บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 831

บทที่ 831 แหกกฎ

บทที่ 831 แหกกฎ

หลิงชิงโม่ทั้งโกรธทั้งเคืองใจเมื่อได้ยินนักพรตเต๋าหลิงหัวเราะเสียงดัง จากนั้นนางก็เอ่ยว่า “ข้าพูดความจริงนะ!”

นักพรตเต๋าหลิงรีบส่ายหัว “ใช่แล้ว ชิงโม่ของข้ากล่าวได้ถูกต้อง”

หญิงสาวกลอกตา นางย่อมจับแววหยอกล้อในน้ำเสียงของท่านปู่ได้ จึงไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี

หลังจากส่งเสียงในลำคออย่างไม่พอใจอยู่ครู่หนึ่ง นางก็เอ่ยด้วยเสียงโกรธเคืองว่า “ไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่ แต่ข้าเชื่อ”

เป็นตอนนั้นเองที่นักพรตเต๋าหลิงมีสีหน้าจริงจัง แต่แล้วเขาก็ส่ายหัวทันที “ช่างมันเถิด หากสหายน้อยนั่นเป็นปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระจริงแล้วอย่างไร?”

พูดจบ เขาก็คว้ามือหญิงสาวไว้ “มานี่ ปู่จะพาเจ้าไปดูปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระตัวจริงสักหน่อย หากพวกเขาถูกชะตากับเจ้าก็นับเป็นประโยชน์ต่อการบ่มเพาะเต๋าแห่งยันต์อักขระของเจ้าในอนาคต”

หลิงชิงโม่ทั้งโกรธทั้งเสียใจ นางได้แต่พึมพำออกมาว่า พวกนั้นก็แค่พวกตาแก่ หากข้าอายุเท่าพวกเขาก็คงเป็นปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระไปแล้วเหมือนกัน…

“ว่าไงนะ? เขาเสียพลังธรรมเทพไปแปดพันดวง!?” เมื่อรู้จากเถิงหลานว่าเวิ่นเทียนเซี่ยวเสียพลังธรรมเทพแปดพันดวงในการเดิมพัน กระทั่งเฉินซียังตกตะลึง เพราะมันเป็นจำนวนที่มากไปสักหน่อย

“ใช่แล้ว หากเขาไม่สามารถหาสมบัติที่มีมูลค่าเทียบเท่ากันได้มา ข้าเกรงว่า…” เถิงหลานพูดไม่จบประโยค แต่ความหมายกลับชัดเจนยิ่ง หากเวิ่นเทียนเซี่ยวหาของไม่ได้ก็คงต้องตาย

“พลังธรรมเทพใช้เดิมพันได้ด้วยหรือ?” เฉินซีขมวดคิ้ว เขาไม่อาจกล่าวได้ว่าตนเองมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเวิ่นเทียนเซี่ยว แต่อย่างไรพวกเขาก็ต่อสู้มาด้วยกัน พอได้ยินเรื่องนี้จะให้นั่งเฉยก็กระไรอยู่

“ใช่แล้ว พลังธรรมเทพทุกดวงคือสมบัติล้ำค่า ในพิภพยันต์อักขระแห่งนี้ หากมีพลังธรรมเทพอยู่ก็สามารถนำไปแลกกับสิ่งใดก็ได้ แน่นอนว่าไม่สามารถนำสิ่งของอย่างอื่นไปแลกกับพลังธรรมเทพได้หรอกนะ” เถิงหลานพยักหน้าพลางกล่าวว่า “พลังธรรมเทพแปดพันดวงก็มากพอจะแลกสมบัติอมตะได้สองชิ้นแล้ว”

เฉินซีตกตะลึงอีกครั้ง เช่นนั้นมันก็หมายความว่าพลังธรรมเทพสี่พันดวงสามารถแลกสมบัติอมตะได้ชิ้นหนึ่งเชียวหรือ? ช่างเป็นมูลค่าที่น่าตกใจเสียจริง!

