บทที่ 919 ยอดราชัน
บทที่ 919 ยอดราชัน
นิกายวิถีกระแสสวรรค์
ณ ยอดเขาสูงเสียดฟ้าแห่งหนึ่ง
ยอดเขานี้มีนามว่ากระแสสวรรค์ มีตำหนักเต๋าโบราณเพียงแห่งเดียว ดูเงียบสงบนัก แต่มีข่าวลือว่าผู้ก่อตั้งนิกายวิถีกระแสสวรรค์อยู่ในยอดเขาแห่งนี้ เขาสร้างนิกายวิถีกระแสสวรรค์ขึ้นมา และทิ้งมรดกวิถีที่มากพอจะทำให้ทั้งสามภพตกตะลึง
ตั้งแต่ปิงซื่อเทียนมายังภพมนุษย์ในฐานะทูตเซียน ยอดเขาแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราว จากจุดนี้ทำให้เข้าใจว่าสถานะของปิงซื่อเทียนในนิกายวิถีกระแสสวรรค์ตอนนี้สูงส่งมากแค่ไหน
เมื่อปิงซื่อเทียนกล่าวลาประมุขนิกายลู่เป๋ยอวี่ จนกลับมาที่ยอดเขากระแสสวรรค์ เขาพลันหยุดอยู่หน้าตำหนัก ขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่ง
“กลับไปบอกผู้เป็นนายของเจ้าเสีย หากเกิดเหตุผิดพลาดใดขึ้น และเขาไม่ยอมทำตามที่ข้าสั่ง ก็อย่าโทษข้าที่ไปเยือนถึงถิ่น แล้วทำลายทุกสิ่งที่เขามีเสียล่ะ”
ผ่านไปสักพักใหญ่ ปิงซื่อเทียนก็ได้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับกำลังพูดกับตัวเอง
แต่ทันทีที่สิ้นเสียง เงาตรงหน้าตำหนักและระลอกคลื่นว่างเปล่าพลันปรากฏขึ้นมา มันถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ บิดเบี้ยวไปมาก่อนจะก่อตัวเป็นร่างเพรียวบาง
ชายผู้นี้ใบหน้ายาวแคบ ร่างผอมแห้ง ดูเหมือนคนมีปัญหา ดวงตาคู่นั้นมีขนาดใหญ่ราวกับระฆังทองแดง มีประกายเย็นชาที่ดูแปลกประหลาดฉายอยู่ภายในนั้น
ใบหน้าของคนผู้นี้ซีดเผือด ริมฝีปากถูกย้อมไปด้วยสีแดงเข้ม ราวกับคราบที่ติดมาจากการดื่มโลหิต
ทันทีที่ปรากฏตัว อีกฝ่ายยิ้มชั่วร้ายแล้วกล่าวว่า “เอาเถอะ ใต้เท้าปิงไม่ต้องห่วงไป สิ่งที่ท่านสั่ง นายข้าย่อมทำตามอย่างไม่เกียจคร้านอย่างแน่นอน”
“ยังเหลือเวลาสามสิบปี เจ้ากลับไปได้ และบอกนายเจ้าด้วยว่า ถึงเวลาใช้งาน ‘เข็มทิศปรโลก’ แล้ว” ปิงซื่อเทียนพยักหน้า ให้คำแนะนำเล็กน้อย ก่อนจะเข้าสู่ตำหนักเต๋า
“ใต้เท้าปิงโปรดรอสักครู่”
ชายแปลกประหลาดร่างผอมคล้ายกับวิตกเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยถามว่า “เข็มทิศปรโลกมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทันทีที่ใช้งาน มันจะรบกวนเต๋าแห่งสวรรค์ เหตุใดไม่รอให้ถึงวันนั้นก่อนเล่า แล้วค่อยเปิดใช้?”
ปิงซื่อเทียนหยุดนิ่ง หันศีรษะช้า ๆ สายตาจ้องชายแปลกประหลาดร่างผอมด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แล้วเขาก็ถามกลับว่า “เจ้าไม่เชื่อฟังข้าอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่กล้า ๆ” ชายแปลกประหลาดร่างผอมสั่นสะท้าน ส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว
“เช่นนั้นจงทำตามที่ข้าบอก!” ปิงซื่อเทียนกล่าวอย่างเย็นชา ร่างสูงก้าวเข้าไปในตำหนัก ไม่ช้าก็หายไป
ชายแปลกประหลาดร่างผอมตกตะลึงสักพักใหญ่ จากนั้นตีหน้าบึ้งด้วยความไม่พอใจ
‘การรบกวนเต๋าแห่งสวรรค์เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยหรือ? แหม ๆ ท่านเซียนทองคำ ช่างเป็นผู้เตรียมพร้อมในทุกความเป็นไปได้เสียจริง…’
เขาพึมพำไม่กี่คำอยู่ในใจ ก่อนที่ร่างจะค่อย ๆ จางหาย ตัวคนราวอยู่ระหว่างจริงและเท็จ จากนั้นจึงหายไปโดยไม่เหลือร่องรอยใด
ภายในตำหนักมืดสนิท ไร้ซึ่งแสงสว่าง
ปิงซื่อเทียนนั่งขัดสมาธิ สีหน้าราวกับรูปปั้นพุทธองค์ สงบ เฉยชา ไม่มีความผันผวนอารมณ์แต่อย่างใด
เขาชอบความมืดเช่นนี้
เหมือนกับที่เขาชอบกลิ่นสดชื่นที่แผ่ออกมาจากร่างของชิงซิ่วอี้!
