บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 480

บทที่ 480 เจตจำนงของเต๋าแห่งสวรรค์

บทที่ 480 เจตจำนงของเต๋าแห่งสวรรค์

ทันใดนั้น สายฟ้าสีแดงเลือดได้ผ่าลงมานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งดูคล้ายกับว่าจุดจบของโลกได้มาถึงแล้ว

นี่คือพลังที่แท้จริงของสวรรค์ การลงทัณฑ์จากสวรรค์ซึ่งเป็นตัวแทนของพลังสูงสุดของกฎแห่งฟ้าดิน มันปล่อยพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวออกมา ทำให้ทุกสิ่งที่อาศัยอยู่ในโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้หวาดกลัวและไม่สบายใจ

เพียงชั่วพริบตา บริเวณโดยรอบก็กลายเป็นโลกของสายฟ้าที่มีสีแดงเข้มเหมือนเลือด และสายฟ้าก็ทำให้สวรรค์ทั้งเก้าต้องสั่นสะเทือน!

สายฟ้าสีแดงเลือดที่มีขนาดใหญ่และหนาเหมือนโซ่ได้กลายเป็นอาวุธต่าง ๆ มีทั้งดาบและหอกส่งเสียงเคร้งคร้างขณะที่พวกมันปะทะกัน และกลองสงครามก็ลั่นเสียงดังกึกก้อง นอกจากนี้ยังมีสายฟ้าบางส่วนที่ควบแน่นเป็นวิญญาณสายฟ้าที่มีรูปร่างของมนุษย์มากมาย พวกมันทั้งหมดต่างถือหอกที่เจิดจรัสและควบขี่อยู่บนม้าหุ้มเกราะพร้อมกับกู่ร้องไปทั่วท้องฟ้า ขณะที่สายฟ้าได้ฟาดลงมาและสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลก

ครืนนนน!

เสียงฟ้าร้องคำรามอย่างเกรี้ยวกราดขณะที่สายฟ้าฟาดลงมาอย่างโครมคราม การโจมตีและสมบัติวิเศษทั้งหมดที่ผู้บ่มเพาะได้ซัดออกไปล้วนแตกเป็นเสี่ยง ๆ และสลายหายไป มันทำให้พวกเขาตกใจจนหน้าซีด และต้องถอยหนีซ้ำแล้วซ้ำเล่า เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากทัณฑ์สวรรค์

ในทางกลับกัน เฉินซีก็ได้รับผลกระทบจากสายฟ้าลงทัณฑ์เช่นกัน สายฟ้าขนาดมหึมาได้กลายเป็นหอกสายฟ้าสีเลือดซึ่งปรากฏอยู่เหนือศีรษะของชายหนุ่ม จากนั้นมันก็ระเบิดพลังทำลายออกไปทุกทิศทาง เพื่อแสดงเจตนาที่จะทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่กล้าต่อต้านอำนาจสวรรค์ออกมาอย่างชัดเจน

ฟิ้ว!

ร่างกายของเฉินซีในขณะนี้เปล่งแสงสีแดงเข้ม ในขณะที่ยันต์ศัสตราก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า จากนั้นเขาก็ฟันออกไปด้วยกระบี่ในมือ ส่งเจตจำนงกระบี่อันยิ่งใหญ่ให้กวาดไปทั่วโลกและทำลายหอกสายฟ้าสีเลือดโดยตรง!

แม้ว่าหอกสายฟ้าสีเลือดจะถูกทำลาย แต่ร่องรอยของเจตจำนงเต๋าแห่งสวรรค์ที่บรรจุอยู่ภายในนั้นกลับพุ่งเข้าสู่จิตสำนึกของเฉินซีแทน ทำให้เกิดคลื่นในทะเลแห่งจิตสำนึกของเขาและคลื่นที่ว่าก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!

เจตจำนงของเต๋าแห่งสวรรค์ก่อตัวขึ้นจากกฎของเต๋าแห่งสวรรค์ และพลังทำลายของมันก็น่าสะพรึงกลัวอย่างสุดขั้ว หากผู้บ่มเพาะไม่สามารถต้านทานได้ ทะเลแห่งจิตสำนึกของคนผู้นั้นจะถูกทำลายลง และวิญญาณของพวกเขาก็จะหายไป

…ในทางกลับกัน หากวิญญาณของผู้บ่มเพาะสามารถอดทนต่อเจตจำนงของเต๋าแห่งสวรรค์ได้ ก็จะส่งผลต่อการขัดเกลาวิญญาณของผู้บ่มเพาะ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณและทำให้วิญญาณนั้นบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น หลังจากนั้นก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงและก่อกำเนิดแก่นวิญญาณในท้ายที่สุด

ทว่าสายฟ้าลงทัณฑ์ที่เฉินซีชักนำมานั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเขาเพิ่งทำลายหอกสายฟ้าสีเลือดไป อาวุธสีเลือดนับร้อยชิ้นก็พลันทุบลงมาอีกครั้ง และได้ปะทะกับปราณกระบี่ขนาดใหญ่ที่เขาได้ฟาดฟันออกไป ทำให้ปราณกระบี่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และแทบไม่มีจังหวะให้ต่อต้านเลยแม้แต่น้อย

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทั้งรู้สึกยินดีและเสียใจเมื่อเห็นภาพนี้ พวกเขายินดีที่เฉินซีจะถูกสายฟ้าฟาดสังหารในเวลาถัดมา ส่วนสิ่งที่ทำให้เสียใจก็คือ หากเฉินซีเสียชีวิต สมบัติที่อีกฝ่ายครอบครองอยู่ก็จะถูกทำลายไปเช่นกัน ซึ่งพวกเขาก็จะไม่มีทางได้ครอบครองสมบัติเหล่านี้…

ครืนนนน!

