บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 893

บทที่ 893 เกียรติยศแห่งซางจือ

บทที่ 893 เกียรติยศแห่งซางจือ

หุ่นวิญญาณศึกที่มีกลิ่นอายอันเยือกเย็นและอาฆาต กำลังยืนอยู่บนแท่นบวงทรวงที่สูงราวพันจั้ง มันมีรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ตัวเป็น ๆ จนคนธรรมดามิอาจแยกแยะมันได้หากมองจากภายนอก

“พลังต่อสู้ของชายคนนี้อาจเหนือล้ำกว่าคนอื่น ๆ ในเผ่าช่างฝีมือวิญญาณทั้งหมดในตอนนั้น…” เฉินซีดูจะกำลังครุ่นคิด

ในขณะเดียวกัน อาซิ่วได้เปิดกล่องที่คล้ายกับทำมาจากหยก ซึ่งอันที่จริง นางได้ดึงหุ่นรบตัวเล็กสีขาวหยกที่มีขนาดเท่าฝ่ามือออกมา หลังจากพิจารณาอยู่ชั่วครู่ หญิงสาวพลันอุทานด้วยความประหลาดใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “คัมภีร์จักรพรรดิแห่งการควบคุม! โอ้ นี่คือมรดกสูงสุดของเผ่าช่างฝีมือวิญญาณ ซึ่งประกอบด้วยมรดกเต๋าของการสร้างหุ่นวิญญาณศึก เหตุใดจึงถูกทิ้งไว้ที่นี่กัน?”

“มรดกสูงสุดของเผ่าช่างฝีมือวิญญาณ?” ความสนใจของเฉินซีถูกดึงดูดไปทันที เขาเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นว่าหุ่นรบตัวเล็กมีท่าทางเคร่งขรึม โครงหน้าของมันพร่ามัวไปหมด แต่พื้นผิวของมันถูกจารึกด้วยลวดลายนับไม่ถ้วน และเพียงแวบเดียว เขาก็เห็นพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือ แม้ว่ามันจะผ่านกาลเวลามานับไม่ถ้วน หุ่นรบตัวเล็กตัวนี้ยังคงเป็นสีขาวหยกและแวววาว ไม่มีมลทินจากฝุ่นผงหรือสิ่งสกปรกใด ๆ ทั้งยังเปล่งกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ออกมา

“ใช่แล้ว มันคือคัมภีร์จักรพรรดิแห่งการควบคุม อีกทั้งตราประทับจิตวิญญาณภายในตัวมันก็ยังคงอยู่ รวมถึงเก้าขั้นตอนในการสร้างหุ่นวิญญาณศึก เรียกได้ว่ากว้างใหญ่ราวกับมหาสมุทรเลยทีเดียว” อาซิ่วเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ “ไม่นึกเลย ไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าเราจะพบขุมทรัพย์อันยิ่งใหญ่โดยบังเอิญเช่นนี้้”

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “สิ่งนี้มีค่ามากเลยหรือ?”

อาซิ่วพยักหน้าหงึกหงัก ในขณะที่ดวงตาของนางเป็นประกาย “ล้ำค่าสิ มันย่อมล้ำค่ามาก นี่เป็นสิ่งพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในภพทั้งสาม ดังนั้นมันจะไม่ใช่สมบัติล้ำค่าได้อย่างไรกัน?”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ นางก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อยพลางเม้มปาก “แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถทำความเข้าใจเคล็ดวิชาภายในนั้นได้ มิฉะนั้น ข้าจะต้องประสบกับความหายนะ หากข้าถูกค้นพบ”

เฉินซีตกตะลึง แต่เขาย่อมเข้าใจในสิ่งที่อาซิ่วกล่าว มรดกเต๋าเช่นนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากเต๋าแห่งสวรรค์ และถูกขับออกจากภพทั้งสามเมื่อนานมาแล้ว เมื่อมันปรากฏในสามภพ ผลที่ตามมาก็ยากจะหยั่งรู้ได้

แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งต้องห้ามสำหรับเฉินซี ถึงอย่างไร เขาก็ถูกเต๋าแห่งสวรรค์มองว่าเป็น ‘สิ่งแปลกปลอม’ และแม้แต่ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของเขาก็ไม่สามารถเปิดเผยต่อหน้าผู้คนได้

ตัวอย่างเช่น ระเบียนแดนมรณะ พู่กันพิพากษามาร กระบี่เต๋าวิบัติ ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก และอื่น ๆ เป็นต้น

พวกมันทั้งหมดเป็นสิ่งต้องห้ามที่จะทำให้เขาประสบกับหายนะแห่งความตาย หากข่าวของพวกมันถูกเปิดเผยออกไป

“ขอข้าดูหน่อย” เฉินซีเอื้อมมือจับหุ่นรบตัวน้อย เมื่อสัมผัสกับผิวของมัน เขาพลันรู้สึกเย็นเยียบและชื้นแฉะ เมื่อจิตสัมผัสเทพของชายหนุ่มเข้าไปในนั้น ตัวคนดูจะหลุดเข้าไปในโลกที่กว้างใหญ่ทันที

โลกนี้เต็มไปด้วยหุ่นวิญญาณศึกทุกรูปร่างและขนาด มันมีมากกว่าหนึ่งหมื่นชนิด รวมถึงรูปร่างของมนุษย์ สัตว์ร้าย ปีศาจ และแม้แต่หุ่นรบรูปร่างแปลกประหลาด เช่น รูปร่างของต้นไม้ ดอกไม้ ดาบ หอก กระบี่ และอื่น ๆ พวกมันได้รวบรวมทุกอย่างในโลกไว้ด้วยกัน และมันได้เปิดโลกทัศน์ของชายหนุ่มให้กว้างขึ้น

หุ่นวิญญาณศึกเหล่านี้ไม่มีอยู่จริง พวกมันได้ก่อตัวขึ้นจากเชือกจำนวนมากที่พันเข้าด้วยกัน และเฉินซีก็สามารถมองเห็นความลึกซึ้งที่อยู่ภายในนั้นได้อย่างชัดเจน

ยิ่งกว่านั้น หุ่นวิญญาณศึกแต่ละตัวก็มีแถวข้อความอธิบายอยู่บนตัวพวกมัน คำอธิบายเหล่านี้ระบุวัตถุวิญญาณที่ใช้ วิธีการหลอมกลั่น และเคล็ดวิชาลับอันน่าอัศจรรย์อื่น ๆ อีกมากมาย

เฉินซีพยายามสร้างความเชื่อมโยงกับหนึ่งในหุ่นวิญญาณศึก และคำที่คลุมเครืออย่างยิ่งก็ปรากฏขึ้นในใจเขาทันที ทำให้ชายหนุ่มเข้าใจถึงการวิธีการสร้างหุ่นวิญญาณศึกนี้

เมื่อมาถึงจุดนี้ ในที่สุดเขาก็เชื่ออย่างสนิทใจแล้วว่า สิ่งนี้คือมรดกของเผ่าช่างฝีมือวิญญาณ มิฉะนั้น มันคงไม่มีมรดกเต๋าและเคล็ดวิชาที่สมบูรณ์เช่นนี้อย่างแน่นอน

เฉินซีถอนญาณเทวะอมตะของเขา และสังเกตเห็นคำว่า ‘ทักษะฝีมือพิเศษของช่างฝีมือวิญญาณ’ ที่ด้านหลังของหุ่นรบตัวเล็กที่เขียนด้วยลายมือที่ไม่ชัดเจน

“สมบัติตกทอดหรือ? ดูเหมือนว่าการที่ผู้เยี่ยมยุทธ์ต่างพิภพบุกรุกแคว้นต้าเยี่ยน จะต้องเป็นเพราะสิ่งของชิ้นเล็กชิ้นนี้อย่างแน่นอน” ชายหนุ่มดูจะหลงทางในความคิด

