บทที่ 1054 คนไร้หัวใจ
“พวกเราก็กำลังจะออกเดินทางกลับเมืองหลวงแล้วไม่ใช่หรือ? รอกลับถึงเมืองหลวงก็แต่งงานได้เลย ต่อให้ข้ามีความกล้าร้อยเท่าพันเท่าก็ไม่กล้าทำให้เซียวหลานกับเชียนอิ่งผิดหวัง”
“อีกอย่าง ถึงจะต้องรีบแต่งงาน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเกินไปกระมัง? ราวกับอยากจะติดปีกบินกลับไปเสียเดี๋ยวนี้?”
“ฮ่ะ ๆๆ ด้วยความเร็วในการเดินทางของกองทัพใหญ่ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนกว่าจะถึงเมืองหลวงต้าเหลียง หากระหว่างทางมีเรื่องทำให้ล่าช้าก็อาจต้องใช้เวลาถึงสามเดือน”
เดิมเสิ่นชิงฉือก็เป็นห่วงน้องสาวทั้งสองคน จนอยากจะบินกลับแคว้นต้าเหลียงเสียตอนนี้แล้วจริง ๆ
พอได้ยินคำพูดของฉินเฟิงเช่นนี้จึงระเบิดอารมณ์ออกมา
“อะไรนะ?!”
“สามเดือน? ถึงตอนนั้นเจ้าก็ได้เป็นบิดาแล้ว!”
“ไยเจ้าไม่ใส่ใจอะไรเลย? หรือเจ้าอยากจะทำให้ข้าโมโหตาย?!”
มือซ้ายเสิ่นชิงฉือดึงหูฉินเฟิง ส่วนมือขวาก็ตีหน้าผากเขา จนฉินเฟิงร้องด้วยความเจ็บปวด
แม้จะทำเช่นนั้นแล้ว เสิ่นชิงฉือก็ยังไม่หายโมโห
“อย่าว่าแต่สามเดือน แม้แต่หนึ่งเดือนก็ไม่ได้!”
“เจ้าช่างไร้หัวใจ และไร้ยางอายเสียจริง จะให้น้องหญิงทั้งสองคนของข้าต้องทนรับความอับอายเพราะเจ้าไม่ได้เด็ดขาด”
“อีกไม่กี่เดือนรูปร่างพวกนางก็จะเปลี่ยน แม้แต่คนตาบอดก็จะมองออก เจ้าไม่กลัวคนหัวเราะเยาะก็ช่างเจ้าเถิด เต่เซี่ยวหลานกับเชียนอิ่งจะทำอย่างไร?”
เสิ่นชิงฉือต่อว่าจนฉินเฟิงได้สติขึ้นมา
ช่วงนี้เขายุ่งอยู่กับเรื่องของเป่ยตี๋ ไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องการเดินทางกลับต้าเหลียง ในสายตาของฉินเฟิง ขอเพียงกลับไปอย่างปลอดภัยก็พอแล้ว ส่วนเรื่องท้องก่อนแต่งงานจะเป็นขี้ปากชาวบ้าน เขาไม่ได้ใส่ใจเลย
ปัญหาอยู่ตรงนี้เอง การที่ฉินเฟิงไม่สนใจ ไม่ได้หมายความว่าหลี่เซียวหลานกับจิ่งเชียนอิ่งจะไม่สนใจด้วย
น้องสาวสองไม่สนใจ ไม่ได้หมายความว่าพี่หญิงใหญ่และพี่หญิงรองจะไม่สนใจ
ทุกเรื่องไม่ควรคิดถึงแต่ตัวเอง ควรคำนึงถึงภาพรวมด้วย
ฉินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าหนัก “พี่หญิงใหญ่ ท่านพูดถูกต้อง หากเดินทางไปกับขบวนใหญ่ จะเสียเวลามากไป”
“เซียวหลานเป็นองค์หญิงต้าเหลียง เชียนอิ่งเป็นฮ่องเต้หญิงแห่งเป่ยตี๋ หากพวกนางมีเรื่องเสื่อมเสีย จะไม่ถูกผู้คนนินทาเยาะเย้ยไปตลอดชีวิตหรือ?”
“เอาอย่างนี้เถิด ให้หนิงหู่กับสวีโม่คุมกองกำลังหลักเดินทางกลับต้าเหลียงตามแผนเดิม”
“ส่วนพวกเราจะเดินทางง่าย ๆ เบาตัวและปลอดภัย เร่งไปให้ถึงเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
พอได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเสิ่นชิงฉือก็ดีขึ้น
“ฮึ เจ้ารู้จักใช้สมองเสียที เมื่อครู่ทำข้าโมโหเกือบตายแล้ว”
“ดีละ เจ้ารีบจัดการเถิด ข้าจะไปบอกพวกน้องหญิง”
พอเห็นเสิ่นชิงฉือกำลังจะจะกลับ ฉินเฟิงคว้าข้อมือนางไว้ ปากแย้มยิ้มประจบ
“พี่หญิงใหญ่ มีอีกเรื่องข้าอยากปรึกษาท่านก่อน”
เสิ่นชิงฉือรู้จักฉินเฟิงดี แค่เห็นเขายิ้มก็รู้ว่าต้องคิดไม่ดีแน่
แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อนางเป็นพี่สาวของฉินเฟิง
เสิ่นชิงฉือถามอย่างอดทน”เจ้าต้องการอะไร?”
ฉินเฟิงยิ้มกว้างพลางกล่าวว่า”อย่างไรเสียพวกเราก็ต้องเดินทางกันเอง เรื่องความเร็วไม่ต้องกังวลแล้ว ข้าเลยอยาก…เสียเวลาอีกสักวัน”
“แค่วันเดียวนะ!”
แล้วเสิ่นชิงฉือทำก็ทำหน้าบึ้ง “อย่าบอกข้านะว่าเจ้าจะกลับไปนอนต่อ!”
สัมผัสได้ถึงสายตาอำมหิตของเสิ่นชิงฉือ ฉินเฟิงส่ายหน้าราวกับกลองป๋องแป๋ง แล้วรีบอธิบาย “ถึงจะแยกเดินทาง แต่คนของพวกเราก็ยังมีมากนัก”
“สตรีห้าคน ข้าอีกหนึ่งคน แล้วยังมีบ่าวไพร่ ญาติพี่น้อง ไหนจะองครักษ์ค่ายเทียนจีที่ต้องติดตามคุ้มกัน อย่างน้อยก็มีร้อยคนแล้ว”
“ข้าไม่อยากแยกกับเซียวหลานและเชียนอิ่ง”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