บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 903

บทที่ 903 ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้ถึงตาย

บทที่ 903 ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้ถึงตาย

ขณะนั้นเอง คล้ายกับว่าเวลาได้ถูกหน่วง

ภาพที่เหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟของไป๋หง ทำให้ทั้งมู่ขุย เหมิงเหวย โม่ย่า และหนุ่มสาวจากเผ่านรกขุมที่เก้าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกนับถือในตัวหญิงสาว

การยืนหยัดบนเส้นทางแห่งเต๋าอย่างมั่นคง โดยไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดตราบชั่วชีวิต ช่างเป็นภาพที่ชวนให้ต้องตกตะลึง แน่นอนว่าพวกเขาเข้าใจและรับรู้ถึงจิตวิญญาณที่แน่วแน่เช่นนี้เป็นอย่างดี!

มันเป็นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์หรือระดับการบ่มเพาะ!

แม้เฉินซีจะคาดการณ์ไว้แล้วว่าสิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความชื่นชมในใจ ความมุ่งมั่นอันแสนลึกล้ำที่ฝังแน่นในจิตวิญญาณของศิษย์ตระกูลไป๋นี้… ทำให้แม้แต่ศัตรูยังต้องนับถือสดุดี!

ไป๋หงไม่ได้คาดหวังถึงเสียงสรรเสริญ นางเพียงต้องการปกป้องดวงจิตแห่งเต๋าของตนเท่านั้น แม้สุดท้าย มันจะแลกมาด้วยความตายก็ตาม!

อย่างไรก็ดี นางไม่ได้ปะทะเข้ากับการโจมตีที่รุนแรงดั่งพายุนั่นโดยตรง ส่งผลให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงหยดเลือดสีแดงที่ไหลออกมาจากหว่างคิ้ว

นั่นเป็นอาการบาดเจ็บที่เกิดจากปราณกระบี่ เนื่องจากกระบี่แดนนิพพานที่เปล่งกระกายแสงสีเทาราง ๆ หยุดห่างจากนางเพียงหนึ่งฉื่อเท่านั้น มันนิ่งค้างอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสลายไปราวหิมะที่ละลายในนที

อัก!

หลิงไป๋ที่อยู่ห่างออกไปกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ใบหน้าที่สลักเสลาหาใดเปรียบของเขากลายเป็นซีดเผือดไม่ต่างจากภูตผี การดึงพลังสังหารจากปราณกระบี่แดนนิพพาน ทำให้เขาได้รับผลสะท้อนกลับ!

อย่างไรเสีย พลังโจมตีนี้ก็น่ากลัวเกินไป การจะหยุดยั้งมันในทันทีจึงเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง

“ทำไมถึง…” ไป๋หงถามทั้งที่สายตาเหม่อลอย หยดเลือดจากหว่างคิ้วไหลลงมาตามโคนจมูกลงไปถึงริมฝีปาก ความเค็มเจือรสคาวแผ่ซ่านไปทั่วเรียวลิ้น

“เพราะข้านับถือเจ้า แน่นอน อย่างไรเจ้าก็มิใช่ศัตรูคู่อาฆาตของข้า” หลิงไป๋เช็ดมุมปากที่เปื้อนเลือด เขากลับมามีท่าทางที่องอาจอีกครั้ง

“เป็นเช่นนั้น…” ไป๋หงพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะโยนกระบี่แต้มโลหิตในมือให้อีกฝ่าย “ข้าก็ยอมรับเจ้าเช่นกัน”

“เหตุใด?” คราวนี้หลิงไป๋กลายเป็นคนที่งุนงงแทน

“ข้าไม่คิดจะติดหนี้บุญคุณใคร” ไป๋หงตอบ นางหันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เส้มผมสีขาวพลิ้วไหวดั่งม่านน้ำตก “มันมีชื่อว่ากระบี่แต้มโลหิต เนื่องจากมันอาบชโลมไปด้วยเลือดของยอดฝีมือทั้งหลาย ข้าหวังว่าเจ้าจะดูแลมันได้ดี”

เสียงของนางค่อย ๆ ไกลออกไปพร้อมกับร่างที่เริ่มลับหายไปจากสายตา

“เป็นสตรีที่พิลึกคนแท้” หลิงไป๋ส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเก็บกระบี่แต้มโลหิตขึ้นมา จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปหาเฉินซี “นี่ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดไปใช่หรือไม่”

“ไม่เลย” เฉินซีตบไหล่อีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม

หลิงไป๋ไม่ได้ทำอะไรผิดแม้แต่น้อย เขาเองก็เพิ่งพูดกับอาหมานไปไม่นานว่าคู่ต่อสู้เช่นนี้คู่ควรแก่การนับถือ

มู่ขุยและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกชื่นชมต่อการกระทำของหลิงไป๋อย่างมาก บางครั้ง ความสง่างามที่มาจากการต่อสู้อย่างยุติธรรมก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริง!

