บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 917

บทที่ 917 ก้าวหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

บทที่ 917 ก้าวหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

ท่ามกลางการจ้องมองด้วยสายตาประหลาดใจมากมาย เฉินซีนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้เมฆทัณฑ์สวรรค์ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ราวกับหลวงจีนชรากำลังทำสมาธิ

เขาดูราวกับมองว่าทัณฑ์สวรรค์เป็นเพียงความว่างเปล่า และยิ่งดูหยิ่งยโสมากขึ้น เมื่อท่าทางในขณะนี้ราวกับกำลังท้าทายมันโดยตรง!

ไม่ต้องพูดถึงศิษย์ทุกคนที่อยู่ที่นี่ มันย่อมไม่มีใครเคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แม้แต่เวินหัวถิงและผู้อาวุโสระดับสูงคนอื่น ๆ ก็ไม่เคยได้ยินหรือเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้เช่นกัน

ดังนั้นการกระทำของเฉินซีในยามนี้จึงดูราวกับผู้มีอำนาจในสายตาของทุกคน

เฉียบขาด!

ตลอดหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน คงมีเพียงไม่กี่คนในโลกที่กล้าเพิกเฉยต่อทัณฑ์สวรรค์เช่นนี้

ครืน!

ก่อนที่ทุกคนจะถอนหายใจจบ สายฟ้าหลากสีและสวยงามจำนวนมากได้พุ่งออกมาจากภายในเมฆทัณฑ์สวรรค์เหนือท้องฟ้า แดง ส้ม เหลือง เขียว น้ำเงิน คราม ม่วง ตามสีของสายรุ้ง ดูงดงามและชวนฝันยิ่ง แต่อานุภาพของพวกมันก็น่าสะพรึงกลัวเช่นกัน

นี่คือแว่นฟ้าทัณฑ์สวรรค์

ทัณฑ์สวรรค์นี้เต็มไปด้วยพลังที่ไม่ธรรมดา มันจะสร้างภาพลวงตามากมาย ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงต่อดวงจิตแห่งเต๋า

เพียงแค่มองจากที่ไกล ๆ จิตวิญญาณของผู้คนพลันถูกสั่นคลอน บางคนเห็นดอกไม้ล่องลอยลงมาจากสวรรค์ บางคนเห็นนางฟ้านางสวรรค์ร่ายรำ มังกรและเฟิงหวงก่อตัวเป็นฉากมงคลและฉากอื่น ๆ ที่น่าหลงใหลอีกมากมาย

บางคนกลับเห็นปีศาจเต้นรำอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่แผ่นดินยุบตัวลง และฉากอันน่าสยดสยองที่ดูราวกับวันโลกาวินาศ

ในขณะที่บางคนก็ได้เห็นฉากที่หรูหราอย่างบ่อสุราและป่าแห่งเนื้อ

นิมิตทั้งหมดประกอบล้วนด้วยอารมณ์ทั้งเจ็ดและความปรารถนาทั้งหก ได้แก่ โลภ โกรธ หลง ไม่พอใจ เศร้า กลัว และอารมณ์อื่น ๆ ยิ่งกว่านั้น…อารมณ์เหล่านี้ได้รับการพัฒนาจนถึงขีดสุด ถ้าผู้พบเห็นเหตุการณ์นี้เป็นคนธรรมดา ก็อาจจะถูกพรากสติสัมปชัญญะและจมดิ่งลงไปในทันที

แม้ว่าจะเป็นผู้บ่มเพาะ ดวงจิตแห่งเต๋าของพวกเขาก็ยังสั่นคลอน เมื่อเผชิญหน้ากับนิมิตดังกล่าวอย่างกะทันหัน บางคนที่มีพลังอ่อนแอถึงกับสติแตก พวกเขายืนอยู่กับที่และเต้นรำราวกับเป็นบ้าไปแล้ว

หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานจากปราณตีกลับจนถึงแก่ชีวิตอย่างแน่นอน

“หึ!”

ทันใดนั้น เสียงที่ทรงพลังยิ่งกว่าเสียงฟ้าผ่าดังออกมาจากริมฝีปากของเวินหัวถิง ซึ่งเต็มไปด้วยมหาเต๋า ระเบิดก้องใส่หูของทุกคน สั่นสะเทือนศิษย์เหล่านั้นจนพวกเขาต้องพยายามดิ้นรนให้เป็นอิสระจากนิมิตของแว่นฟ้าทัณฑ์สวรรค์ และกลับมามีสติอีกครั้ง

ทันใดนั้น พวกเขาก็มีสีหน้าประหลาดใจและหวาดกลัวอย่างต่อเนื่อง

“ช่างเป็นนิมิตลวงตาที่น่าสะพรึงกลัวอะไรเช่นนี้!”

“ข้าเพียงแค่มองจากที่ไกล ๆ แต่ดวงจิตแห่งเต๋าของข้าก็ยังเกือบจะพังลง ผู้อาวุโสเฉินซีที่อยู่ท่ามกลางพวกมัน ต้องพบนิมิตที่น่ากลัวยิ่งกว่านี้เป็นแน่”

“เฮ้ ดูนั่นเร็วเข้า จนถึงตอนนี้ผู้อาวุโสเฉินซียังไม่เคลื่อนไหวเลย!”