เป็นไปตามที่ทุกคนคาดไว้ หลังจากที่ปราณกระบี่ถูกทำลาย อาวุธที่สร้างจากสายฟ้าสีแดงเลือดก็พุ่งเข้าใส่เฉินซีโดยตรง ทำให้เกิดประกายสายฟ้านับไม่ถ้วนกระเด็นออกมา

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ทุกคนจะได้ประสบกับความสุขนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตาต่อมา ก็ทำให้รูม่านตาของพวกเขาหดตัวลงอย่างกะทันหัน เนื่องจากชายหนุ่มไม่เพียงแค่รอดชีวิตเท่านั้น เขายังอดทนต่อการโจมตีของสายฟ้าและกำลังพุ่งเข้าหาพวกตน!

ยิ่งไปกว่านั้น ความเร็วของเฉินซีก็รวดเร็วอย่างยิ่งยวด ในช่วงเวลาต่อมา ร่างของเขาได้พุ่งลงสู่พื้นแล้ว และผู้คนที่อยู่ใกล้ตัวเขาที่สุดก็ไม่ทันตั้งตัว ทำให้คนที่อยู่ภายในบริเวณนั้นถูกสายฟ้าโหมกระหน่ำเข้าใส่! พวกเขาต่างกรีดร้องโหยหวนอย่างน่าสังเวช จากนั้นจึงสลายกลายเป็นฝุ่นผงและเสียชีวิตลงอย่างน่าอนาถ

สายฟ้าเหล่านี้ส่วนใหญ่พุ่งเข้าหาเฉินซีด้วยความตั้งใจที่จะทำลายล้างชายหนุ่ม อย่างไรก็ตาม ผลที่ตามมาก็เพียงพอที่บดขยี้ผู้บ่มเพาะคนอื่น ๆ ให้สิ้นซาก โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาไม่ทันตั้งตัว สายฟ้าที่ฟาดลงมาจึงปลิดชีวิตของผู้บ่มเพาะไปมากกว่าสิบคนอย่างง่ายดายในทันที

“มารดามันเถอะ! ไอ้สารเลวคนนี้ตั้งใจจะใช้พลังของทัณฑ์สวรรค์เพื่อกำจัดพวกเรา!”

“มันเสียสติไปแล้ว! มันไม่คำนึงถึงชีวิตของตัวเองและต้องการลากเราไปตายพร้อมกับมันจริง ๆ!”

“เร็วเข้า! รีบหนีเร็วเข้า!”

ทุกคนล้วนตกตะลึงและต่างคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวโดยพร้อมเพรียงกัน ก่อนจะหันหลังกลับและทะยานหลบหนีไปให้ไกลที่สุด ซึ่งพวกเขาไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากเกิดมาพร้อมกับขาอีกคู่หนึ่ง

แต่สิ่งนี้ก็ช่วยไม่ได้ เนื่องจากทัณฑ์สวรรค์นั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก และพวกเขาไม่ต้องการพินาศไปพร้อมกับคนเสียสติเช่นเฉินซี

ในพริบตาเดียว ผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งหมดที่อยู่ใกล้เคียงก็พุ่งออกไปไกลและเคลื่อนตัวออกจากบริเวณที่เต็มไปด้วยสายฟ้าลงทัณฑ์ จากนั้นพวกเขาก็หายลับไป ทว่าพวกเขาไม่ได้จากไปโดยสิ้นเชิง แต่ซ่อนตัวอยู่ห่าง ๆ ในขณะที่ตั้งใจเฝ้ารอโอกาสที่จะลงมือ

แน่นอนว่ามันย่อมเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเต็มใจจากไปจนกว่าจะเห็นเฉินซีถูกทำลายล้างอย่างสมบูรณ์!

ในยามปกติ หากผู้บ่มเพาะต้องการพิชิตทัณฑ์สวรรค์ พวกเขาจะต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก และถึงขั้นเชิญผู้อาวุโสของนิกายมาคอยปกป้อง แต่เฉินซีไม่เพียงแต่ชักนำทัณฑ์สวรรค์ในระหว่างต่อสู้เท่านั้น ชายหนุ่มยังใช้ทัณฑ์สวรรค์เพื่อฆ่าผู้อื่นอีกด้วย การกระทำที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้จะไม่ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงได้อย่างไร?

โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาเข้าใจความแข็งแกร่งของเฉินซีไปอีกขั้น และต้องการจะฆ่าเฉินซีมากยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะจากไปเช่นนี้

ครืนนนน!

เดิมทีเฉินซีตั้งใจจะไล่ตามคนกลุ่มนั้น แต่สายฟ้าสีเลือดนั้นดุร้ายเกินไป และมันก็ได้ฟาดลงมาใส่เขาราวกับพายุฝน แม้ว่าชายหนุ่มจะควบแน่นกงล้อสังสารวัฏได้แล้ว แต่มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขาเมื่อเผชิญหน้ากับสายฟ้าลงทัณฑ์เช่นนี้

แต่เฉินซีก็ค่อนข้างพอใจ เนื่องจากเขาสามารถกวาดล้างผู้บ่มเพาะไปหลายสิบคนด้วยการช่วยเหลือจากพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ ดังนั้นชายหนุ่มจึงหันกลับมาทันทีและเริ่มต่อสู้กับสายฟ้าลงทัณฑ์ด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]