จึงเห็นได้จากสิ่งนี้ว่า ความสง่างามของหลิงไป๋มิได้ยึดโยงอยู่กับการที่เขาได้ฆ่าใคร หรือฆ่ามาแล้วกี่คน

ส่วนสีหน้าของไป๋เจวี้ยนและไป๋ฉวินที่อยู่อีกด้านหนึ่งไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะไป๋เจวี้ยน ดวงตาที่เหมือนดอกท้อของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะขณะที่มองไปยังทิศทางที่ไป๋หงจากไป

ก่อนหน้านี้ เขาได้กำชับนางไปแล้วว่าจะต้องเคลื่อนไหวอย่างสุดความสามารถ อย่าได้สนใจว่าจะมีชีวิตรอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งนั่นถือเป็นคำสั่งเด็ดขาดจากผู้อาวุโส

ทว่าหญิงสาวในตอนนี้ไม่เพียงจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง แต่ยังมอบว่าอาวุธล้ำค่าที่สืบทอดกันภายในตระกูลให้กับคู่ต่อสู้หลังจากเผชิญความพ่ายแพ้ อย่างนี้ไม่ให้เรียกว่าเป็นการตบหน้าผู้อาวุโสอย่างแรงได้หรือ!

“บัดซบ! นี่นางลืมไปแล้วหรือไรว่าตัวเองเป็นใคร? ยิ่งทำเช่นนี้ มีแต่จะทำให้ผู้อาวุโสมองนางเป็นคนทรยศ ผลที่ตามมามันแย่เสียยิ่งกว่าแย่!” สีหน้าของไป๋เจวี้ยนเขียวคล้ำในขณะที่ปล่อยจิตสังหารอันบ้าคลั่งออกมา

เขารู้แก่ใจว่าคนใหญ่คนโตในตระกูลกำลังจับจ้องมาที่พวกเขาจากภายในเงามืด การตัดสินใจก่อนหน้านี้ของไป๋หงไม่แน่ว่าอาจทำให้การตัดสินใจของคนในตระกูลต้องสั่นคลอน

และหากเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น ความตั้งใจที่จะกำจัดเฉินซีของพวกเขาก็มีแต่จะเป็นไปได้ยากมากขึ้น…

…ทุกอย่างเป็นไปดังที่ไป๋เจวี้ยนคาดการณ์ไว้ หลังจากไป๋จิงเฉินซึ่งนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาก็หัวเราะลั่นจนเกือบลืมชามในมือ

ทว่าหลังจากหัวเราะไปครู่หนึ่ง เจ้าตัวก็หุบยิ้มและออกคำสั่ง “นำตัวไป๋หงมาพบข้า ตอนนี้นางไม่มีกระบี่แล้วสินะ เช่นนั้นก็จงมอบกระบี่หยาดหิมะของข้าให้แก่นางเสีย!”

ชายชราท่าทางธรรมดาผู้หนึ่งเดินออกมาจากเงามืดภายในห้องโถง เขาคำนับให้ไป๋จิงเฉินครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในเงาเงียบ ๆ

“เห็นที ดวงตาของพี่ใหญ่ข้าในตอนนี้คงจะแดงก่ำไปด้วยความโกรธเสียแล้ว” ไป๋จิงเฉินดูจะนึกบางอย่างออก สิ่งนั้นทำให้เขาต้องหัวเราะลั่นอีกครั้ง และคราวนี้เสียงของเขาก็ดังสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งห้องโถง

ภายในห้องพักหนึ่งซึ่งถูกตกแต่งอย่างวิจิตร ผู้อาวุโสระดับสูงไป๋เฉิงกำลังโกรธจัด ใบหน้าของอีกฝ่ายมีรอยเคร่งเครียดอันยากสลัดออก การกระทำของไป๋หงทำให้เขาผิดหวังอย่างยิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]