บทที่ 571 กลับกลอก
บทที่ 571 กลับกลอก
ณ ด้านบนของแท่นดอกบัว
ลำแสงสว่างวาบไปทั่วทั้งฟ้าดิน ก่อนที่ร่างของเฉินซีจะปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาได้สติก็ส่ายศีรษะเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
กลีบดอกไม้ที่ดูเหมือนหยกแต่ไม่ใช่หยกในมือของเขา ทำให้ชายหนุ่มตระหนักได้ว่า ทุกสิ่งที่ตนพบเจอก่อนหน้านี้ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่มันคือเรื่องจริง!
ฟึ่บ!
กองใบไผ่เขียวขจีหล่นลงมาจากท้องฟ้าและกระจัดกระจายอยู่ตรงหน้าเฉินซี นับว่าน่าตกใจนัก ด้วยพวกมันคือศาสตร์เต๋าทั้งสี่สิบเก้าเคล็ด
เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉินซีรีบหันมองไปรอบ ๆ แต่แท้จริงแล้ว เขาสังเกตเห็นว่าทั้งเก้าชั้นของแท่นดอกบัวนั้นกลับว่างเปล่า และไม่มีใครนอกจากเขาแม้แต่คนเดียว
“เกิดอันใดขึ้น?”
เฉินซีครุ่นคิดอยู่นาน แต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ดังนั้นเขาจึงเก็บม้วนใบไผ่บนพื้นอย่างระมัดระวังและวางพวกมันในเจดีย์บำเพ็ญทุกข์พร้อมกับกลีบดอกไม้สีทองที่ได้บันทึกสัจธรรมสวรรค์เอาไว้ จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและจากไป
ทุกสิ่งที่เฉินซีพบในวันนี้สามารถอธิบายได้อย่างง่าย ๆ ว่า เป็นเรื่องมหัศจรรย์ เขาขึ้นไปบนแท่นดอกบัว และไม่เพียงแต่ได้เห็น ‘ปีศาจคัมภีร์’ จำนวนมากที่ดูจะมีสติปัญญาเท่านั้น เขายังได้สนทนากับเต๋าบงกช ซึ่งเป็นเจตจำนงอันศักดิ์สิทธิ์ของดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหล จนถึงตอนนี้เขายังคงรู้สึกราวกับว่ามันเป็นความฝัน
แต่หลังจากที่เฉินซีคิดถึงเรื่องนี้อย่างรอบคอบแล้วว่า ในครั้งนี้เขาขึ้นไปบนแท่นดอกบัวก็เพื่อรับศาสตร์เต๋า และตอนนี้เขาก็ได้รับศาสตร์เต๋ามามากมายอย่างไม่คาดคิด จึงทำให้ชายหนุ่มพอใจเป็นอย่างมาก
ในเวลาไม่นาน เฉินซีก็เดินลงมาจากแท่นดอกบัวและเดินไปตามทางเดินเล็ก ๆ บนภูเขาคัมภีร์ จากนั้นเขาก็เดินผ่านริมทะเลการรู้แจ้งแห่งเต๋า และมุ่งหน้าไปที่หอหมื่นคัมภีร์
แต่สิ่งที่ทำให้เฉินซีต้องแปลกใจก็คือ ทั้งหอหมื่นคัมภีร์กลับเงียบสนิท และไม่มีใครอยู่เลยสักคนเดียว!
เขายังคงจำได้อย่างชัดเจนว่า ตอนที่ตนเข้าไปในช่องเขาก่อนหน้านี้ มีศิษย์ไม่น้อยกว่าหลายพันคนในหอหมื่นคัมภีร์ แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม กลับไม่มีร่องรอยของเหล่าศิษย์เลยแม้แต่คนเดียว
สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวนั้นนับว่าผิดปกติเกินไป!
