บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 871

บทที่ 871 ฆ่าตัวตายชดใช้ความผิด

บทที่ 871 ฆ่าตัวตายชดใช้ความผิด

เสียงนั้นยังสะท้อนอยู่ในอากาศ ชายหนุ่มหล่อเหล่าสวมชุดขนนกแขนเสื้อกว้างรัดเข็มขัดหลวม ๆ ผู้นั้นก็เดินเข้ามาในห้องโถงช้า ๆ พร้อมกับถือพัดหยกลวดลายสีทองไว้ในมือ

เขาเชิดคางสูงพร้อมกับมุมปากยกยิ้ม จึงให้ความรู้สึกหยิ่งยโส สีหน้าดูไม่จริงจัง ไม่เหมือนกับกำลังเดินเข้ามาในห้องโถงใจกลางนิกายกระบี่เก้าเรืองรองเลยสักนิด เหมือนเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านตนเองอย่างไรอย่างนั้น

ยังมีกลุ่มชายหนุ่มหญิงสาวเดินตามหลังเขามาด้วย ทุกคนล้วนหัวเราะส่งเสียงดัง มีท่าทีเช่นเดียวกัน ไม่คิดจะยับยั้งตนเองสักนิด

เมื่อมองไปยังชายหนุ่มถือพัดหยกที่เดินนำกลุ่มคนเข้ามาแล้ว ประมุขนิกายกับผู้อาวุโสเลี่ยเผิงต่างพากันขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไร

ทั้งสองเพียงแต่ส่งกระแสปราณเพื่อบอกให้เฉินซีอดทนไปก่อน อย่าเพิ่งผลีผลามลงมือ เพราะการใจร้อนเพียงเล็กน้อยอาจทำแผนเสียได้

เฉินซีเองก็สังเกตเห็นคนกลุ่มนี้เช่นกัน เขาเพียงกวาดตามองดูก็รู้ได้ว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นลูกหลานเซียนเหมือนพวกหนานซิ่วชง เหวินเหรินเยี่ย และคนอื่น ๆ ถึงแม้ว่ารอบกายคนเหล่านี้จะมีพลังเซียนพลุ่งพล่านอยู่ แต่การบ่มเพาะก็อยู่แค่ขอบเขตเซียนปฐพีเท่านั้น

จิตสังหารในใจของเขายิ่งมากขึ้นเมื่อเห็นเช่นนี้ เขาไม่อาจจินตนาการได้ว่าเหตุใดหนึ่งในสิบนิกายเซียนอย่างนิกายกระบี่เก้าเรืองรองจะต้องยอมทนกับศิษย์เสเพลแห่งภพเซียนเหล่านี้ด้วย

ขนาดที่ว่าประมุขนิกายยังต้องฝืนทนกับคำสบประมาท!

“เจ้าคือเฉินซี?” ชายหนุ่มที่เดินนำมากวาดสายตามองรอบข้างก่อนจะมาหยุดอยู่ที่เฉินซี ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อยราวกับเจอเหยื่อ

“คุณชายเหมยตาดียิ่งนัก! นี่ก็คือศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นเยาว์ของนิกายกระบี่เก้าเรืองรองของข้าเลยทีเดียว ตอนนี้เขาได้ขึ้นเป็นผู้อาวุโสแล้ว ทั้งยังมีตำแหน่งเป็นปรมาจารย์สูงสุดแห่งยอดเขาจรัสตะวันตกด้วย” เฉินซียังไม่ทันได้พูด เลี่ยเผิงก็หัวเราะเสียงอบอุ่นแล้วแนะนำตัดหน้า “เฉินซี นี่คือเหมยชิงหยวนจากนิกายกระบี่เก้าเรืองรองแห่งภพเซียน คุณชายเหมยยังหนุ่มยังแน่นและมีอนาคตไกลนัก อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในภพเซียน”

ส่วนหนุ่มสาวที่อยู่ทางด้านหลังเหมยชิงหยวน เลี่ยเผิงไม่ได้แนะนำให้รู้จัก เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีฐานะด้อยกว่าเหมยชิงหยวน

“หึ! ตาแก่เลี่ยเผิง คุณชายผู้นี้ถามเจ้าหรือยัง?” เหมยชิงหยวนหน้าบึ้งตึงในทันใด ก่อนจะเหลือบมองผู้อาวุโสเลี่ยเผิงด้วยความไม่พอใจ เหมือนโทษว่าอีกฝ่ายจะพูดขัดทำไม

เลี่ยเผิงถึงกับชะงัก รู้สึกอับอายอยู่เล็กน้อย แต่สุดท้ายก็อดทนไว้

ชายหนุ่มหญิงสาวทั้งหลายพากันหัวเราะ มีสีหน้าเยาะเย้ยถากถาง ส่วนเหมยชิงหยวนก็มีสีหน้าพึงพอใจกับสีหน้าของเลี่ยเผิง