ไม่มีใครล่วงรู้ว่าเขาทุ่มความพยายามกับการบ่มเพาะมากแค่ไหน จึงจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ได้ ไม่มีใครล่วงรู้ ว่าเหตุผลที่เขามีชีวิตอย่างองอาจได้ เบื้องหลังกลับต้องแลกมาด้วยความยากลำบากเพียงใด!
ดังนั้นเขาจะไม่ดูถูกคู่ต่อสู้ แม้อีกฝ่ายจะเป็นมดเล็กจ้อยก็ตามที
“ศิษย์น้องลู่พูดถูก แต่เขาพูดผิดไปเรื่องหนึ่ง หากความคิดของซิ่วอี้ถูกผู้อื่นชักจูงได้ นางย่อมไม่ใช่คนโปรดของข้าหรอก”
“ดังนั้นข้าจึงทำได้เพียงเตรียมการไว้ล่วงหน้า…”
ในความมืดอันลึกล้ำ ปิงซื่อเทียนหลับตาช้า ๆ ราวกับกำลังหลอมรวมกับความมืด ร่างกายไม่มีร่องรอยของกลิ่นอายอีกต่อไป
…
“ซิ่วอี้ หลังจากผ่านมาหลายปี เจ้ายังตัดใจไม่ได้อีกหรือ?”
“อาจารย์ นี่คือเรื่องระหว่างข้ากับศิษย์น้องปิง ข้าต้องจัดการให้ดี”
“เช่นนั้นเจ้าให้สัญญาได้หรือไม่ว่าจะกลายเป็นคู่บำเพ็ญกับซื่อเทียน? ข้าไม่สนใจเรื่องอื่นหรอก แต่เจ้าควรให้คำตอบข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ใช่หรือไม่?”
ทางด้านหลังเขาของนิกายวิถีกระแสสวรรค์ ในหุบเขาสดใสงามสง่า ต้นไม้ใบหญ้าในหุบเขาอุดมสมบูรณ์ หมู่เมฆเซียนกระจัดกระจาย ราวกับดินแดนเซียน
ชิงซิ่วอี้ในชุดเรียบง่ายหยุดอยู่ที่ลำธารใสในหุบเขา เส้นผมราวกับน้ำตก คิ้วดุจภาพวาดและสายตาพร่ามัวในหมอกเซียนหนาแน่น ทำให้รูปลักษณ์ของนางดูไร้ตัวตนมากขึ้น
ฝั่งตรงข้ามนางคือหญิงงามวัยกลางคน มีปิ่นปักผมตรงขมับ รูปลักษณ์สง่างาม ดวงตาวิหคเพลิงคู่นั้นเรียวเฉียงดั่งกระบี่ ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความเข้มงวดและเฉียบคม
นามของสตรีวัยกลางคนผู้นี้คืออวี้เจิน นางเป็นผู้อาวุโสที่เก็บตนบ่มเพาะอยู่ในนิกายวิถีกระแสสวรรค์ ในเวลาเดียวกัน นางยังเป็นอาจารย์ของชิงซิ่วอี้เช่นกัน
เมื่อเห็นว่าชิงซิ่วอี้ยังคงเงียบ อวี้เจินพลันขมวดคิ้ว ความไม่ยินดีฉายผ่านดวงตา ก่อนจะถอนหายใจออกมาทันที “ซิ่วอี้ ตอนเจ้ายังเป็นเด็ก เจ้าถูกทิ้งไว้ข้างนอกนิกายวิถีกระแสสวรรค์ ข้าพาเจ้าเข้ามากับมือ คอยสอนสั่งเคล็ดวิชาต่าง ๆ ชี้แนะการบ่มเพาะ ในใจของข้านับเจ้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเสมอ”
หลังจากนิ่งไป นางก็เงยหน้ามองหญิงสาว เผยสีหน้าซับซ้อนแล้วกล่าวว่า “อีกายังรู้ว่าต้องตอบแทนคุณอย่างไร เจ้าทำเช่นนี้ มันยิ่งทำให้ข้ารู้สึกถึงความเย็นชาเข้าไปใหญ่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...