…
หลังจากเดินออกมาจากหอหมื่นคัมภีร์ และเห็นชายชราที่นอนอยู่บนเก้าอี้โยกยังคงอยู่ เฉินซีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที อย่างน้อยที่สุด สิ่งนี้ก็พิสูจน์ได้ว่าทุกสิ่งที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ไม่ใช่ภาพลวงตา
ส่วนศิษย์เหล่านั้นที่หายไป เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้
จิตใจของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยวิธีการทำความเข้าใจศาสตร์เต๋า วิธีการบรรลุสู่ขอบเขตสถิตกายา วิธีการใช้เต๋าแห่งยันต์อักขระเพื่อควบคุมเต๋ารู้แจ้งอื่น ๆ และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นชายหนุ่มย่อมไม่ต้องการสิ่งอื่นใด นอกจากการปิดด่านบ่มเพาะ ดังนั้นเขาจะมีอารมณ์สนใจรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ได้อย่างไร
“เฉินซี” เมื่อเขากำลังจะจากไป ชายชราที่นอนอยู่บนเก้าอี้โยกก็โพล่งขึ้นมา “อาจารย์ของเจ้าได้จากไปแล้ว”
ร่างของเฉินซีแข็งทื่อ ขณะความเศร้าหมองแวบผ่านดวงตาของเขา จากนั้นชายหนุ่มก็พยักหน้า “ขอบคุณผู้อาวุโสที่แจ้งให้ข้าทราบ ข้าเข้าใจแล้วขอรับ”
“จงทุ่มเทบ่มเพาะอย่างเหมาะสม เพราะในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมานี้ เจ้าเป็นศิษย์คนแรกที่สามารถขึ้นไปถึงด้านบนของแท่นดอกบัวได้ ฉะนั้นอย่าได้ละทิ้งมรดกของศาสตร์เต๋าที่เจ้าได้รับมา หากเจ้าพบสิ่งใดที่มิอาจเข้าใจในระหว่างการบ่มเพาะ เจ้าสามารถเข้าไปในหอหมื่นคัมภีร์เพื่อค้นคว้าได้ตลอดเวลา” ชายชราแนะนำด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโส” เฉินซีประสานมือเชิงแสดงความเคารพ
“ส่วนเรื่องที่เจ้าได้ขึ้นไปถึงด้านบนของแท่นดอกบัวนั้นถูกปกปิดแล้ว และศิษย์ทุกคนที่เข้ามาในหอหมื่นคัมภีร์ในวันนี้ ก็ได้รับคำสั่งให้ปิดปากเงียบเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน นั่นก็เพื่อปกป้องเจ้า” ชายชรากล่าวช้า ๆ “แต่กระดาษย่อมไม่อาจห่อไฟได้ ดังนั้นจงคว้าโอกาสในช่วงเวลานี้ เพื่อพัฒนาการบ่มเพาะของเจ้าอย่างหมั่นเพียร เพราะหากเจ้าต้องการเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ เจ้าก็ต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น”
ในตอนนี้เอง เฉินซีก็เข้าใจแล้วว่า เหตุใดหอหมื่นคัมภีร์จึงว่างเปล่า ที่แท้มันก็เพราะศิษย์เหล่านั้นถูกคนระดับสูงของนิกายเรียกตัวไปและกำชับให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
หลังจากกล่าวอำลากับชายชราแล้ว ชาายหนุ่มก็ออกจากยอดเขาจรัสสสารทันที และมุ่งตรงไปยังยอดเขาจรัสตะวันตก
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่เขากำลังเดินทาง จู่ ๆ ลำแสงสายหนึ่งก็พุ่งตรงมาที่เขา และร้องออกมาทันทีที่เห็น “ศิษย์น้องเฉิน รีบกลับไปที่ยอดเขาจรัสตะวันตกเร็วเข้า ตู้เซวียนได้นำศิษย์ของยอดเขาจรัสตะวันไปที่นั่นและขู่ว่าจะยึดครองยอดเขาจรัสตะวันตกของเจ้า”
คนผู้นี้สวมชุดยาวสีแดงดุจเปลวเพลิง มีผมยาวสลวยสวยราวกับน้ำตก มีรูปโฉมที่งดงามและผ่องใส ในขณะที่ผิวของนางก็เป็นสีขาวหยก รูปร่างของนางสง่าและเพรียวบาง นางคืออันเคอ ศิษย์หญิงของยอดเขาจรัสใต้
ในขณะนี้ คิ้วที่งดงามของนางได้ขมวดเข้าหากัน ซึ่งเผยให้เห็นความโกรธอยู่เล็กน้อย ท่าทีของนางคล้ายดั่งลูกแมวน้อยขี้โมโห ซึ่งกำลังวิตกกังวลและโกรธเกรี้ยว
“อันใดนะ!? ตู้เซวียนกล้าฝ่าฝืนข้อตกลงจริง ๆ หรือ?” คิ้วของเฉินซีเลิกขึ้น เขาจำได้ชัดเจนว่า วิปลาสหลิ่วได้ตำหนิตู้เซวียนอย่างดุเดือดก่อนที่จะจากไป ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังตกลงกันว่า ตู้เซวียนจะต่อสู้กับเฉินซีที่งานประลองยอดเขาจรัสในอีกสามเดือนนับจากนี้!
แต่ชายหนุ่มไม่เคยคิดมาก่อนว่า วิปลาสหลิ่วเพิ่งจากไปได้ไม่นานนัก แต่คนผู้นี้ก็กลับมาแล้ว และยังพาเหล่าศิษย์ของยอดเขาจรัสตะวันออกมาด้วย อีกทั้งยังขู่ว่าจะยึดครองยอดเขาจรัสตะวันตกด้วยกำลัง!
“ไม่รักษาคำพูด กระทำตามอำเภอใจ และไร้ซึ่งเหตุผล ศิษย์ของยอดเขาจรัสตะวันออกเหล่านี้ช่างหยิ่งผยองเสียจริง ๆ!” ดวงตาของเฉินซีส่องประกายด้วยเจตนาฆ่าที่สามารถมองเห็นได้ และเขาก็มีความกังวลเล็กน้อยในใจ แต่ชายหนุ่มไม่ได้กังวลว่ายอดเขาจรัสตะวันตกจะถูกยึดครองด้วยกำลัง เขากังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของศิษย์พี่ใหญ่และคนอื่น ๆ ต่างหาก!
เพราะเขารู้เป็นอย่างดีว่า ศิษย์เหล่านี้ล้วนเป็นคนดี โอบอ้อมอารีและเป็นอิสระจากทางโลก พวกเขาหลงใหลในเส้นทางแห่งเต๋าที่พวกเขาเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะต่อกรกับตู้เซวียนและคนอื่น ๆ ได้ ดังนั้นหากพวกเขาต้องได้รับบาดเจ็บ มันจะเป็นผลลัพธ์ที่เฉินซีไม่สามารถทนได้อย่างแน่นอน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...