บทที่ 910 สาหัสในหมัดเดียว
บทที่ 910 สาหัสในหมัดเดียว
หมัดนี้ได้ปลดปล่อยลมพายุมหึมา มันทั้งดูเรียบง่ายและธรรมดายิ่ง
ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากัน เฉินซีกลับจนปัญญาจะต้านทาน เขารู้สึกราวกับตนเองอ่อนแอและเล็กจ้อยไม่ต่างจากมด…
ตอนนั้นเอง เฉินซีกัดปลายลิ้นเพื่อเรียกสติ จิตใจของเขาฟื้นจากความสั่นกลัว ขณะสัมผัสได้ว่า ดวงจิตแห่งเต๋าของตนกำลังถูกอำนาจของหมัดนี้ทำให้หวาดกลัวจนเกือบจะแตกสลาย!
ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา เมื่อหมัดนี้มาถึงใบหน้าของเฉินซี ชายหนุ่มพลันเอี้ยวหลบโดยสัญชาตญาณ และวาดวงแขนดั่งคันธนูที่ถูกง้างอย่างเต็มกำลัง ก่อนจะออกหมัดชกสวนกลับไปที่ข้อมือของฝ่ายตรงข้าม
แต่จู่ ๆ หมัดนั้นก็หายวับไปในอากาศ ทำให้เฉินซีโจมตีได้เพียงความว่างเปล่า และเนื่องจากหมัดของชายหนุ่มไม่ได้ปะทะสิ่งใด เลือดลมที่ไหลเวียนบริเวณฝ่ามือจึงสูบฉีดอย่างรุนแรง ทำให้เฉินซีเกือบจะยับยั้งพลังเอาไว้ไม่ได้
“หึ ไม่เลว! การบ่มเพาะพลังดวงใจของเจ้ามาถึงขอบเขตวิญญาณดวงใจแล้ว” เสียงของไป๋จิงเฉินดังขึ้นภายในโถง
เฉินซีหัวเราะอย่างขมขื่น พลางส่ายหน้าระรัว
เขารู้ว่าถ้าไป๋จิงเฉินเอาจริง พลังที่ปลดปล่อยออกมาจากหมัดนี้ย่อมสามารถบดขยี้ตัวเขาให้แหลกสลาย และการที่เหวี่ยงหมัดออกไปต้านนั้น ก็อาจทำให้แขนของเขาต้องพิการไปตลอดชีวิต
“ในแดนภวังค์ทมิฬ มีผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีเพียงไม่กี่คนที่สามารถหลบหมัดของข้าได้” ไป๋จิงเฉินหัวเราะร่าพลางตบไหล่ของเฉินซีด้วยแรงที่เหมือนกับมีภูเขาลูกโตกดทับลงมา ทำเอาข้อต่อของชายหนุ่มเกือบจะหลุดอยู่ร่อมร่อ
สิ่งนี้ทำให้เฉินซีตกตะลึงไม่น้อย นี่ไป๋จิงเฉินบ่มเพาะมาอย่างไรกัน?
“มาเถอะ ไปที่ลานฝึกกัน หากเจ้ารับกระบวนท่าได้ครบสามฝ่ามือ ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะใกล้รับมือกับปิงซื่อเทียนได้” ไป๋จิงเฉินมาเร็วไปเร็วราวสายฟ้า เสียงของเขายังลอยอยู่กลางอากาศแม้ว่าร่างจะไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครสังเกตเห็นทันตั้งแต่ต้นจนจบว่าเขาเข้ามาและจากไปอย่างไร
มันไม่ใช่การเคลื่อนย้ายระยะไกล แต่เป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นมาก!