หากเป็นในภพเซียน พวกเขาคงไม่กล้าล่วงเกินผู้อาวุโสเช่นนี้ แต่นี่คือภพมนุษย์ มีหรือจะเป็นเช่นนั้น? ไม่เพียงเท่านั้น ท่าทีเย่อหยิ่งจองหองยิ่งหนักกว่าเก่าเมื่อก้าวเท้ามาสู่ภพมนุษย์

สุดท้ายแล้วทุกคนในภพเซียนก็คิดเช่นนี้ มองว่าภพมนุษย์เป็นเพียงโลกที่ต่ำกว่าไม่ควรค่าให้ใส่ใจ แต่ท่าทีของเหมยชิงหยวนและพรรคพวกนั้นดูจองหองกว่ามาก

เฉินซีขมวดคิ้วหนักยิ่งกว่าเก่าเมื่อเห็นเลี่ยเผิงถูกทำให้อับอายเช่นนั้น เขาเกือบจะเก็บจิตสังหารไว้ไม่มิดแล้ว

“บัดซบ! หูหนวกหรือไง? ศิษย์พี่เหมยผู้นี้ถามคำถามหรืออย่างไร? รีบคุกเข่าตอบศิษย์พี่ไปแต่โดยดี!” ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มร่างผอมสูงพลันเหลือบมองมาแล้วเห็นว่าเฉินซียังคงนิ่งเฉย จึงตวาดออกมา น้ำเสียงหยิ่งยโสเหมือนกำลังสั่งสอนลูกหลานตน

“ศิษย์พี่เกา สหายน้อยกลัวจนนิ่งไปแล้ว ยังจะไปโทษเขาอีก นิสัยไม่ดีเลย” หญิงสาวใบหน้างดงามคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน แต่กลับมีความเสียดสีอยู่ในที

“ฮ่า ๆ! หรือว่าศิษย์น้องหญิงจูจะรู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจ จนชอบสหายน้อยผู้นี้ขึ้นมาแล้ว? เหตุใดจึงเข้าข้างเขาได้? ข้าล่ะอิจฉาเสียจริง เช่นนี้ไม่ได้แล้ว ต้องแกล้งให้กลัวจนปัสสาวะราดไปเสียเลย ดูซิว่าเจ้าจะยังพูดช่วยเขาหรือไม่” ศิษย์พี่เกาหัวเราะลั่นออกมาอีกครั้ง เขากับศิษย์น้องหญิงจูกำลังใช้เฉินซีเป็นข้ออ้างเพื่อหยอกล้อกันเหมือนเป็นคู่รักท่ามกลางสายตาทุกคนในที่นี้ นับว่าเป็นการกระทำที่อวดดียิ่ง

“เอ๊ะ! ยังจะยืนนิ่งไม่ไหวติงอีก หรือคิดว่าคำพูดคุณชายผู้นี้เป็นลมเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาหรือ? คุกเข่าลง!” ศิษย์พี่เกามีสีหน้าไม่พอใจทันทีเมื่อเห็นว่าเฉินซียังยืนนิ่ง เขาก้าวยาว ๆ เข้ามาแล้วยกขาถีบที่หัวเข่าเฉินซีเพื่อบังคับให้อีกฝ่ายคุกเข่าลง

ลูกถีบนี้นับว่ารุนแรงและรวดเร็วยิ่ง ดุจแส้ที่ตวัดฟาดออกมาอย่างรวดเร็ว โหดเหี้ยม และแม่นยำ มันไม่ใช่เพียงแต่เป็นการโอ้อวดเท่านั้น และหากลงมือจริง แม้กระทั่งสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ขั้นสูงก็ยังแตกสลายได้

หนุ่มสาวคนอื่น ๆ เห็นภาพนี้ก็รู้สึกตื่นเต้น คล้ายกำลังเฝ้าคอยการแสดงที่กำลังเกิดขึ้น

ตู้ม!

แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อขาของศิษย์พี่เกายังไม่ทันต้องตัวของเฉินซีด้วยซ้ำ แต่ประมุขนิกายกลับสะบัดแขนเสื้อคราวเดียวก็ปัดมันออกไปเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดี

เฉินซีรู้สึกผิดหวังอยู่เล็กน้อย ตัวเขาเตรียมหักขาแล้วบดขยี้อีกฝ่ายในการโจมตีครั้งเดียวไว้แล้วแท้ ๆ น่าเสียดายที่เวินหัวถิงมาหยุดกลางคันเช่นนี้

“ตาแก่เวิน! กล้าหยุดคุณชายผู้นี้รึ?!” ศิษย์พี่เกาสีหน้าไม่ดีเมื่อโจมตีไม่สำเร็จ ชี้นิ้วใส่เวินหัวถิงแล้วก่นด่าด้วยท่าทีผยองยิ่ง

ตอนนี้ สีหน้าของเวินหัวถิงที่ปกติมักจะอบอุ่นได้ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นมืดมน บนหน้าผากเห็นเส้นเลือดเต้นตุบ แต่สุดท้ายเขาก็ยับยั้งตนเองไว้ได้ “คุณชายเกาใจเย็นลงก่อน อย่างไรเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันเลยนี่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]