บทที่ 334 เป้าหมาย
บทที่ 334 เป้าหมาย
ครืน!
ร่องรอยความผันผวนเผยขึ้นจากยันต์เลิศล้ำสีฟ้าอ่อนในมือ จากนั้นดวงตาของจิ้งจอกแดงก็หรี่ลงพร้อมกับคลี่ยิ้มบาง “เป้าหมายดูเหมือนจะสังเกตเห็นเราและกำลังมุ่งหน้ากลับไปยังป่าทมิฬ ไปกันเถอะ การล่ากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”
ปลายเท้าของจิ้งจอกแดงแตะท้องฟ้า เกิดระลอกคลื่นกระจายออก จากนั้นความเร็วของเขาก็สูงขึ้นมาก ก่อนที่นักฆ่าคนอื่น ๆ ของตำหนักตะวันดำจะตามหลังเขาไปอย่างพร้อมเพรียงกัน
ควบคู่ไปกับนักฆ่าห้าสิบคนที่กุหลาบนำมา ขณะนี้กลุ่มจึงมีทั้งหมดร้อยเจ็ดคน
คนเหล่านี้ล้วนเป็นนักฆ่าที่ผ่านประสบการณ์การต่อสู้มาหลายร้อยครั้ง มีประสบการณ์โชกโชน ปรับรูปขบวนให้กลายเป็นทรงพัด ก่อนจะกระโจนหายขึ้นฟ้าไป แม้ว่าความเร็วที่รุดหน้าไปจะรวดเร็ว แต่ใบหน้าทุกคนล้วนสงบสำรวม ไร้ความใจร้อนใดแสดงให้เห็นว่าภารกิจมีโอกาสสำเร็จสูง ความสามัคคีระหว่างกันก็ดีเยี่ยม
จิ้งจอกแดงไม่ได้ใช้เกราะป้องกันร่างไว้ ปล่อยให้ลมหนาวราวกับใบมีดพัดผ่านใบหน้า ดวงตาเขาหรี่ลงเล็กน้อย สีหน้าเผยแววความเพลิดเพลินจาง ๆ หลังจากที่ได้ยินกุหลาบอธิบายเรื่องเฉินซีแล้ว เขาก็รู้สึกถึงจิตสังหารที่ค่อย ๆ ก่อตัว
นานมากแล้วที่เขาไม่ได้พบกับคนที่น่าสนใจเช่นนี้ จึงคาดหวังกับการปิดล้อมที่กำลังจะเกิดขึ้นมาก
จิ้งจอกแดงไม่ได้กังวลว่าเป้าหมายจะหลบหนีได้หรือไม่ บางทีอาจไม่มีใครสามารถหลบหนีไปจากเขาได้เลยกระมัง เนื่องจากเขามีวิธีการจับตัวศัตรูอยู่นับไม่ถ้วน และยันต์เลิศล้ำติดตามเงาก็เป็นเพียงหนึ่งในวิธีเหล่านั้นเท่านั้น
เขาไม่ได้เชี่ยวชาญการต่อสู้ อีกทั้งพละกำลังยังด้อยกว่ากุหลาบเสียอีก แต่เขาก็ยังอยู่ในอันดับที่ 68 ในการจัดอันดับแกนทองคำแห่งตำหนักตะวันดำ ซึ่งอันดับสูงกว่ากุหลาบที่ได้อันดับที่ 76
ส่วนเหตุผลนั้นก็ง่ายดายมาก นั่นก็เพราะไม่มีนักฆ่าระดับผู้บัญชาการคนใดที่มีทักษะการติดตามทัดเทียมกับเขาได้เลย ตำหนักตะวันดำส่งเขามาในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการติดตามเป้าหมายให้อยู่มือ และลบล้างโอกาสที่เป้าหมายจะหลบหนีไปได้!