“พวกเจ้าเป็นใครกัน! เจ้ากล้าบุกรุกเข้าไปในเขตหวงห้ามของตระกูลข้าได้อย่างไร!?” ในขณะนี้ เสียงตะโกนที่เย็นยะเยือกและน่ากลัวได้ระเบิดออกมาราวกับเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่น

เฉินซีหันกลับมาอย่างรวดเร็ว และพบว่าหุ่นวิญญาณศึกที่อยู่ทางด้านข้างของแท่นหินปูนซึ่งสวมชุดเกราะและหมวกสีดำพลันเปิดตาที่ปิดแน่นขึ้น!

ดวงตานี้คือสิ่งอันใดกัน?

มันทั้งดำสนิท เย็นยะเยือก ลึกดุจหุบเหว และดุร้ายเหมือนคมดาบ พวกมันฉายประกายอำมหิตและเย็นเยียบออกมา ซึ่งดูจะสามารถตัดวิญญาณของคนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้

ดวงตาของเฉินซีหรี่ลง เนื่องจากเขารู้สึกถึงแรงกดดันจากหุ่นวิญญาณศึกตัวนี้!

“ฮ่า ๆ! ในที่สุดก็มีสมบัติที่สามารถยึดได้! เฮ้ ทดสอบพลังต่อสู้ของมันซะ จากการสังเกตของข้า มันน่าจะมีฝีมือไม่เลว” ท่าทางของอาซิ่วราวกับพบขุมทรัพย์อันยิ่งใหญ่ และดวงตาของนางได้เปล่งประกายอย่างมาก ขณะที่หญิงสาวกระโดดหลบไปด้านข้าง

“เกียรติยศแห่งซางจือ ไม่อาจยอมให้เสื่อมเสีย!” หุ่นวิญญาณศึกที่เรียกตัวเองว่า ‘ซางจือ’ ตะโกนด้วยเสียงเย็นยะเยือก

ชั่วพริบตาต่อมา หอกที่ยาวราวสิบสี่ฉื่อในมือได้ส่งเสียงดังก้อง เพียงแค่ยกมือขึ้นก็ทำให้ความว่างเปล่าสั่นไหวจนระเบิด และคลื่นอากาศกระจายตัวออกไป

ตู้ม!

‘ซางจือ’ กระทืบพื้น ก่อนที่หอกของเขาจะสั่นสะเทือนและกลายเป็นแสงสีเขียวปกคลุมท้องฟ้า มันเหมือนกับดอกสาลี่ที่บานสะพรั่งท่ามกลางพายุ ซึ่งมีกลิ่นอายรุนแรงของการทำลายล้างยุคสมัยและทะลวงผ่านบันทึกประวัติศาสตร์เมื่อมันระเบิดใส่เฉินซี

ทันใดนั้น ทัศนวิสัยของเฉินซีถูกปกคลุมด้วยเงาหอกที่แพรวพราวและเปล่งประกาย ทำให้ผิวหนังของชายหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกทิ่มแทง และนอกจากทำให้เขาตกตะลึงในใจแล้ว ชายหนุ่มยังชักกระบี่ยันต์ศัสตราออกมาโดยสัญชาตญาณ จากนั้นกระบี่ของเขาก็หมุนวนราวกับน้ำตกมหึมาที่ถาโถมลงมา

โครม!

การโจมตีของทั้งสองฝ่ายปะทะกันราวกับดาวสองดวงกระแทกเข้าใส่กันอย่างดุเดือด ทำให้เกิดแสงเจิดจ้าสาดส่องไปทั่วทุกทิศทาง ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบแตกเป็นเสี่ยง ๆ และแท่นบวงสรวงที่สูงราวพันจั้งที่อยู่ข้างใต้ก็พังทลายลงทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]