บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 438

บทที่ 438 รอยแยกมิติ

บทที่ 438 รอยแยกมิติ

ครืน!

ภายใต้ท้องฟ้าที่อยู่ใกล้เคียง มีสัตว์ร้ายขนาดยักษ์กำลังกระพือปีกอยู่ ทำให้เกิดคลื่นอันเกรี้ยวกราดที่กวาดออกไปเมื่อมันเข้ามาใกล้ แท้จริงแล้วมันคือ ‘เจียนหลง’ ซึ่งเป็นมังกรยักษ์ที่มีเกล็ดสีดำปกคลุมไปทั้งตัว มีดวงตาที่เจิดจ้าดั่งโคมไฟ และกำลังแผ่กลิ่นอายดุร้ายไปทั่วท้องนภา

“นี่มันเรือมังกรพันขนนก? หรือว่าจะเป็นหวงฝู่ฉิงอิง!?” มีชายหนุ่มสองสามคนที่ยืนอยู่บนหลังมังกรยักษ์ ชายหนุ่มที่ดูเหมือนเป็นผู้นำมีรูปร่างสูงใหญ่ มีกลิ่นอายที่สง่าและทรงพลัง การจ้องมองของเขาเหมือนกับสายฟ้าฟาดที่เฉยเมยและไร้ความรู้สึก

ชายหนุ่มสองสามคนที่อยู่เคียงข้างเขาต่างก็มีกลิ่นอายที่ทรงพลัง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนผู้เยี่ยมยุทธ์และความภาคภูมิออกมา กลิ่นอายที่สง่าซึ่งแผ่ออกมาจากกายของพวกเขาไม่ได้ด้อยกว่าชายหนุ่มที่เป็นผู้นำเลยแม้แต่น้อย

ดวงตาของหวงฝู่ฉิงอิงพลันหรี่ลง จากนั้นนางก็กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “หึ ที่แท้ก็ตี๋ว่านโหลว…เจ้าต้องการเป็นศัตรูกับข้าในตอนนี้หรือ?”

“ฮึ่ม! อย่าให้ข้าเจอเจ้าในทะเลบรรพกาล มิฉะนั้น ข้าจะจับสาวงามเช่นเจ้าไปพร้อมกับเรือมังกรพันขนนกลำนี้อย่างแน่นอน!” ชายหนุ่มที่ชื่อว่าตี๋ว่านโหลวคำรามอย่างเย็นชา จากนั้นจึงกระตุ้นมังกรยักษ์ที่อยู่ข้างใต้และพุ่งไปในระยะไกลอย่างรวดเร็ว

“คนผู้นี้ช่างหยิ่งผยองจริง ๆ!” นายน้อยโจวเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวด้วยความไม่พอใจ

“ตี๋ว่านโหลว ตี๋ว่านโหลว… หรือว่าจะเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ของราชวงศ์เทียนหลางคนนั้น” เฉินซีจมอยู่ในห้วงความคิด

ก่อนที่พวกเขาจะมุ่งหน้าไปยังสมรภูมิบรรพกาล มหาเสนาบดีได้เตรียมแผ่นหยกเอาไว้สำหรับทุกคน ซึ่งไม่เพียงบันทึกข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับสมรภูมิบรรพกาลเท่านั้น แต่ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับราชวงศ์อื่น ๆ อีกด้วย

ราชวงศ์เหล่านี้มีจำนวนมากกว่าหนึ่งร้อยราชวงศ์ และถูกแบ่งออกตามความแข็งแกร่งเป็นสี่ระดับ อันได้แก่ ราชวงศ์ระดับล่าง ราชวงศ์ระดับกลาง ราชวงศ์ระดับสูง ราชวงศ์ระดับสูงสุด

ราชวงศ์ระดับล่างมีจำนวนมากที่สุด ประมาณห้าส่วนของราชวงศ์ทั้งหมด

ราชวงศ์ระดับกลางมีประมาณสี่ส่วน

ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งส่วนเป็นของราชวงศ์ระดับสูงและราชวงศ์ระดับสูงสุด

ราชวงศ์ระดับสูงมีเพียงเจ็ดราชวงศ์ ในขณะที่ราชวงศ์ระดับสูงสุดนั้นมีจำนวนน้อยที่สุด และมีเพียงสามราชวงศ์เท่านั้น

ตัวอย่างเช่น ราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์เทียนหลางเป็นเพียงราชวงศ์ระดับกลาง ซึ่งความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่อาจเป็นแม้แต่ราชวงศ์ระดับสูง และไม่ต้องกล่าวถึงการเป็นราชวงศ์ระดับสูงสุด

แน่นอนว่า เฉินซีไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ การจัดอันดับความแข็งแกร่งของราชวงศ์ไม่สามารถตัดสินอะไรได้ และมีเพียงความแข็งแกร่งที่มีอยู่เท่านั้นที่จะสามารถตัดสินทุกสิ่งในสมรภูมิบรรพกาลได้