“ทุกคนตั้งใจด้วย เป้าหมายหยุดเคลื่อนไหวแล้ว เตรียมพร้อมต่อสู้!” ในครั้งนี้จิ้งจอกแดงก็ไม่พลาดเช่นกัน เขาสังเกตเห็นตำแหน่งคร่าว ๆ ของเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว
…
นี่คือเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าซึ่งกินพื้นที่ประมาณหกลี้ และดูเหมือนว่าจะมีปุ่มเล็ก ๆ นูนขึ้นมาจุดหนึ่งภายในป่าอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ ทำให้มันดูไม่เด่นชัดแต่อย่างใด
เฉินซียืนอยู่กลางอากาศ เสื้อผ้าพลิ้วไหวไปตามลม ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังฟากฟ้าอันไกลโพ้น
ณ ฟ้าไกลมีกลุ่มจุดสีดำเล็ก ๆ ที่กำลังบินมาที่นี่ด้วยความเร็วสูง จิตสังหารปกคลุมหนาแน่นจนอากาศ ดูเหมือนเมฆมืดที่พัดผ่านชอบกล
เฉินซียกมุมปากขึ้นดูเย็นเยียบ เขาเตรียมตัวรับมือศึกในวันนี้มานานแล้ว ในขณะนี้ ขณะที่เขามองกลุ่มนักฆ่าตำหนักตะวันดำที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างน่ากลัว เขากลับไม่รู้สึกประหม่าสักนิด ทว่ามีเพียงจิตสังหารอยู่ภายในเท่านั้น
เขาไร้ความคิดไขว้เขวใด ๆ ทำให้ใจกระจ่างไม่เหมือนเคย รอเพียงจังหวะเหมาะที่จะซัดกระบวนท่าออกไปอย่างไร้ความลังเลก็เท่านั้น
เพราะเขาไม่ชอบเป็นฝ่ายรับมือหรือรับการกระทำใด ๆ ไม่ชอบถูกผู้อื่นมองว่าเป็นเหยื่อ ครั้งนี้เขาจึงหมายให้พวกนั้นรู้ว่าใครเป็นนักล่าและใครเป็นเหยื่อกันแน่!
บนฟากฟ้า จิ้งจอกแดงและกุหลาบหยุดเคลื่อนไหว นักฆ่าชุดดำทั้งร้อยห้าคนที่อยู่เบื้องหลังพลันกระจายตัวออกไป กลิ่นอายทั้งหลายพุ่งตรงไปยังจุดที่อยู่ห่างไกลตรงนั้น
จิตสังหารไร้อารมณ์อื่นเจือปนดูกดดันแผ่ปกคลุมสวรรค์และโลก ทำให้สัตว์อสูรที่อยูู่ใกล้เคียงในระยะร้อยลี้ดูคล้ายกับสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ไม่กล้าเข้าใกล้พื้นที่นี้
กุหลาบยกมือขาวขึ้นรวบเส้นผมสีดำไว้หลังใบหู โซ่สีม่วงที่ข้อมือเปล่งเสียงกรุ๋งกริ๋งแปลกประหลาด ทำเอาใจคนเต้นแรง นางจ้องมองเฉินซีด้วยดวงตาเย็นเยียบไร้อารมณ์เหมือนว่านางกำลังจ้องคนตาย
เป็นเพราะก่อนหน้าคนผู้นี้หลบหนีจากวงล้อมของนางไปได้ ดังนั้นคราวนี้นางจะไม่ยอมให้สถานการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีก!
