบอันดับแรกในการชุมนุมดาวรุ่งได้ บอกข้าที ข้าจะไม่หวั่นไหวได้หรือ?”

“ใช้แก่นโลหิตของเทพอสูรโบราณเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง?” นายน้อยโจวตกใจอย่างมากและกล่าวว่า “ช่างฟุ่มเฟือยเสียนี่กระไร! หรือว่าเขาคิดว่าจ้าวชิงเหอจะไม่สามารถเข้าสู่สิบอันดับแรกของการชุมนุมดาวรุ่งได้ด้วยความแข็งแกร่งของเขาเอง?”

โจวเซวียนถงคำราม “นี่ไม่ใช่เพราะศิษย์ของสหายเก่าบางคนปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันและทำให้แผนการของทุกคนขัดข้องหรอกรึ? เจ้าไม่เห็นหรือว่าแม้แต่หวงฝู่ไท่อู่ก็ไม่สามารถนั่งเฉย ๆ และพาศิษย์ของเขาออกไปอย่างเร่งรีบ? เขาอาจจะรู้เรื่องนี้เช่นกันและวางแผนที่จะใช้เวลาหนึ่งปีนี้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับศิษย์ของเขาอย่างเหมาะสม”

นายน้อยโจวพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “ย่อมมีเหตุผลใช่ไหม?”

“สระมังกรแปลงที่ถูกปิดตายมาไม่รู้กี่ปีกำลังจะถูกเปิด…” เมื่อเขาพูดคำว่าสระมังกรแปลง สีหน้าของโจวเซวียนถงก็เคร่งขรึม และดวงตาของเขาก็เผยให้เห็นความปรารถนาอันร้อนแรงที่หาได้ยาก

สระมังกรแปลง!

ดวงตาของนายน้อยโจวหรี่ลงในขณะที่เขาเข้าใจทุกอย่างในทันที และร่องรอยความไม่พอใจในใจของเขาก็หายไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากเงียบอยู่นาน เขาจึงถามขึ้นว่า “เจ้าจะพาข้าไปไหน?”

“ข้าจะพาเจ้าไปที่ดี ๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเจ้า” โจวเซวียนถงตบไหล่นายน้อยโจวและพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องกดดันเกินไป ตราบใดที่เจ้าบ่มเพาะอย่างเหมาะสม ในปีหน้าเจ้าก็มีโอกาสที่จะติดอันดับหนึ่งในสิบของการชุมนุมดาวรุ่ง”

“ข้าจะต้องทำได้แน่นอน” นายน้อยโจวพยักหน้าและสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความเตรียมใจ

“อ้อ ข้าลืมถามอะไรเจ้าไป ทำไมเจ้าถึงให้จี้หยกวิญญาณมังกรแก่เฉินซี” โจวเซวียนถงถามทันที

นายน้อยโจวยักไหล่ขณะที่เขาพูดว่า “ก็ไม่มีอะไร ข้าแค่จ่ายเงินเดิมพันให้กับการเดิมพันที่แพ้”

โจวเซวียนถงดูเหมือนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกในขณะที่เขาพยักหน้า “ดีแล้ว แม้ว่าจี้หยกวิญญาณมังกรจะล้ำค่า แต่ก็เทียบอะไรไม่ได้กับหน้าตาของตระกูลโจวของเรา ดังนั้นจึงไม่สำคัญ”

นายน้อยโจวถามอย่างสงสัย “เจ้าต้องการพูดอะไรกันแน่?”

“ไม่มีอะไร ข้าเพิ่งได้ข้อมูลมาว่าเด็กคนนี้อาจจะไม่สามารถมาถึงนครหลวงธารสายไหมได้ และบางทีเขาอาจจะเสียชีวิต” โจวเซวียนถงตอบอย่างไม่ใส่ใจ

นายน้อยโจวพูดทันที “ทำไม? หรือว่ามีคนต้องการจัดการกับเขา”

“ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่เป็นหลายคนต่างหาก” โจวเซวียนถงพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่ควรเอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยว ท้ายที่สุดมันคือกลุ่มตะวันเร้นและมันจะเป็นปัญหามากหากตระกูลโจวของเรามีส่วนเกี่ยวข้อง”

กลุ่มตะวันเร้น?

นายน้อยโจวตกตะลึงด้วยความหวาดกลัว จากนั้นเขาก็เงียบไป

ตำหนักจ้าวขุนศึก

หวงฝู่ไท่อู่นั่งอยู่บนเบาะนั่งสูงที่อยู่ตรงกลาง ทั้งร่างกายของเขาเปล่งแสงที่พร่างพราวและเปล่งประกายออกมา เมื่อมองจากที่ไกล ๆ เขาเป็นเหมือนดวงอาทิตย์เจิดจ้าซึ่งมีอำนาจปกคลุมท้องฟ้า

“ท่านอาจารย์ ไม่ต้องกังวลไป ศิษย์จะบ่มเพาะอย่างหมั่นเพียรในถ้ำวิญญาณยุทธ์โลหิตเพื่อครอบตำแหน่งหนึ่งในสิบอันดับแรกในการชุมนุมธารทอง ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” ซูเฉินคุกเข่าลงบนพื้นและพูดอย่างเด็ดเดี่ยว

“ดี! ถ้ำวิญญาณยุทธ์โลหิตมีทั้งหมดสิบแปดชั้น ตราบใดที่เจ้าสามารถเข้าสู่ชั้นที่สิบห้าได้ ความแข็งแกร่งของเจ้าก็จะมากพอที่จะต่อสู้กับผู้อื่นได้” หวงฝู่ไท่อู่พูดด้วยเสียงที่เหมือนเสียงฟ้าร้อง และมันก็ดังกึกก้องภายในโถงรับชม “นอกจากนี้ เจ้าไม่ต้องเป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องเฉินซีและเพียงแค่บ่มเพาะอย่างสุดใจเสีย ถ้าข้าจำไม่ผิด เขาจะต้องถูกฆ่าตายในไม่กี่วันนี้แน่”

ซูเฉินตกใจและถาม “ท่านอาจารย์ หรือว่าท่านจะลงมือด้วยตัวเอง?”

หวงฝู่ไท่อู่ส่ายหัวของเขา “ไม่ใช่ข้าหรอก เจ้าคงเคยได้ยินเกี่ยวกับกลุ่มตะวันเร้นใช่ไหม? ตอนนี้ คนกลุ่มนั้นได้วางแผนสังหารเฉินซีแล้ว”

‘กลุ่มตะวันเร้น? ช่างโหดเหี้ยมนัก! เฉินซี ไอ้สารเลวคนนี้ได้สร้างความขุ่นเคืองให้กับผู้คนมากมายและหว่านความเป็นปฏิปักษ์อย่างใหญ่หลวงไว้จนเกินความคาดหมายจริง ๆ…’ ใจของซูเฉินสั่นสะท้าน เขาจะไม่เคยได้ยินเรื่องกลุ่มตะวันเร้นได้อย่างไรกัน?

เมืองนภาคราม ภายในห้องพักของโรงเตี๊ยม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]