แต่ไม่ว่าเฉินซีจะสนใจหรือไม่ จากข้อมูลที่แผ่นหยกแสดงออกมา แม้ว่าราชวงศ์ซ่งจะเป็นเพียงราชวงศ์ทั่วไป แต่ก็เป็นศัตรูที่จัดการได้ยากสำหรับราชวงศ์อื่นมากมาย

ตัวอย่างเช่น ราชวงศ์เทียนหลาง ราชวงศ์เสวี่ยหง ราชวงศ์ต้าอิงและราชวงศ์อื่น ๆ

ราชวงศ์เหล่านี้เป็นเพียงราชวงศ์ระดับกลาง แต่ราชวงศ์ระดับสูงเช่นราชวงศ์ต้าเฉียนกับราชวงศ์ต้าเสวียน ก็เป็นศัตรูกับราชวงศ์ซ่งเช่นกัน!

นอกจากนี้ ราชวงศ์เหล่านี้ทั้งหมดได้ถูกทำเครื่องหมายเอาไว้ เพื่อเตือนเฉินซีและคนอื่น ๆ ให้คอยระวังผู้เยี่ยมยุทธ์ของราชวงศ์เหล่านี้ ที่อาจจะก่อกวนและหาทางแก้แค้นเมื่อพวกเขาเข้าสู่สมรภูมิบรรพกาล

“ใช่แล้ว ตี๋ว่านโหลวเป็นหนึ่งในผู้เยี่ยมยุทธ์รุ่นเยาว์ของราชวงศ์เทียนหลาง และสมรภูมิบรรพกาลในครั้งนี้ ก็มีคนจากราชวงศ์เทียนหลางทั้งหมดสิบสองคน ซึ่งตี๋ว่านโหลวถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดในหมู่พวกเขา” น้ำเสียงของหวงฝู่ฉิงอิงจริงจังขึ้นเล็กน้อย และดูเหมือนนางจะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะพบกับศัตรูก่อนที่จะเข้าสู่ทะเลบรรพกาล

“ฮึ่ม! ก็แค่ตี๋ว่านโหลว! หากมีเฉินซีอยู่ด้วยแล้ว เขาย่อมจัดการไอ้บัดซบนั่นได้อย่างรวดเร็ว!” นายน้อยโจวกล่าวด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

การที่นายน้อยโจวกล่าวเช่นนี้ เพราะเขาไม่ต้องการยกย่องความสามารถของศัตรูและทำให้ขวัญกำลังใจของกลุ่มตนเองลดลง และหากพวกเขาต้องต่อสู้จริง ๆ ก็ยังไม่อาจทราบผลลัพธ์ที่แน่ชัด เพราะอย่างไรเสีย กลุ่มของพวกเขาก็มีเพียงสามคนเท่านั้น ในขณะที่กลุ่มของตี๋ว่านโหลวมีกันถึงห้าคน ด้วยเหตุนี้ สองหมัดย่อมต้านทานสี่หมัดได้ยาก เว้นแต่ว่าพลังทำลายล้างของพวกเขาจะได้เปรียบ มิฉะนั้นก็เป็นการยากที่จะตัดสินความแข็งแกร่งระหว่างกัน

เฉินซียิ้มและกล่าวกับหวงฝู่ฉิงอิงอย่างจริงจังว่า “ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของราชวงศ์ซ่งหรือเพื่อตัวข้าเอง ไม่ว่าเราจะต้องเผชิญกับอันตรายใด ข้าจะไม่มีวันนิ่งเฉยเป็นอันขาด”

ขณะที่เขากล่าว ร่างของหวงฝู่ฉางเทียนก็แวบขึ้นมาในความคิดโดยไม่ได้ตั้งใจ และเขากล่าวในใจว่า ‘เฉพาะคนผู้นี้เท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น เนื่องจากข้าได้ฆ่าหวงฝู่ฉงหมิงผู้เป็นน้องชายของเขา และความเป็นปฏิปักษ์นี้จะไม่มีวันยุติ หากไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต แม้ว่าข้าจะปล่อยเขาไป แต่เขาก็คงไม่มีทางปล่อยข้าอย่างแน่นอน’

“ขอบคุณมากนะ” จู่ ๆ หวงฝู่ฉิงอิงพลันยิ้มออกมา และความมั่นใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่งดงามของนาง “ไม่ต้องกังวล แม้ว่าราชวงศ์ซ่งของข้าจะมีศัตรูมากมาย แต่จะไม่มีพันธมิตรได้อย่างไร ข้าได้ติดต่อกับเผยอวี่ ซึ่งเป็นองค์ชายสามแห่งราชวงศ์ต้าจิ้นแล้ว เราจะไปพบกับเขาเมื่อเราเข้าสู่ทะเลบรรพกาล”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]