เขามองเฉินซีที่ยืนอยู่เพียงลำพัง ณ ที่ไกล มุมปากของจิ้งจอกแดงระบายยิ้มน่ากลัว ท่าทีแลดูคล้ายสตรี ขณะเอ่ยด้วยเสียงไม่รีบร้อนขึ้นมาว่า “เจ้ารู้ว่าหนีไปก็เปลืองแรงเปล่า จึงไม่คิดหนีอย่างนั้นหรือ? เอาอย่างนี้ก็ได้ ลูกค้าที่ไว้วางใจให้ตำหนักตะวันดำของเราทำการลอบสังหารเจ้า น่าจะยินดีที่จะได้เห็นว่าเจ้าตายอย่างน่าเศร้าด้วยสองตาของพวกเขาเอง”
จิ้งจอกแดงไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างใจร้อน แต่กลับเริ่มสร้างผนึกขึ้น ก่อนจะหยิบกระจกที่ปล่อยระลอกพลังออกมา
กระจกนี้ถูกเรียกว่ากระจกแห่งการแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นสมบัติที่หายากและมหัศจรรย์นัก มันไร้ความสามารถในการโจมตีใด และผลลัพธ์ของมันก็เรียบง่ายมาก คือมันสามารถแสดงภาพทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงได้
แม้ว่าอีกคนที่ถือกระจกแห่งการแลกเปลี่ยนไว้จะอยู่ห่างออกไปล้านลี้ ก็จะยังสามารถเห็นทุกอย่างผ่านกระจกราวกับตนอยู่ตรงนั้นด้วย ทำให้มันเป็นสมบัติน่าอัศจรรย์ใจไม่น้อย
เห็นได้ชัดว่าจิ้งจอกแดงทำเช่นนี้ เพราะต้องการให้ใครบางคนที่อยู่ห่างไปเท่าไรไม่อาจรู้ได้ ได้เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ด้วย
เฉินซีเดาได้ว่าหวงฝู่จิ่งเทียนและพวกตาเฒ่าประหลาดพวกนั้นคงนั่งรวมกันอยู่หน้ากระจกแห่งการแลกเปลี่ยนอยู่ที่ไหนสักที่และกำลังจ้องมองเขาอยู่เป็นแน่ แต่ชายหนุ่มไม่ได้กังวลแม้แต่น้อย เห็นแล้วมันทำไมเล่า? ยังไม่ได้ตัดสินแพ้ชนะกันเสียหน่อย
ก็เหมือนที่เฉินซีคาดเดา ในขณะนี้ ณ พื้นที่ภายในตำหนักจ้าวปัญญาที่เต็มไปด้วยปราณเซียน กระจกแห่งการแลกเปลี่ยนกำลังลอยอยู่กลางอากาศพลางฉายภาพเหตุการณ์อยู่
เมื่อเห็นเฉินซีถูกนักฆ่าแห่งตำหนักตะวันดำปิดล้อม จิตใจของหวงฝู่จิ่งเทียน นักพรตเต๋าหลงเหอ โม่หลานไห่ จ้าวจื๋อเหม่ย ท่านหลิวเสี่ยว และชงซวี่ก็สดชื่นขึ้น สีหน้าแววตาดูตื่นเต้น
“ตำหนักตะวันดำนั้นคู่ควรกับการเป็นกลุ่มนักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจริง ๆ จะสังหารสหายตัวกระจ้อย แต่กลับส่งกองกำลังมาตั้งมาก เป็นการสิ้นเปลืองไม่ใช่น้อย คราวนี้เด็กนี่ได้ตายอนาถเป็นแน่!” โม่หลานไห่ผู้เป็นนายเหนือหัวแห่งเกาะฉลามมังกรว่า
หวงฝู่จิ่งเทียนแห่งตำหนักจ้าวปัญญาส่ายหน้าพลางหัวเราะเสียงเย็น “พวกเราทั้งหกคนจ่ายเงินจำนวนมากให้ตำหนักตะวันดำจัดการกับเด็กคนนั้น การส่งนักฆ่าไปจำนวนมากจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก”
“ข้าไม่ได้กังวลกับเรื่องพวกนี้เลย ตราบใดที่สมบัติของเด็กคนนั้นตกอยู่ในมือเราอย่างปลอดภัยได้ ไม่ว่าจะจ่ายไปมากแค่ไหนก็นับว่าคุ้มค่า” นักพรตเต๋าหลงเหอหัวร่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...