“จำได้ว่าเจ้านั่นมีสมบัติอมตะอีกสองชิ้น” ชายหนุ่มพลันนึกขึ้นได้ว่าแม้ตนเองจะชนะสมบัติอมตะสี่ชิ้นมาจากเวิ่นเทียนเซี่ยว สุดท้ายเขาก็ได้มาเพียงสองชิ้นเท่านั้น

“เขาเสียสมบัติอมตะทั้งสองชิ้นไปแล้ว” เถิงหลานว่า

“ถ้าอย่างนั้น หลังจากนั้นเขาก็ยังเสียพลังธรรมเทพทั้งแปดพันดวงไปอีกหรือ?” เฉินซีถึงกับพูดไม่ออก เจ้านี่มันชอบเสี่ยงเดิมพันเกินไปแล้วกระมัง? ผ่านไปไม่กี่วันกลับสร้างหนี้สินมหาศาลได้เช่นนี้

ไม่ว่าจะเดิมพันอะไรก็แพ้ทั้งสิ้น แต่ก็ยังเสพติดการเดิมพันไม่เลิกรา คงไม่มีใครชอบผีพนันเช่นเขาเป็นแน่

“เขาอยู่ที่ใด?” เฉินซีถามขึ้น

“อยู่ในที่พักแห่งเดียวกับที่เจ้าพักอยู่” เถิงหลานตอบ “ข้าเป็นคนไปรับเขากับเหยาลู่เวยตอนที่มาถึงเมืองนกนางแอ่นแดงเมื่อวานซืนนี้ ข้าจึงจัดหาที่พักให้พวกเขาด้วย”

เฉินซีพยักหน้ารับ เขาอยากจะกลับไปดูที่พักเพื่อดูสถานการณ์เสียหน่อย

“เจ้าอยากช่วยเขาหรือ?” เถิงหลานติดตามเฉินซีไป

“อย่างไรเราก็เดินทางมาด้วยกันสักพักใหญ่แล้ว จะปล่อยให้เขาตายคงไม่ได้หรอก” เฉินซีตอบโดยไม่ลังเล

“ข้าหวังดีเลยมาบอกเรื่องนี้กับเจ้า ไม่ให้เจ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว” เถิงหลานขมวดคิ้วบอก

“ทำไมเล่า?” เฉินซีหยุดเดินแล้วขมวดคิ้วถาม

เถิงหลานเงียบไปนาน ก่อนสีหน้าของเขาจะเผยเคร่งขรึมแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เหตุผลเรียบง่ายยิ่ง กองกำลังที่เขาไปเดิมพันด้วยแข็งแกร่งเกินไป หากเจ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว กระทั่งข้ายังช่วยอะไรได้ไม่มาก”

“ข้าแค่จะไปจ่ายหนี้ที่เขาติดไว้ มันก็แค่พลังธรรมเทพแปดพันดวงไม่ใช่หรือ? พอดีข้ามีสมบัติอมตะสองชิ้นจากเวิ่นเทียนเซี่ยว เลยจะเอามันไปจ่ายหนี้ให้เขาก่อน” เฉินซีพูดพร้อมกับยิ้ม

เถิงหลานเห็นแล้วก็รู้ว่าคงไม่สามารถโน้มน้าวอีกฝ่ายได้ จึงได้แต่แนะนำเจ้าตัวไป “จงจำไว้ว่าอย่าไปมีปัญหากับพวกนั้นเด็ดขาด เพราะหากมีการสังหารเกิดขึ้นในพิภพยันต์อักขระ ก็ไม่มีใครสนใจหรอก”

เฉินซีหรี่ตาพลางพยักหน้า และเขาก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ “พวกนั้นเป็นใครกันแน่?”

นัยน์ตาของเถิงหลานฉายแววเกลียดชัง เค้นคำออกมาว่า “ตระกูลหลัว”

ตระกูลหลัว!

เฉินซีชะงัก จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงประหลาดใจว่า “เหตุใดจึงเป็นตระกูลหลัวอีกแล้วเล่า?”

เขารู้ข้อมูลบางอย่างของตระกูลหลัวมาจากยายเฒ่าพันลักขี เฉินหยวน และปี้อินตอนกำลังเดินทางมายังเมืองนกนางแอ่นแดง ถึงจะเป็นข้อมูลทางเดียว แต่ก็ทำให้เขารู้ดีว่าตระกูลนี้มีความแข็งแกร่งระดับไหน

บรรพบุรุษตระกูลหลัวเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ที่สร้างพิภพยันต์อักขระขึ้นมา หรือก็คือบรรพบุรุษอสูรหลัวซางนั่นเอง และตอนนี้กองกำลังของตระกูลหลัวก็ควบคุมทั่วทั้งพิภพยันต์อักขระพร้อมกับตระกูลใหญ่อีกสามตระกูล!

“เจ้ารู้เรื่องตระกูลหลัวด้วยหรือ?” เถิงหลานดูประหลาดใจกว่าเฉินซี

“ระหว่างทางที่มาที่นี่ ข้าได้ยินผู้บ่มเพาะหลายคนพูดถึงเรื่องร่วมมือกับตระกูลหลัวเพื่อจัดการกับใครบางคน” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงสบายอารมณ์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]