บทที่ 359 ชาติกำเนิดของอวิ๋นน่า
บทที่ 359 ชาติกำเนิดของอวิ๋นน่า
กลางดึก ณ นครอสนีบาต ในหอขุมทรัพย์สวรรค์
หลังจากที่พวกเขาออกจากจวนจ้าวอัสนีแล้ว เฉินซีพร้อมด้วยเหยียนเยียนและอวิ๋นน่าได้ติดตามย่าชิงไปที่หอขุมทรัพย์สวรรค์เพื่อพักผ่อน
เหยียนเยียนเป็นบุตรสาวของนายหน้ารายใหญ่เหยียนเฉิง ดังนั้นการกลับไปที่หอขุมทรัพย์สวรรค์จึงเท่ากับการได้กลับบ้านอีกครั้ง ทว่ามันก็ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดเนื่องจากอวิ๋นน่าได้ติดตามพวกเขาไปที่หอขุมทรัพย์สวรรค์เช่นกัน
เท่าที่เฉินซีทราบมา อวิ๋นน่ามาจากตระกูลอวิ๋นซึ่งเป็นตระกูลเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ ในนครอสนีบาต ดังนั้นการกระทำของนางที่ไม่ยอมกลับไปที่ตระกูลของตนเองในกลางดึก แต่เลือกติดตามเขาไปที่หอขุมทรัพย์สวรรค์แทน ทำให้เฉินซีเห็นความผิดปกติบางอย่างได้ราง ๆ แต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผยให้รู้
ส่วนย่าชิงกับเหยียนเยียนจะไม่กล่าวอะไรออกมาเหมือนตามปกติ พวกนางได้ตระเตรียมห้องรับรองพิเศษเอาไว้ให้เฉินซีและอวิ๋นน่าสองห้องก่อนที่จะจากไป
เป็นเวลากลางดึกมากแล้ว และเขาเพิ่งจะเข้าร่วมในงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ทำให้เฉินซีรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อยเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงรีบอาบน้ำร้อนและตั้งใจจะพักผ่อน ทว่าเขากลับมีแขกที่ไม่คาดคิดมาเยือนเสียก่อน
ซึ่งก็คือท่านหญิงสุ่ยฮวา
เฉินซีไม่รู้สึกแปลกใจเลยเมื่อเขาเห็นสตรีที่บริสุทธิ์และมีเสน่ห์ที่สามารถพลิกโลกคนนี้มาเยี่ยมเขาในเวลากลางดึก เมื่อตอนที่อยู่ในหอขุมทรัพย์สวรรค์ของเมืองทะเลหมอก เฉินซีรู้ว่าตนจะได้พบกับท่านหญิงสุ่ยฮวาก่อนการชุมนุมดาวรุ่งอย่างแน่นอน มันเป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น
ถ้าเขาไตร่ตรองให้ดีแล้ว หญิงสาวมากสเน่ห์คนนี้ได้ช่วยเหลือเขานับครั้งไม่ถ้วนจริง ๆ ทั้งกระบี่ระดับล้ำลึกขั้นสุดยอดสิบเล่มที่นางมอบให้เขาที่เมืองทะเลหมอก การจัดแจงของนางที่มอบหมายให้ย่าชิงช่วยตนจัดการกับปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเมืองเฟิงเย่ หรือแม้แต่ตราคำสั่งสมบัติสวรรค์ทองคำม่วงที่เขาครอบครองอยู่ ท่านหญิงสุ่ยฮวาก็เป็นคนมอบให้เขาเช่นกัน
แม้ว่าความช่วยเหลือทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หนี้บุญคุณที่สะสมไว้ก็มีมากมาย ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปฏิบัติต่อมันอย่างจริงจัง และเฉินซีเองก็ไม่กล้าลืมมันเช่นกัน แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเหตุผลที่ท่านหญิงสุ่ยฮวาเข้าหาตนนั้นเป็นเพราะนางมีบางอย่างที่จะขอร้องเขา แต่เขาก็ไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่นางไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้าย เขาก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร
หลังจากที่ท่านหญิงสุ่ยฮวามาเยือนในครั้งนี้ นางได้พูดคุยกับเฉินซีไม่นานนัก ราวกับนางไม่ได้มีจุดประสงค์แอบแฝงและมาเพียงเพื่อพูดคุยเท่านั้น และหลังจากนั้นไม่นานนางก็ได้จากไป
ทิ้งไว้เพียงสายลมอันหอมหวนปลิวว่อนอยู่ในอากาศ แต่ความงามได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
เฉินซีนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงและครุ่นคิดเป็นเวลานาน
แม้ว่าท่านหญิงสุ่ยฮวาจะไม่ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ที่นางมาเยือนในครั้งนี้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะสังเกตเห็นผ่านบทสนทนาระหว่างพวกเขา นางมักจะเข้าหาเขาด้วยการกระทำที่ไร้เสียงและคอยช่วยเหลือโดยไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขามาอยู่ใต้อาณัติของนาง
ดูเหมือนว่าตั้งแต่ต้นจนจบ นางเพียงต้องการแสดงความปรารถนาดีต่อเขาและมันก็เป็นเพียงแค่นั้น
“ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ยังต้องเป็นหนี้บุญคุณนางอยู่ดี บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่นางต้องการ?” เฉินซีส่ายศีรษะและไม่ได้คิดอะไรต่อไปอีก
ในตอนเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น เฉินซีตื่นขึ้นมาและล้างตัวก่อนออกจากห้องของเขา
เมื่อเขากลับมาที่หอขุมทรัพย์สวรรค์ เขาได้บอกย่าชิงไว้ตั้งแต่เมื่อคืนวานว่าวันนี้ตนจะออกเดินทางไปยังนครหลวงธารสายไหม เพราะการชุมนุมดาวรุ่งจะเริ่มขึ้นในอีกหนึ่งเดือน และเป็นการดีที่จะรีบเดินทางให้เร็วที่สุด
เขาเพิ่งก้าวเดินออกจากห้อง แต่ก็เห็นย่าชิง อวิ๋นน่า และเหยียนเยียนรออยู่ตรงนั้นแล้ว
การชุมนุมดาวรุ่งในครั้งนี้ได้รวบรวมยอดฝีมือรุ่นเยาว์ในโลกแห่งการบ่มเพาะทั้งหมดของราชวงศ์ซ่งและอาจกล่าวได้ว่ายิ่งใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เพราะมันเป็นการรวบรวมยอดฝีมือที่มีจำนวนมากมายราวกับหมู่เมฆ งานที่ยิ่งใหญ่นี้ไม่เพียงแต่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากเท่านั้น ยังมีผู้คนนับไม่ถ้วนที่เดินทางมาจากที่ห่างไกลเพื่อต้องการรับชมฝีมือของยอดฝีมือรุนเยาว์ที่นครหลวงธารสายไหม ดังนั้นหญิงสาวทั้งสามนางย่อมไม่พลาดงานยิ่งใหญ่นี้แน่นอน
แต่ก่อนที่พวกเขาจะจากไป ย่าชิงได้เรียกเฉินซีไปที่ด้านข้างแทนและกล่าวผ่านกระแสปราณว่า “อวิ๋นน่าตั้งใจที่จะกลับไปยังตระกูลของนางเพื่อไปเอาเถ้ากระดูกของแม่ ก่อนที่จะออกจากนครอสนีบาต ดังนั้นนางจึงไม่ได้ตั้งใจไปกับเรา”
เฉินซีตกตะลึง จากนั้นเขาก็ยิ้มและกล่าวว่า “ก็แค่การไปเอาเถ้ากระดูกเท่านั้น มันคงไม่เสียเวลามากหรอก ดังนั้นเราจะออกเดินทางหลังจากเราไปที่ตระกูลของนางแล้ว”
ย่าชิงถอนหายใจ “ข้าก็คิดเช่นนั้น แต่สถานการณ์ของอวิ๋นน่านั้นพิเศษเล็กน้อย”
“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” คิ้วของเฉินซีเลิกขึ้นขณะที่เขามองไปทางอวิ๋นน่าที่อยู่ห่างออกไป และเมื่อเห็นท่าทางเหม่อลอยที่ผิดปกติของนาง เขาก็คาดเดาได้ราง ๆ ว่านี่อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องภายในตระกูลของนาง
แน่นอนว่าสิ่งที่ย่าชิงกล่าวต่อไปนี้ได้พิสูจน์การคาดเดาของเฉินซี
ปรากฏว่าสถานะของอวิ๋นน่าในตระกูลอวิ๋นนั้นค่อนข้างต่ำต้อย มารดาของนางเป็นเพียงสาวใช้ที่อยู่เคียงข้างอวิ๋นชูเฟิง ผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลอวิ๋น และวันหนึ่งเมื่ออวิ๋นชูเฟิงเมามาย สัตว์ร้ายในตัวเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เขาได้ขืนใจมารดาของอวิ๋นน่าอย่างเอาเป็นเอาตาย อวิ๋นน่าจึงได้กำเนิดมาเช่นนี้
และหลังจากที่อวิ๋นน่าเกิดได้ไม่นาน แม่ของนางก็จากไปด้วยอาการป่วย ในขณะที่อวิ๋นชูเฟิงมีนางสนมนับไม่ถ้วนและมีบุตรอยู่เต็มบ้าน แล้วเขาจะสนใจอวิ๋นน่าที่เป็นบุตรสาวที่เกิดจากอุบัติเหตุครั้งนั้นได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะอวิ๋นน่าเป็นเลือดเนื้อของตัวเอง เขาก็แทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขามีบุตรสาวคนนี้ด้วย
กอปรกับแม่ของอวิ๋นน่าเป็นเพียงสาวใช้ นางจึงต้องทนกับการถูกปฏิเสธจากลูกหลานของตระกูลอวิ๋นและถูกเยาะเย้ยว่าเป็นคนนอกคอก แม้แต่สาวใช้และข้าทาสก็ยังดูถูกนาง อีกทั้งยังไม่ได้ถือว่านางเป็นบุตรสาวของผู้นำตระกูล
เห็นได้ชัดว่าชาติกำเนิดของอวิ๋นน่านั้นน่าสังเวชเพียงใด
เฉินซีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อเขารู้เรื่องทั้งหมดนี้ และเขาก็รู้สึกสงสารอวิ๋นน่ามากขึ้น นางสามารถเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งยังมีชีวิตที่มั่นคงและเป็นอิสระได้จนถึงปัจจุบัน ชีวิตของอวิ๋นน่านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ
เขาตัดสินใจทันทีว่าเขาจะไปที่ตระกูลอวิ๋นกับอวิ๋นน่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...