บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 857

บทที่ 857 การเปลี่ยนแปลงของหม้อใบจิ๋ว

บทที่ 857 การเปลี่ยนแปลงของหม้อใบจิ๋ว

ร่างกายของเฉินซีสั่นสะท้าน ในขณะที่เขารู้สึกไม่เชื่อเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงทดสอบ “ผู้อาวุโส?”

เสียงนี้มาจากหม้อใบจิ๋วที่แขวนอยู่บนหน้าอกของเขาอย่างแน่นอน เป็นเสียงที่เคยได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนในอดีต ดังนั้นมันจึงคุ้นเคยจนแทบจะตราตรึงอยู่บนกระดูก

ซึ่งในวันนั้น ที่ด่านความลึกล้ำในเหวเงาทมิฬ หม้อใบจิ๋วได้ต่อสู้กับปิงซื่อเทียนเพื่อช่วยเหลือเขา จากนั้นมันก็ทำการฉีกมิติออกจากกัน และนำชายหนุ่มเข้าสู่นรกขุมที่เก้า

นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หม้อใบจิ๋วก็ตกอยู่ในความเงียบสนิท และมันก็ไม่กล่าวอะไรเลยแม้แต่คำเดียว

ในเวลานั้น เฉินซีได้พยายามสื่อสารกับหม้อใบจิ๋ว แต่ไม่ว่าจะพยายามมากสักเพียงใด มันก็ไร้ประโยชน์ แต่ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่าหม้อใบจิ๋วนั้นยังไม่ตาย และดูเหมือนว่ามันจะตกอยู่ในความเงียบอย่างแปลกประหลาด เนื่องจากมันใช้พลังมากเกินไป

หลังจากผ่านไปนาน หม้อใบจิ๋วได้แสดงสัญญาณของการตื่นขึ้นที่ชั้นเก้าของเจดีย์ต้าเหยี่ยน ดังนั้นเฉินซีจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?

“ผู้อาวุโส?” เฉินซีอดโพล่งออกมาอีกครั้งไม่ได้ เมื่อเห็นว่ามันไม่มีปฏิกิริยา

“หยุดตะโกนได้แล้ว! สวรรค์! หรือเจ้าไม่สังเกตเห็นว่าตอนนี้ข้าอ่อนแอมากแค่ไหน? เจ้าไม่คิดจะเตรียมสมบัติล้ำค่าให้ข้าได้เพลิดเพลินกับมันในตอนนี้เลยหรือ?” หม้อใบจิ๋วเรืองแสงและเริ่มสั่น ขณะที่มันแกว่งไกวไปมา

แต่น้ำเสียงของมันทำให้ชายหนุ่มตกตะลึง นี่ยังเป็นหม้อใบจิ๋วที่กล่าวห้วน ๆ ใบนั้นหรือไม่?

ความรู้สึกนี้ช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน!

มันเหมือนกับกำลังฟังคำบ่นของหญิงสาวปากเปราะเราะราย และทำให้เฉินซีสงสัยด้วยซ้ำว่า มีบางอย่างผิดปกติกับหม้อใบจิ๋วหรือไม่

“หยุดเหม่อได้แล้ว ไอ้หนูรีบไปตระเตรียมมาซะ อย่าให้ผู้อาวุโสต้องรอนาน เพราะมันเป็นการไม่เคารพอย่างยิ่ง!” หม้อใบจิ๋วยังคงพร่ำบ่น

เฉินซีหายใจเข้าลึก ๆ และหยิกแก้มของเขา เพื่อยืนยันว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา จากนั้นจึงกล่าวว่า “ผู้อาวุโส ท่านต้องการสิ่งใดหรือ?” ชายหนุ่มตั้งใจจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา

เพราะเขารู้สึกว่าที่หม้อใบจิ๋วกลายเป็นเช่นนี้ เป็นเพราะมันหมดพลังไปมาก ซึ่งเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะตำหนิตัวเอง เพราะถ้าไม่ใช่เพราะเขา หม้อใบจิ๋วคงไม่…โง่เง่าเช่นนี้