…
ณ ลานฝึก
เสียงอื้ออึงของศิษย์ตระกูลไป๋ดังระงมไปทั่วทั้งบริเวณ พวกเขามารวมตัวกันที่นี่หลังจากได้ยินข่าว โดยในหมู่พวกเขามีไป๋หงผู้มีเส้นผมสีขาวราวหิมะ ไป๋เจวี้ยนผู้มีดวงตารูปดอกท้อ และไป๋ฉวิน ชายรูปร่างอ้วนเตี้ยรวมอยู่ด้วย…
หากกล่าวว่าศิษย์ตระกูลไป๋ทุกคนที่อยู่ในหุบเขาวีรบุรุษมารวมตัวกันที่นี่จนหมดก็ไม่นับว่าผิดนัก จำนวนที่มากมายของพวกเขากินพื้นที่เกือบทั้งหมดของลานฝึก
ณ มุมหนึ่งของลานฝึก หลิงไป๋ มู่ขุย ซางจือ เหมิงเหวย โม่ย่า และคนอื่น ๆ ก็มารวมตัวด้วยเช่นกัน แม้แต่ไป๋กู้หนาน ซีซี ไป๋หว่านฉิงก็ยืนรวมอยู่กับพวกเขา
เหตุผลที่คนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันที่นี่นั้น แท้จริงแล้วง่ายมาก นั่นก็เพราะนี่เป็นการประลองที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าจะพลาดไปได้
ด้านหนึ่งคือผู้นำตะกูลไป๋ ไป๋จิงเฉิน ชายผู้แข็งแกร่งเกินหยั่งถึง เมื่อหลายปีก่อนเขาเที่ยวท่องไปทั่วทั้งแดนดิน บุกเข้าไปในพื้นที่ของคนต่างพิภพ สร้างชื่อเสียงขจรขจายไปทั่ว และเพิ่งกลับมาอยู่ในตระกูลอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนจะค่อย ๆ ถอนตัวจากสายตาของผู้คน
แม้ว่าเขาจะใช้ชีวิตอย่างสันโดษ แต่ชายผู้นี้ก็ผ่านการต่อสู้มามาก อย่างน้อยที่สุด ในความทรงจำของคนตระกูลไป๋ ผู้นำตระกูลคนนี้น่าจะสำแดงฝีมือมาเป็นเวลากว่าสองสามร้อยปีแล้ว
ในขณะที่อีกฟากหนึ่งคือเฉินซี ยอดอัจฉริยะผู้ไม่มีใครเทียบได้ ชื่อเสียงของเขาเป็นที่เลื่องลือในโลกมาอย่างยาวนาน ทั้งยังสร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้คนในแดนภวังค์ทมิฬด้วยการสังหารผู้เยี่ยมยุทธ์ของเขตเซียนปฐพีระดับหกขณะที่ตัวเองยังอยู่ในขอบเขตสถิตกายา
นอกจากนี้ ชายหนุ่มยังสามารถเอาชนะทั้งไป๋เจวี้ยนและไป๋ฉวินมาได้เมื่อวานนี้เอง ทำให้เขาได้รับการยอมรับจากตระกูลไป๋
กล่าวโดยสรุปแล้ว ด้านหนึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงเมื่อนานมาแล้ว ส่วนอีกด้านเป็นชายหนุ่มซึ่งกำลังเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ที่แผดเผายามเที่ยงวัน แล้วอย่างนี้ ใครจะกล้าพลาดการประชันฝีมือระหว่างคนทั้งสอง?
“ไอ้พวกบัดซบเอ๊ย! จงเบิ่งตาให้กว้างและตั้งใจดูเข้าไว้ ท่านผู้นำตระกูลจะใช้เพียงสามฝ่ามือเท่านั้น หากพวกเจ้าได้เรียนรู้จากการต่อสู้ครั้งนี้แม้เพียงเล็กน้อย ก็นับว่าเป็นประโยชน์ไปชั่วชีวิตแล้ว!” ไป๋ทั่วตะโกนลั่น คล้ายกำลังสอนเด็ก ๆ ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า
ไป๋กู้หนานเห็นท่าทางของอีกฝ่ายก็นึกขันอยู่ไม่น้อย “ความอึดถึกทนของเจ้านี่น่ากลัวจริง ๆ เมื่อวานเพิ่งจะถูกอาหมานตะปบหน้าไปแท้ ๆ แต่วันนี้กลับดูมีชีวิตชีวาแล้ว” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
อาหมานหัวเราะเบา ๆ พลางเกาหัวแก้เก้อ
“นี่ พวกเจ้าคิดว่าเฉินซีจะสามารถต้านทานฝ่ามือทั้งสามจากท่านผู้นำตระกูลได้หรือไม่? ข้าหวังว่าเขาจะไม่ล้มภายในหมัดเดียวนะ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่คุ้มค่าที่จะดูเท่าไหร่” ชายคนหนึ่งพูดด้วยเสียงใส
“ใช่ ๆ เจ้าคนที่คุยโวว่าผู้อาวุโสแห่งนิกายอสูรวสันต์ยมโลกก็เคยมาหาเรื่องเมื่อหลายปีก่อนแล้วไม่ใช่หรือ? สุดท้าย อีกฝ่ายก็กระเด็นออกไปแทบจะในทันทีที่ท่านผู้นำตระกูลดีดนิ้วเพียงครั้งเดียวกระมัง ไม่ว่าเฉินซีจะน่าเกรงขามมากเพียงไหน เขาก็เป็นแค่ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีเท่านั้น เกรงว่าแม้แต่ฝ่ามือเดียว เขาก็คงต้านทานไว้ไม่ได้”
“มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่พวกเจ้าคิดก็ได้ ด้วยฐานะของท่านผู้นำตระกูล เขาไม่มีทางทำเช่นนั้น อย่างไรเสีย เฉินซีก็เป็นแขกของตระกูลไป๋ของเรา ด้วยเหตุนี้ ท่านผู้นำตระกูลคงไม่กล้าทำเรื่องผิดมารยาทเป็นแน่”
“ถูกต้อง ทั้งระดับการบ่มเพาะและความแข็งแกร่งระหว่างท่านผู้นำตระกูลและเฉินซีนั้นไม่เท่ากัน เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ท่านผู้นำย่อมยั้งมือไว้ในระดับหนึ่ง ถึงอย่างนั้น ข้าก็ยังสงสัยว่าเฉินซีจะสามารถทนแรงหมัดทั้งสามครั้งของท่านได้จริง ๆ น่ะหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...