บทที่ 508 เสียอาการซ้ำแล้วซ้ำเล่า
บทที่ 508 เสียอาการซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ภายในโถงใหญ่ ณ เขตแดนทางตอนตะวันตกเฉียงเหนือ
เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ซางคุนนั่งขัดสมาธิตามลำพังบนบัลลังก์ตรงกลางห้องโถงอันว่างเปล่าและโอ่อ่าเหมือนห้องโถงที่ทวยเทพมารวมตัวกัน ซึ่งเปล่งรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากทุกมุม
ขณะที่นั่งขัดสมาธิอยู่นั้น ซางคุนมักจะรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างต่ำต้อยราวกับว่าเขากลายร่างเป็นเทพเจ้าที่ควบคุมโลกทั้งใบ
เขาโปรดปรานความรู้สึกที่ได้ควบคุมทุกสิ่ง
บางครั้งการควบคุมก็น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าการทำลายด้วยซ้ำ หากผู้ใดสามารถควบคุมชะตาของโลก ชีวิตของสรรพสิ่งและความสัมพันธ์ของทุกอย่าง จะมีสิ่งใดในโลกที่ผู้นั้นไม่อาจทำได้?
หากต้องการมีชีวิตอยู่ แม้แต่เทพมรณะก็ไม่อาจพรากชีวิตไปได้
หากต้องการดับสูญ ก็ไม่อาจมีใครในจักรวาลช่วยเหลือได้
นี่คืออำนาจในการควบคุม ซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้ายที่ซางคุนไล่ตามมาตั้งแต่ยังเด็ก
ยิ่งกว่านั้น เขายังทราบว่าจะบรรลุเป้าหมายได้โดยการเข้าสู่แดนภวังค์ทมิฬและกลายเป็นเซียนสวรรค์หรือสูงกว่านั้น ดังนั้นแม้ว่าจะเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกอันมากเหลือที่สร้างขึ้นภายในห้องโถงนี้ เขาก็ไม่หลงระเริงหรือจมอยู่กับมัน
กลับกัน ซางคุนนั้นเป็นคนสุขุมเยือกเย็น เขาเป็นเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย
เมื่ออัจฉริยะผู้นี้ยังเยาว์วัย ผู้อาวุโสในตระกูลต่างยกย่องเขา จนกลายเป็นเด็กที่ไม่แยแส ทว่ามีใจที่มั่นคง แม้ว่าภูผาจะพังทลายลงต่อหน้าต่อตา ใจก็ไม่หวั่นไหว …กล่าวได้ว่าเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ผู้เกือบจะสมบูรณ์แบบ
ส่วนผู้ที่สมบูรณ์แบบคือการดำรงอยู่ที่ไร้ที่ติ และเห็นได้ชัดว่าคุณค่าในตัวนั้นสูงเพียงใด
ซางคุนทำตามความคาดหวังของพวกเขาจริง ๆ มีความสามารถโดดเด่นมาตั้งแต่วัยเยาว์ ไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ที่แพรวพราวเท่านั้น จิตใจของเขายังสงบราวกับหิมะ ฝีมือการวางกลยุทธ์ก็ช่ำชอง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดเขาถึงเป็นผู้นำในกลุ่มรุ่นเยาว์แห่งตระกูลซาง
“เฟิงเจี้ยนไป๋ เจ้าจะต่อต้านข้าได้อย่างไรหลังจากที่ข้าบ่มเพาะร่างมารวิบัติได้สำเร็จ? รอก่อนเถอะ อันดับหนึ่งจะต้องเป็นของข้าอย่างแน่นอน…” ซางคุนพึมพำ จากนั้นก็หายใจเข้าลึก ๆ ในขณะที่กำจัดความคิดที่ฟุ้งซ่านในใจ หลังจากนั้นก็ดึงแผ่นหยกออกมาและเริ่มตรวจสอบอย่างระมัดระวังอีกครั้ง
แผ่นหยกนี้บันทึกทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเฉินซี ทั้งภูมิหลัง ตัวตน การบ่มเพาะของเขา แม้แต่เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเขาก็ยังถูกบันทึกและเรียบเรียงไว้ในแผ่นหยกอย่างเป็นระเบียบ