“โอ้ นั่นมันดวงแสงหมื่นสรรพสิ่งใช่หรือไม่? มอบสิ่งของที่อยู่ภายในนั้นให้ข้าสักสิบเจ็ดหรือสิบแปดชิ้นคงพอ แต่มันก็แทบจะไม่พอให้ข้าได้ฟื้นพลังเลย…” หม้อใบจิ๋วแกว่งไปมา ในขณะที่มันออกคำสั่ง

เฉินซีเดินไปข้างหน้า และใบหน้าของเขาก็มืดมนทันที เมื่อจิตสัมผัสเทพกวาดผ่านดวงแสงหมื่นสรรพสิ่ง เพราะไม่ว่าสมบัติชิ้นใดที่อยู่ในนั้น ล้วนต้องการพลังธรรมเทพอย่างน้อยหนึ่งแสนดวง และชิ้นที่สูงสุด ก็ต้องการพลังธรรมเทพกว่าหนึ่งล้านดวง!

นับประสาอะไรกับสมบัติสิบเจ็ดสิบแปดชิ้น พลังธรรมเทพทั้งหมดที่เขาครอบครองอยู่ สามารถแลกเปลี่ยนสมบัติได้เพียงสองชิ้นจากดวงแสงหมื่นสรรพสิ่งเท่านั้น และที่แลกได้ก็เป็นของมูลค่าต่ำที่สุดอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น โอสถที่เรียกว่า ‘โอสถวิญญาณหยกหยาดทอง’ ที่อยู่ภายในดวงแสงหมื่นสรรพสิ่ง ซึ่งมีค่าและหายากกว่าโอสถเซียน อีกทั้งยังเป็นสมบัติสำหรับการบ่มเพาะที่แม้แต่เซียนสวรรค์ยังใฝ่ฝันถึง มันสามารถควบแน่นและควบคุมพลังของกฎได้ ซึ่งต้องใช้พลังธรรมเทพหนึ่งแสนแปดหมื่นดวงในการแลกมัน

ส่วนอีกชิ้นคือจักรสะท้านเวหาแปดทิศ มันเป็นสมบัติอมตะระดับวิญญาณทมิฬที่มีพลังมหาศาล ซึ่งมีห้วงมิติแปดแห่งถูกเปิดขึ้นอยู่ในภายนั้นตามตำนานแปดเทพ และแต่ละห้วงมิติก็มีผลที่แตกต่างกัน อีกทั้งอานุภาพของมันก็ยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ ซึ่งต้องพลังใช้ธรรมเทพถึงสองแสนเจ็ดหมื่นดวงในการแลก จึงจะได้มันมา

ส่วนสมบัติชิ้นอื่นที่อยู่ข้างในก็เป็นเช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้เป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งเฉินซีไม่เคยเห็นหรือเคยได้ยินมาก่อน จึงทำให้จิตใจของเขาหวั่นไหวอย่างมาก แต่เมื่อชายหนุ่มเห็นจำนวนพลังธรรมเทพที่ต้องใช้ในการแลกเปลี่ยน เขาก็ได้สติทันที

เป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะจินตนาการว่าเจดีย์ต้าเหยี่ยนรวบรวมสมบัติศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มาจากที่ใด และเหตุใดพวกมันถึงมีจำนวนมากมายถึงเพียงนี้!!!

“เจ้าหนู หากเจ้ายังลังเลต่อไป ผู้อาวุโสคนนี้จะพบกับเจ้าในชาติหน้าเท่านั้น! เร็วเข้า อย่าได้ลังเลอย่างอิสตรี เจ้าไม่เคยได้ยินหรือว่าบุรุษนั้นต้องเด็ดขาด!?” หม้อใบจิ๋วเร่งเร้าเขาจากทางด้านข้างอย่างกระวนกระวายใจ

เฉินซีได้แต่ลอบถอนหายใจ ในขณะที่เขากัดฟันเพื่อแลกโอสถที่เรียกว่า ‘โอสถวิหคอมตะมังกรม่วงชั้นยอด’ ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับพลังธรรมเทพหนึ่งแสนสามหมื่นดวงออกมา เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หม้อใบจิ๋วก็ช่วยชายหนุ่มมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้นไม่ต้องกล่าวถึงการใช้พลังธรรมเทพนี้ เขาย่อมยินดีที่จะจ่ายในราคาที่สูงกว่านี้ด้วยซ้ำไป!

