บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 991

บทที่ 991 สถานการณ์พลิกผัน

บทที่ 991 สถานการณ์พลิกผัน

ราชาฉู่เจียงเข้าโจมตี แค่ท่าซัดคราเดียวก็เร็วกว่าสายฟ้าแลบ!

ภายในใจเฉินซีในตอนนั้นไร้ซึ่งความหวาดกลัว มีเพียงแววเยาะเย้ยตนเองเท่านั้น ‘หลังจากใส่ไปเต็มกำลังแล้ว พลังบ่มเพาะของข้าก็ยังอ่อนแอเกินไป สุดท้ายแล้วก็ไม่มีทางเลือกต้องพึ่งพลังจากหม้อจิ๋วอยู่ดี…’

ใช่แล้ว! ตอนที่ราชาฉู่เจียงเกิดจิตสังหาร หม้อใบจิ๋วก็ตื่นขึ้นจากความเงียบงันและตัดสินใจลงมือทันที

แต่ความรู้สึกของการถูกช่วยไว้เช่นนี้ทำให้เฉินซีเสียกำลังใจเล็กน้อย

เขาสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระและอยู่เหนือผู้อื่นในภพมนุษย์แล้วอย่างไร?

เหนือกว่าใครในขอบเขตเซียนปฐพีแล้วอย่างไร?

สุดท้ายก็ยังด้อยกว่าเซียนสวรรค์พวกนั้นอยู่ดี!

เรื่องเหล่านี้ทำให้เฉินซีรู้สึกไร้พลังและท้อแท้เล็กน้อย ซึ่งมันได้กลายเป็นความรู้สึกที่กระตุ้นให้ชายหนุ่มต้องทะลวงขอบเขตเซียนสวรรค์ และไขว่คว้าหาพลังที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมให้ได้

เขารู้มานานแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นปราณวิญญาณ ปราณแท้ ปราณเซียน พลังดวงใจ พลังกาย หรือพลังต่อสู้ ทุกอย่างในฟ้าดินนี้ก็สรุปรวมได้เป็นหนึ่งคำเดียว นั่นก็คือความแข็งแกร่ง!

มีแต่การไขว่คว้าหาความแข็งแกร่งมาได้เท่านั้นจึงจะสามารถยืนหยัดและขีดเส้นโชคชะตาของตนเองได้!

แม้จะใช้คำอธิบายฟังดูยืดยาว แต่มันเป็นจังหวะเพียงชั่วครู่หนึ่งเท่านั้น เมื่อฝ่ามือใหญ่ของราชาฉู่เจียงปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเฉินซี กระแสพลังผันผวนอันน่าเกรงขามปรากฏขึ้นตามมา ก่อนจะระเบิดมือนั่นทันที!

เฉินซีชะงักไป เขารู้อยู่แล้วว่าตนเองต้องรอดจากการโจมตีเมื่อครู่ แต่เขาไม่คิดเลยว่าผู้มาช่วยเหลือจะไม่ใช่หม้อใบจิ๋ว แต่เป็นคนอื่น!

นับเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงทีเดียว

ทว่าราชาฉู่เจียงเหมือนรู้อยู่แล้ว หลังจากซัดการโจมตีนี้ออกไป เขาก็ย้ายร่างอย่างลื่นไหลคล้ายสายน้ำกลับไปยังจุดที่เคยยืนด้วยท่าทีไม่รีบร้อน จากนั้นเงยหน้ากล่าวขึ้นว่า “ในที่สุดก็ลงมือแล้วสินะ?”

มันเป็นน้ำเสียงที่นิ่งสงบ แต่มีแววเยาะเย้ยอยู่ในที

เฉินซีจึงเงยหน้าขึ้นมองบ้าง เห็นเงาร่างสูงส่งปรากฏขึ้นบนหน้าผา เป็นชายชราร่างผอมราวกับปล้องไผ่ เขาอยู่ในชุดสีดำ มีใบหน้าเย็นชาดั่งน้ำแข็ง มีกลิ่นอายโบราณหนาแน่น แต่ก็เจือแววความเป็นตัวเองอันน่าเกรงขามเอาไว้ด้วย

มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลก ฉีซานเหอ!

ชายหนุ่มต้องชะงักอีกครั้งเมื่อรับรู้ถึงตัวตนของคนผู้นี้ เขานึกถึงครั้งแรกที่ได้เจอกันขึ้นมาก็เป็นต้องตกใจสุดขีด หรือเขาจะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรก็จะเกิดเรื่องนี้ขึ้น?