ข้อมูลที่ละเอียดยิบเช่นนี้ทำให้ซางคุนไม่กล้าดูหมิ่นเฉินซีตั้งแต่แรกแล้ว กลับกัน หลังจากที่เขาทราบทุกอย่างเกี่ยวกับเฉินซี ก็รู้สึกชื่นชมในตัวคนผู้นี้ขึ้นมาเล็กน้อย
เจ้าตัวซวยจากตระกูลเล็ก ๆ ที่ยากจน ไร้ซึ่งนิกายกลับสร้างเหตุการณ์สำคัญและน่าตกใจมากมายเช่นนี้ได้ ยิ่งกว่านั้นจนถึงตอนนี้เขายังปลอดภัยดีราวกับเป็นปาฏิหาริย์
ซางคุนรู้สึกว่าหากเขาเป็นเฉินซี คงจะมิอาจทำได้ดีกว่านี้ได้
“ด้วยอารมณ์ที่มั่นคงไม่สั่นคลอน ใจเด็ดเดี่ยวในการเข่นฆ่า และการบ่มเพาะที่ดูจะธรรมดา แต่พลังต่อสู้นั้นน่าตกใจยิ่ง และเขายังเป็นคนเก็บตัวและซ่อนพละกำลังได้อย่างดี จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเขามีไพ่ตายกี่ใบ…” ซางคุนลูบคางด้วยฝ่ามือ ในขณะที่ดวงตาสีฟ้าส่องแสงเย็นยะเยือก ดูเหมือนเขากำลังตกอยู่ในภวังค์ หากไม่รู้จักเฉินซีอย่างทะลุปรุโปร่ง ก็คงง่ายมากที่จะมองข้ามคนอย่างชายหนุ่ม
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ซางคุนก็หายใจเข้าลึก ๆ ระงับระลอกคลื่นความคิดในใจในขณะที่ส่ายศีรษะ
อันที่จริง ความกระสับกระส่ายได้ปรากฏขึ้นในใจตั้งแต่ที่พบว่าเฉินซีได้เข้าสู่เมืองบรรพกาลแล้ว เขาต้องการที่จะละทิ้งเหตุผลทั้งหมดเพื่อไปกำจัดอีกฝ่าย ก่อนจะใช้ชิงซิ่วอี้และเจิ้นหลิวชิงให้ไปบ่มเพาะเคล็ดวิชาเทพธิดาประทานพรเพื่อที่เขาจะได้ชิงอันดับหนึ่งบนศิลาจารึกวิญญาณแห่งการต่อสู้ของจักรพรรดิสงครามมาจากเฟิงเจี้ยนไป๋
ทว่าความเยือกเย็นที่เขาใช้เวลาพัฒนาเป็นเวลาหลายปีจนทำให้สามารถอดทนมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เขาทราบว่าเมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างเฉินซี แรงกดดันเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้แผนการของเขาและทุกอย่างพังพินาศ
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าดังก้องออกมาจากด้านนอกห้องโถง ทำให้ซางคุนกลับมามีสติและสงบอีกครั้ง
“นายน้อย ทุกอย่างกำลังแย่!” ผู้ที่เข้ามาคือซางผิง เขาสูดหายใจเข้าเพื่อระงับอาการตกใจก่อนจะกำหมัด เขาทราบว่าไม่อาจสร้างความวุ่นวายต่อหน้านายน้อยได้ มิฉะนั้นจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกอีกฝ่ายเกลียดชัง
“ว่ามา” ซางคุนกล่าวอย่างเป็นกันเองด้วยท่าทีที่สงบและมั่นใจ
“ก่อนหน้านี้ หน่วยสอดแนมรายงานมาว่าเฉินซีและสมาชิกแห่งราชวงศ์ซ่งอีกสี่คนติดอันดับยี่สิบคนแรกของศิลาจารึกวิญญาณแห่งการต่อสู้!” แม้ว่าซางผิงจะพยายามสงบสติอารมณ์อย่างเต็มที่ ทว่าเสียงของเขาก็ยังเจือความสั่นเครือ เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ทำให้เขาตกใจอย่างยิ่ง
“โอ้?” ซางคุนตกตะลึง จากนั้นก็พลันยิ้มออกมา “วาสนาของราชวงศ์ซ่งนั้นดียิ่งเสียจริง เจ้ามาหาข้าเพราะเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้หรอกหรือ?”
“นายน้อย นี่ไม่ใช่ประเด็นหลักนะขอรับ” ซางผิงเริ่มเป็นกังวลเมื่อเห็นสิ่งนี้ จากนั้นจึงรีบกล่าวว่า “เฉินซี คนที่ท่านขอให้พวกเราคอยเฝ้าสังเกต เขา…เขา…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...