แต่เมื่อมอบโอสถให้แก่หม้อใบจิ๋ว ชายหนุ่มก็นึกบางอย่างขึ้นได้ และกล่าวว่า “ผู้อาวุโส ไม่ใช่ว่าท่านเคยกล่าวไว้ในอดีตว่าทุกสิ่งนั้นมีสมดุล และถ้าใครอยากได้บางสิ่งก็ต้องแลกเปลี่ยน ดังนั้นการทำเช่นนี้ มันจะไม่ขัดต่อเจตจำนงของท่านหรือ?”

เห็นได้ชัดว่าหม้อใบจิ๋วตกตะลึง จากนั้นมันก็กล่าวว่า “ไร้สาระ! แน่นอน คำพูดของผู้อาวุโสอย่างข้าถูกต้องเสมอ!” น้ำเสียงของหม้อใบจิ๋วมีร่องรอยแห่งความขุ่นเคืองจากความอับอาย

เฉินซีเพียงยิ้มและรีบมอบโอสถให้แก่อีกฝ่าย

กรุบ! กรุบ!

หม้อใบจิ๋วเรืองแสงและหยิบโอสถออกไป ก่อนที่จะมีเสียงเคี้ยวเล็ก ๆ เล็ดลอดออกมา หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ร่างกายของหม้อใบจิ๋วก็เต็มไปด้วยวงกลมสีเขียวและรัศมีแห่งสวรรค์ที่ขุ่นมัว ทำให้มันดูค่อนข้างสวยงาม

“โอ้ รสชาติของมันแทบไม่ได้เรื่องเลย น่าเสียดายที่มันเพียงพอแค่เติมเต็มซอกฟันของข้าเท่านั้น” หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หม้อใบจิ๋วก็ถอนหายใจด้วยความไม่พอใจ

“ผู้อาวุโส…” เฉินซีกล่าว

“เข้าใจแล้ว!” หม้อใบจิ๋วขัดจังหวะเขาด้วยความโกรธ “ที่ผ่านมาข้าก็ดีกับเจ้าไม่ใช่หรือ? บุรุษที่ดีต้องไม่ใจแคบสิ!”

แม้หม้อใบจิ๋วจะกล่าวเช่นนี้ แต่ก็ยังเอ่ยถามว่า “เจ้าต้องการให้ผู้อาวุโสคนนี้ทำสิ่งใด? ขอบอกไว้ก่อนว่าโอสถนั้นด้อยประสิทธิภาพเกินไป ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถทำสิ่งที่ยากเกินกำลังได้ แน่นอน ถ้าเจ้าให้สมบัติศักดิ์สิทธิ์แก่ข้ามากกว่านี้ เช่นนั้นเราค่อยคุยกันได้”

เฉินซีอดลอบถอนหายใจไม่ได้ เมื่อเขาได้ยินคำกล่าวเหล่านี้ ที่ฟังดูเหมือนมาจากพ่อค้าที่ไร้ศีลธรรม และนึกสงสัยขึ้นมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับหม้อใบจิ๋วกันแน่?

เพราะมันไม่มีสง่าราศีดุจผู้อาวุโสแม้แต่น้อย!

ในไม่ช้า ชายหนุ่มก็จัดลำดับความรู้สึกของเขาและกล่าวหลังจากที่ได้ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งแล้วว่า “ผู้อาวุโส ท่านก็คงสังเกตเห็นเช่นกัน ดูเหมือนว่าบันไดหินที่อยู่ข้างหน้าข้า จะไม่สามารถขึ้นไปได้ด้วยพลังที่ข้ามีอยู่ ท่านพอจะแนะนำข้าได้อย่างไรบ้าง”

ครั้งนี้ หม้อใบจิ๋วกลับนิ่งเงียบเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่ง และก็กินเวลาค่อนข้างนาน

เฉินซีตกตะลึง “หรือคำขอนี้จะเป็นเรื่องยากสำหรับผู้อาวุโส?”

“คำแนะนำของข้าก็คือ จงขึ้นไปด้วยตนเอง” จู่ ๆ หม้อใบจิ๋วก็กล่าวขึ้นมาแบบนั้น

เฉินซีประหลาดใจ “นั่นสินะ…ว่าแต่แค่นั้นหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]