เฉินซีจำได้อย่างแม่นยำว่ามหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกไม่ได้เพียงติดตามเขาจากเรื่องที่สังหารศิษย์โถงน้ำพุยมโลกในวันนั้นเพียงอย่างเดียว ทว่าอีกฝ่ายยังมอบตราคำสั่งให้เขาด้วย แล้วยังกล่าวอีกว่าหากถึงคราวคับขันจะช่วยชีวิตเฉินซีได้…

ตอนนี้จู่ ๆ มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกก็ปรากฏตัวมาช่วยในจังหวะเป็นตายเช่นนี้ ส่งผลให้เฉินซีสงสัยว่าการกระทำทุกอย่างของตน คงไม่อาจรอดพ้นสายตามหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกไปได้เลย!

“เจ้าจะสังหารเขาไม่ได้” ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกก็เอ่ยออกมาประโยคหนึ่ง แสดงจุดยืนของตนอย่างชัดเจน

“อ้อ? เพราะเขาเป็นผู้สืบทอดของจักรพรรดิยมโลกอย่างนั้นหรือ?” ราชาฉู่เจียงเอ่ยเสียงเฉื่อย “รู้หรือไม่ว่าปกป้องเขาแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”

“หากเจ้าไม่บอกผู้อื่น ใต้หล้านี้ก็ไม่มีทางรู้” แม้จะเป็นน้ำเสียงที่เรียบเฉย แต่ทุกคำก็มีพลังเสียดแทงไปถึงดวงใจ นับว่ามีพละกำลังเท่าเทียมกันกับราชาฉู่เจียงเลยทีเดียว!

เป็นที่รับรู้แล้วว่าอย่างน้อยเขาก็มีพลังบ่มเพาะอยู่ขอบเขตเซียนทองคำแล้ว

เมื่อรู้เช่นนี้แล้วเฉินซีจึงถอนหายใจโล่งอก เป็นเช่นนี้ก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องเปิดเผยหม้อใบจิ๋วและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ชั่วคราว

“จะให้ราชาเช่นข้าไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ก็เป็นไปได้ และข้าจะตอบตกลงทันทีหากเจ้าส่งมอบอำนาจภูมิภาคน้ำพุยมโลกมาให้ข้า” ราชาฉู่เจียงหัวเราะ

มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกขมวดคิ้วก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “หากเจ้าตัดขาดจากภพเซียนได้ เช่นนั้นจะเอาอำนาจเหนือภูมิภาคน้ำพุยมโลกก็เอาไปเถิด ข้าจะไม่ขมวดคิ้วใส่เลย”

สุดยอดตัวตนอันทรงพลังทั้งสองแห่งยมโลกกำลังเผชิญหน้ากัน เหมือนทำข้อตกลงบางอย่างกันอยู่ แต่แท้จริงแล้วไม่ได้เต็มใจจะยินยอมให้อีกฝ่ายเลยสักนิด

เฉินซีเหมือนเป็นผู้รับชมวงใน ทว่าไม่อาจเข้าไปแทรกกลางระหว่างบทสนทนาได้เลย ความรู้สึกเหมือนถูกขีดให้เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์เลยสักนิด

“สุดท้ายแล้ว เจ้ามหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกก็ไม่ยอมรามืออยู่ดี หรือว่าหลายปีที่ผ่านมานี้เจ้าต้องการให้ยมโลกกลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อน ไล่กองกำลังจากภพเซียนกับภพพุทธองค์จากยมโลกอย่างนั้นสินะ” แววเยาะเย้ยบนใบหน้าราชาฉู่เจียงยิ่งฉายชัด ก่อนจะชี้ไปทางเฉินซี “ในเมื่อตอนนี้เจ้าได้เห็นสหายน้อยผู้นั้นแล้ว เจ้าคิดว่าตัวเองได้เห็นความหวังงั้นสิ เพราะงั้นก็เลยออกมาปรากฏตัวสินะ?”

มหาจักรพรรดิน้ำพุยมโลกเอ่ยขึ้น “ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามภพ ยมโลกเองไม่เคยเป็นถิ่นที่มีใครกล้าล่วงเกินมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นภพเซียนหรือภพพุทธองค์ หากใครได้เข้ามาครองยมโลกก็นับเป็นคราวเคราะห์ของทุกสิ่งมีชีวิตในสามภพ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]