บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 775

บทที่ 775 หมื่นกระบี่รวมหนึ่ง

บทที่ 775 หมื่นกระบี่รวมหนึ่ง

ณ ชั้นที่หกสิบของถ้ำกระบี่วิญญาณโลหิต

สายฟ้าอันรุนแรงกำลังซัดโหมกระหน่ำ พวกมันดูเหมือนกับอสรพิษสีเงินจำนวนมหาศาลที่มีขนาดใหญ่และหนาเหมือนถังน้ำ ซึ่งกำลังแผดเสียงคำรามและร่ายรำอย่างบ้าคลั่ง!

ทั่วทุกหนทุกแห่งของพื้นที่นี้เต็มไปด้วยสายฟ้า ในขณะที่กลิ่นอายแห่งการทำลายล้างที่ดูแข็งแกร่งจนแทบจับต้องได้ ก็แผ่กระจายไปทุกซอกทุกมุม!

หากลองมองอย่างระมัดระวัง ก็จะสังเกตได้อย่างชัดเจนว่า ตั้งแต่พื้นที่รอบนอกไปจนถึงศูนย์กลางของแดนจำกัดอัสนี พลังสายฟ้ายิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ สายฟ้าบางสายถึงกับมีรูปร่างเป็นดาบ กระบี่ ขวาน หรือกระทั่งง้าว ทำให้มันดูน่าประหลาดใจ

ฟิ้ว!

มีร่างสูงโปร่งปรากฏตัวขึ้นในบริเวณนี้ เสื้อผ้าของเขาพลิ้วไหวไปตามสายลม ในขณะที่ร่างกายของชายหนุ่มเปล่งเจตจำนงกระบี่ออกมา และทุก ๆ การเคลื่อนไหวก็จะเกิดปราณกระบี่อันเจิดจรัสออกมามากมาย ซึ่งฉีกสายฟ้าที่ขวางทางอยู่จนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

แม้การเคลื่อนไหวของเฉินซีจะไม่รวดเร็วนัก แต่กลับมีกลิ่นอายที่ทรงพลังและไม่มีใครเทียบได้ ทำให้เขาดูเหมือนจักรพรรดิกระบี่ที่กำลังเดินเล่นอย่างสบายอารมณ์ และทุกที่ที่เขาผ่านไป สรรพสิ่งก็จะถอยร่นห่างออกไป!

ร่างสูงโปร่งนี้ย่อมคือเฉินซีอย่างแน่นอน

การบ่มเพาะในแดนจำกัดแรงโน้มถ่วงตลอดเจ็ดวันนี้ ในที่สุดชายหนุ่มก็บรรลุความเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชากระบี่สรรค์สร้าง และความเข้าใจของเขาที่มีต่อเต๋ากระบี่ก็ทะลวงผ่านระดับของ ‘กระแสปราณกระบี่’ จนบรรลุถึงระดับ ‘หมื่นกระบี่รวมหนึ่ง’ แล้ว!

เมื่อบรรลุถึงระดับนี้ ชายหนุ่มอาจกล่าวได้ว่าเป็นปรมาจารย์ในเต๋ากระบี่ ปราณกระบี่เพียงเล่มเดียวจะเต็มไปด้วยความผันแปรนับหมื่นนับแสน ความลึกล้ำนับไม่ถ้วน และแปรเปลี่ยนจากเรียบง่ายเป็นซับซ้อน โดยในระดับนี้มันมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป และมันมักถูกเรียกว่า ‘หมื่นกระบี่รวมหนึ่ง!’

หมื่นกระบี่รวมหนึ่งคือสิ่งใด?

มันคือการใช้ศาสตร์เต๋าให้สอดประสานกับปราณกระบี่ และความล้ำลึกอันไร้ขอบเขตภายในนั้นจะแปรผันตามเจตจำนงของผู้ใช้ มีเพียงการทำลายเท่านั้นที่จะมีการพัฒนา ภายใต้อานุภาพของการโจมตีด้วยกระบี่ในระดับนี้ เคล็ดวิชาทั้งมวลต่างร้ายกาจรุนแรง!

อาจกล่าวได้ว่า แม้ตอนนี้เฉินซีจะยังคงอยู่ที่ขอบเขตสถิตกายา แต่พลังการต่อสู้ของเขาก็ก้าวหน้าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน! ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับชายหนุ่มที่จะต่อสู้กับผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีระดับสามในตอนนี้

พลังการต่อสู้ที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้สามารถอธิบายได้ว่า สามารถทำให้ผู้คนทั้งโลกตกตะลึงได้ หากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มันก็จะทำให้ผู้คนตกตะลึงจนขากรรไกรค้างอย่างแน่นอน!

แต่ชายหนุ่มกลับยังไม่พอใจ เพราะมันยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา ซึ่งเท่าที่เขาคาดหวังคือ เมื่อเคล็ดกระบี่สรรค์สร้างสามารถอนุมานได้และควบคุมด้วยพลังของเต๋าแห่งยันต์อักขระ เมื่อนั้นจึงจะถือว่าสมบูรณ์แบบ!

ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่า ความสำเร็จในมหาเต๋าแห่งการรังสรรค์ของเขาในปัจจุบัน เพียงบรรลุขอบเขตขั้นสูงเท่านั้น และยังมีช่องว่างระหว่างความสมบูรณ์แบบที่ไม่สามารถปิดได้ภายในระยะเวลาอันสั้น

เช่นเดียวกับมหาเต๋าแห่งปารมิตา มหาเต๋าแห่งการลืมเลือน มหาเต๋าแห่งนิรันดร์ และมหาเต๋าแห่งการทำลายล้าง ความล้ำของการรังสรรค์ก็คล้ายกับมหาเต๋าที่หาได้ยากยิ่งเหล่านี้ และการทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้นั้น …ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน!