ท่ามกลางการสนทนาพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา พวกเขาก็สังเกตเห็นว่า เฉินซีที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนท้องฟ้า โดยมีแว่นฟ้าทัณฑ์สวรรค์เจ็ดสีสอดประสานและม้วนตัวอยู่เหนือหัว มันมีหลากสีสันและสวยงาม แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สังเกตเห็นมันเลย ร่างกายของเขายังคงนิ่งสนิทตั้งแต่ต้นจนจบ

เป็นไปได้หรือไม่ว่า เขาตั้งใจจะต่อต้านทัณฑ์สวรรค์เช่นนี้? ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ไอรีนโนเวล ขอบคุนจ้า

ก่อนทุกคนจะทันได้ตอบสนอง สายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์ที่มีความยาวพันจั้งได้ฟาดเปรี้ยงลงมา เกลียวสายฟ้าบิดตัวราวกับอสรพิษ ดุจใบมีดคมที่แยกฟ้าออกจากกันฟาดลงมาที่เฉินซี

ครืด!

คลื่นเสียงที่น่าสยดสยองชวนให้หนังศีรษะด้านชาดังขึ้น และพวกเขาก็ได้เห็นร่างของชายหนุ่มถูกห่อหุ้มด้วยสายฟ้างดงามที่ส่งเสียงก้องกังวานนั้น

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือไม่ว่าพลังของสายฟ้าจะรุนแรงเพียงใด ร่างของเฉินซีก็ยังคงมั่นคงดุจหินและไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

ฉากนั้นดูราวกับว่าเฉินซีเป็นเข็มวิเศษที่ปักลงสู่ทะเล ไม่ว่าพายุรุนแรงจะพัดเข้าหาหรือมีคลื่นโหมซัดเข้าใส่มากเพียงใด ชายหนุ่มก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย

“พลังแห่งการทำลายล้าง!”

มีผู้อาวุโสสังเกตเห็นถึงสัญลักษณ์แปลกประหลาดที่บิดเบี้ยวไหลไปทั่วทั้งร่างกายของเฉินซี มันรวมตัวกันเพื่อก่อเป็นรูปแบบที่ทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นสะท้าน

ทันทีที่แว่นฟ้าทัณฑ์สวรรค์ตกกระทบกับร่างกาย มันจะถูกทำลาย แตกสลาย และลบล้างหายไปสู่ความว่างเปล่า ด้วยรูปแบบที่เต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง

ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกมันไม่สามารถทำร้ายเฉินซีได้เลยแม้แต่น้อย!

แต่ในทะเลแห่งจิตสำนึกของเฉินซีกลับเป็นฉากที่แตกต่างกัน

“ซีเอ๋อร์ มานี่เร็วเข้า มาให้ปู่ของเจ้ามองเจ้าชัด ๆ หน่อย” ร่างผอมบางปรากฏขึ้น พร้อมกับใบหน้าผอมซูบและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเมตตา เป็นเฉินเทียนลี่นั่นเอง

เฉินซีมองไปรอบ ๆ และสังเกตเห็นว่าตนกำลังอยู่ในบ้านของตัวเองที่เมืองหมอกสน เครื่องเรือนที่เก่าครำคร่า พู่กันยันต์และแท่นฝนหมึกที่ติดตัวเขาในวัยหนุ่มปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนตรงหน้า

เฉินซีมองไปยังเฉินเทียนลี่ผู้เป็นปู่ของเขาอย่างระมัดระวัง จากนั้นตรวจสอบทุกอย่างในบ้านอย่างละเอียด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้า ความอบอุ่น ความผิดหวัง… มันซับซ้อนมาก

จะดีแค่ไหนถ้าภาพทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง?

น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วทั้งหมดก็เป็นของปลอม!

เมื่อความคิดนี้เกิดขึ้นในใจ เฉินซีก็ฟันกระบี่ของเขาและสังหารเฉินเทียนลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าโดยตรง

ทันใดนั้น ภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ร่างของจั่วชิวเสวี่ยผู้เป็นมารดาปรากฏขึ้น แต่สีหน้าของนางยังคงสดใส ขณะที่นางกัดฟันและตำหนิว่า “เจ้าลูกชั่วช้า! เจ้าก่อบาปร้ายแรงด้วยการฆ่าปู่ของเจ้า รีบปลิดชีวิตตนเองเพื่อชดใช้บาปของเจ้าซะ!”

เฉินซีไม่ได้แยแสนาง และเหวี่ยงกระบี่สังหารอีกครั้ง

หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว เปลวไฟแห่งความโกรธก็พลุ่งพล่านในหัวใจ ทัณฑ์สวรรค์เหล่านี้ไม่น่ารังเกียจเกินไปหน่อยหรือ!? มันกำลังใช้ครอบครัวและสหายของเขาสร้างเป็นนิมิต เพื่อบดขยี้ดวงจิตเต๋าของเขา ช่างสมควรตายจริง ๆ!

เขาไม่ได้ต่อสู้อย่างเฉยเมยอีกต่อไป และริเริ่มที่จะต่อสู้กลับ ชายหนุ่มก้าวออกไปทีละก้าว สังหารเหล่าคนในนิมิตที่มองเห็นครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งหลิงไป๋ ไป๋คุย มู่ขุย วิปลาสหลิ่ว ตู้ชิงซี ชิงซิ่วอี้…

อาจกล่าวได้ว่าตราบใดที่มีร่องรอยของพวกเขาทิ้งไว้ในใจของเฉินซี พวกเขาจะถูกเปลี่ยนเป็นนิมิตด้วยพลังของทัณฑ์สวรรค์ มันตั้งใจจะใช้สิ่งนี้เพื่อค้นหาข้อบกพร่องในดวงจิตแห่งเต๋าของเฉินซี ก่อนจะทำลายจุดอ่อนที่ว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]