“ช่างเป็นพลังสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวเสียจริง และมันยิ่งทำให้การบ่มเพาะของข้าปั่นป่วน บางทีข้าอาจต้องการเรียกทัณฑ์สวรรค์อัสนีคราม และบรรลุไปยังขอบเขตเซียนปฐพีได้แล้วกระมัง?”

ขณะที่เฉินซีเดินเข้าไปในแดนจำกัดอัสนี ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าใด แรงกดดันที่มีก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และแม้ว่าพลังการต่อสู้ในปัจจุบันของชายหนุ่ม จะผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่เขาก็ยังรู้สึกตึงเครียดเล็กน้อย

เฉินซีถึงกับรู้สึกได้ราง ๆ ว่า แม้เขาจะสะกดการบ่มเพาะไว้ แต่ทัณฑ์สวรรค์อัสนีครามจะต้องผ่าลงมาเพื่อบีบให้บรรลุสู่ขอบเขตเซียนปฐพีเป็นแน่ ซึ่งมันอาจจะเกิดภายในสามเดือนถึงหนึ่งปี หรือมากกว่านั้นอย่างแน่นอน!

นี่เป็นรูปแบบหนึ่งของจิตใต้สำนึกที่ไม่สามารถจับต้องได้ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ในหัวใจ มันลึกซึ้งเป็นอย่างมาก และผู้บ่มเพาะก็มีความเชื่อมโยงกับชะตาสวรรค์

เมื่อการบ่มเพาะของคนคนนั้นได้บรรลุถึงขอบเขตเซียนปฐพีแล้ว ก็จะสามารถพึ่งพาการเชื่อมโยงกับชะตาสวรรค์ เพื่อคาดการณ์ถึงอันตรายในอนาคตของคนผู้นั้นได้ และมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างยิ่ง

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

พลังสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวถูกฟันด้วยปราณกระบี่ของเฉินซี จนเหลือเพียงเสี้ยวพลัง ซึ่งถูกชักนำมาเพื่อขัดเกลาร่างกาย ก่อนจะเปล่งแสงระยิบระยับออกมา ในขณะที่ผิวหนังถูกกระแทกจนสั่นสะท้าน ทำให้เฉินซีรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงและปวดชา

เมื่อครั้งที่เฉินซีอยู่ในแดนจำกัดแรงโน้มถ่วง เขาได้ใช้แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวของที่นั่น เพื่อขัดเกลาร่างกาย และในตอนนี้ ชายหนุ่มได้ใช้พลังสายฟ้าแทน!

แม้ว่าการกระทำนี้จะเป็นอันตรายและเจ็บปวดยิ่ง แต่ผลลัพธ์ในการขัดเกลาร่างกายของเฉินซีก็ชัดเจนมาก มาจนถึงขณะนี้ ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งจนบรรลุถึงระดับที่น่าตกใจ และดูจะบรรลุขีดจำกัดของขอบเขตจุติขั้นสมบูรณ์แล้ว ซึ่งมันอยู่ห่างจากขอบเขตสถิตกายาเพียงก้าวเดียว อย่างไรก็ตาม… แม้มันจะอยู่ห่างเพียงก้าวเดียว แต่มันกลับดูเหมือนช่องว่างระหว่างฟ้าดิน และยากกว่านับพันเท่าที่จะก้าวข้ามผ่านไปได้!

เฉินซีได้ใช้วิธีการนับไม่ถ้วนเพื่อบรรลุขอบเขตสถิตกายาในการขัดเกลากายา เช่น การทำความเข้าใจคัมภีร์กำเนิดเต๋าแห่งนรกขุมที่เก้า เพื่อเปลี่ยนร่างกายให้เป็นจุดกำเนิดเต๋าที่ผสานรวมเข้ากับฟ้าดิน ซึ่ง ณ ตอนนี้ เขายังอาศัยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวและพลังสายฟ้าเพื่อขัดเกลาร่างกาย โดยอาจกล่าวได้ว่า การขัดเกลากายาในปัจจุบันของชายหนุ่มนั้นไร้เทียมทานในหมู่ผู้บ่มเพาะ เพราะหากเป็นผู้ขัดเกลากายาคนอื่น …คงบรรลุสู่ขอบเขตสถิตกายาไปตั้งนานแล้ว!

น่าเสียดายที่ทั้งหมดนี้ดูยากเย็นสำหรับเฉินซี!

“บัดซบ! ข้าไม่เชื่อว่าตัวเองจะไม่สามารถบรรลุขอบเขตสถิตกายาในการขัดเกลากายาได้!” เฉินซีกัดฟันแน่น ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเหี้ยมโหด และเขายังคงเดินลึกเข้าไปในแดนจำกัดอัสนี

ที่บริเวณใจกลางของแดนจำกัดอัสนีในขณะนี้ มีร่างหลายร่างนั่งอยู่ที่นั่น ร่างกายของพวกเขาปล่อยปราณเซียนที่น่าสะพรึงกลัวออกมา กระทั่งสายฟ้าที่อยู่ในบริเวณโดยรอบก็ไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขาได้ และถูกระเบิดออกไป

คนกลุ่มนี้นำโดยชายวัยกลางคนที่มีเคราและผมสีดำ ซึ่งสวมเสื้อคลุมนักพรตเต๋าแบบหลวม ๆ และมีดวงตาสุกสกาวดุจดวงดาว ในขณะนี้เจ้าตัวได้กล่าวด้วยสีหน้ากังวล “การบ่มเพาะของสัตว์ร้ายตัวนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ”

คนอื่น ๆ ต่างนิ่งเงียบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]